10ปีมีหน‘ดอกบุกยักษ์’เบ่งบาน ฉลองสวนนงนุชเปิดรับนักท่องเที่ยว
10ปีมีหน‘ดอกบุกยักษ์’เบ่งบาน – ดอกบุกยักษ์ หรือ ดอก Titan Arum ชื่อเสียงโด่งดังทั้งเรื่องขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและกลิ่นเหม็นตลบ จนได้ฉายาว่า ดอกซากศพ เบ่งบานอยู่ใน สวนนงนุช เมืองพัทยา ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแล้ว
สวนนงนุชนำดอกไม้หายากชนิดนี้เข้ามาปลูกเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2546 ตอนนี้กำลังเบ่งบานแล้ว 1 ต้น วัดความสูงจากโคนต้นถึงยอดสูง 130 ซ.ม. นับเป็นการบานในรอบ 10 ปี สร้างความปลาบปลื้มใจให้ทีมงานที่เฝ้ารอมานาน
นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า ต้นบุกยักษ์นี้นำเข้ามาจากสวนพฤกษศาสตร์ โบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย และทดลองเพาะพันธุ์ไว้ 130 ต้น เป็นสายพันธุ์ถิ่นกำเนิดเพียงแห่งเดียวในโลก ในป่าดิบชื้นล่าง เกาะสุมาตราตอนกลาง ลักษณะพิเศษของมันคือเมื่อเบ่งบานจะส่งกลิ่นเน่าเหม็นรุนแรงคล้ายกลิ่นซากศพ
“ดอกที่จัดแสดงอยู่นี้นับเป็นดอกที่ 8 ที่บานในสวนนงนุชพัทยา และเป็นดอกที่ 2 ของปี 2563 อวดโฉมอยู่บริเวณประตูทางเข้า เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิด ซึ่งหลังจากบานแล้วเพียง 1-2 วัน ดอกของมันจะหุบ และไม่มีโอกาสเบ่งบานอีกเลย” นายกัมพลกล่าว
ดอกบุกยักษ์
ดอกบุกยักษ์ Titan Arum มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Amorphophallus titanum เป็นพืชในเขตป่าร้อนชื้น ตระกูลบัวผุด (Rafflesia) พบมากบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เฉพาะตัวช่อดอกแทงยอด มีความสูง 3 เมตร สร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองจากสัตว์บางชนิด
และส่งกลิ่นคล้ายซากศพเพื่อล่อแมลงบางชนิดให้มาดูดน้ำหวานและผสมเกสร ลักษณะกลีบดอกด้านในเป็นสีแดงปนม่วง ดอกชนิดนี้บานแค่ 2 วัน ก่อนจะเหี่ยวเฉาไปตามธรรมชาติ ซึ่งแต่ละต้นกว่าจะเบ่งบานต้องใช้เวลานานกว่า 10 ปี ถึงจะได้เห็นสักครั้ง
จังหวะที่ดอกบุกยักษ์เพิ่งมาบานตอนนี้นับว่าเป็นฤกษ์งามยามดีที่สวนนงนุชกลับมาเปิดให้บริการการท่องเที่ยว หลังจาก ปิดไปนานช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม
ก่อนสวนนงนุชเปิดอย่างเป็นทางการ วันที่ 30 พ.ค. นายกัมพลพร้อมด้วยผู้บริหารสวนนงนุชพัทยา ร่วมกันประกอบพิธีอัญเชิญ “ธงมนตรา” จากประเทศภูฏาน จำนวน 9 ผืน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนแห่งความโชคดี ขึ้นสู่ยอดเสา เพื่อความเป็นสิริมงคล
สำหรับธงมนตราเป็นสัญลักษณ์เสมือน ม้าสายลมที่เสริมสร้างกำลังใจ อีกทั้งจะนำพาความโชคดีและอัญมณี ที่สมหวังแห่งความปรารถนา การบรรลุของทุกสรรพสัตว์ ในส่วนของมุมธงทั้งสี่มุมประกอบไปด้วยเกียรติทั้งสี่ ได้แก่ ครุฑความรู้ มังกรความมีเมตตา สิงโตหิมะความกล้า และเสือความเชื่อมั่น
สวนนงนุช
การกลับมาเปิดสวนนงนุชครั้งนี้ปรับเปลี่ยนเป็น New Normal New Nongnooch Garden (นิว นอร์มอล นิว สวนนงนุช) เพื่อเปิดให้ชาวชลบุรีได้เที่ยวชมสวนนงนุชฟรี ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. ไปตลอดเดือนมิถุนายน 2563 รวมเป็นระยะเวลา 1 เดือน เพื่อสนับสนุนโครงการไทยเที่ยวไทย และเหมาะกับการเดินทางไปกลับได้ภายใน 1 วัน
นิว นอร์มอลของสวนนงนุช กำหนดตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ไว้อย่างเข้มข้น 11 ข้อ ให้กับนักท่องเที่ยว ประกอบด้วย
1.การตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจล สวมหน้ากากอนามัย 2.เดินผ่านอุโมงค์ฆ่าเชื้อ 3.ทำประวัติลูกค้า 4.เว้นระยะห่าง
5.จัดใช้ประตูเข้า–ออกทางเดียว 6.เน้นรับค่าบริการด้วยการโอนเงิน 7.มีจุดแอลกอฮอล์กระจายทั่วพื้นที่ 8.จัดเตรียมอ่างล้างมือตามจุดในสวน 9.แยกถุงขยะชัดเจน 10.พนักงานทำความสะอาดทุกที่ทุก 2 ช.ม. และ 11.การตรวจวัดอุณหภูมิและ ล้างมือพนักงานก่อนทำหน้าที่ทุกคน
มาตรการทั้งหมดนี้จะสร้างความอุ่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวสวนนงนุชพัทยาได้รับความรู้สึกถึงความปลอดภัย เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะอุโมงค์ฆ่าเชื้อ เป็นนวัตกรรมที่คนไทยคิดออกแบบและทำขึ้นมาใช้ที่สวนนงนุชพัทยาเป็นแห่งแรก ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสที่ได้มาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น ฆ่าเชื้อได้ 99.9% และปลอดภัยต่อร่างกายทั้งเด็กและผู้ใหญ่
โดย นิราช ทิพย์ศรี
