“วงค์ ตาวัน”
ข่าวคราวน่าหวาดกลัว ภัยร้ายแรงทางธรรมชาติเกิดขึ้นมากมายหลายพื้นที่ และหลายลักษณะ เขย่าขวัญไปทั่วโลก เฉพาะในบ้านเราหรือที่เกี่ยวเนื่องกับคนไทยเรามีหลายเหตุการณ์ เป็นข่าวใหญ่ในช่วงระยะนี้
เริ่มจากกรณี 13 ชีวิตทีมบอลหมูป่า เมื่อปลายเดือนมิถุนายน ซึ่งต้องประสบเหตุน้ำท่วมทะลักภายในถ้ำอย่างกะทันหัน จนต้องหนีเตลิดและติดอยู่ภายในถ้ำยาวนาน
นำมาสู่ปฏิบัติการช่วยเหลือ ที่ระดมมาจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก
รวมทั้งเป็นบทเรียนให้กับกรมอุทยานแห่งชาติฯ ในการกำหนดช่วงเวลาในการป้องกันไม่ให้คนเข้าไปเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติในฤดูฝน ในปีต่อไปต้องละเอียดมากกว่านี้
ตามสภาพฝนฟ้าที่ไม่ตกตามฤดูกาลปกติอีกแล้ว!
ถัดมายังมีเหตุการณ์เรือท่องเที่ยวโดนคลื่นมหึมาจมกลางทะเลที่ภูเก็ต สูญเสียชีวิตนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมาก
เป็นเครื่องย้ำเตือนเรื่องการควบคุมการท่องเที่ยวทางทะเลในหน้ามรสุมอีกครั้ง
ขณะที่เมื่อไม่กี่วันก่อน เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่อินโดนีเซีย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวไทยหลายร้อย ต้องหนีกันระทึกระหว่างเที่ยวอยู่กลางภูเขา
ที่ร้ายแรงล่าสุด เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่กับพี่น้องชาวลาว เพื่อนบ้านของเรา กรณีเขื่อนแตก ทำให้น้ำโถมถล่มจมทั้งเมือง ส่งผลเสียหายร้ายแรงทั้งต่อชีวิตประชาชนจำนวนมาก และยังมีสูญหายอีกไม่น้อย
หน่วยกู้ภัยของไทยเรา ต้องข้ามโขงไปร่วมช่วยเหลือ
เหตุการณ์ร้ายแรงยังยืดเยื้อจนบัดนี้
ความเสียหายยังแผ่กว้าง บ้านอยู่อาศัยพังพินาศ จมอยู่กลางทะเลโคลน พร้อมกับต้นไม้ต้นใหญ่ๆที่ถูกน้ำซัดขุดรากถอนโคน ไหลทะลวงเข้าไปอยู่กลางบ้านเรือน
สีเขียวของเรือกสวนไร่นา ถูกปกคลุมด้วยสีโคลนสุด ลูกหูลูกตา
เขื่อนแตกนับว่าสร้างความพินาศวอดวายได้อย่างน่ากลัวจริงๆ!!
ขณะที่ในบ้านเราเต็มไปด้วยเขื่อนมากมาย คนไทยเราก็อดมีคำถามไม่ได้ว่า มาตรฐานความปลอดภัยที่เชื่อถือได้มาตลอดนั้น
ยังคงมีมาตรฐานสูงอยู่ใช่หรือไม่
อีกทั้งสภาพแปรปรวนของโลกใบนี้ ได้นำมาซึ่งสภาพปัญหาทางธรรมชาติใหม่ๆ ที่ไทยเราก็ต้องศึกษาเรียนรู้ให้ดี
ต้องนำมาสู่มาตรการใหม่ๆ ในการดูแลความปลอดภัยของเขื่อนต่างๆด้วย
ทั้งอดไม่ได้ต้องคิดถึงเหตุการณ์น้ำถล่มจมเมืองสกลนครครั้งรุนแรง เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
นั่นก็มาจากคันอ่างเก็บน้ำแตกมิใช่หรือ!?
ทั้งเขื่อนใหญ่ เขื่อนเล็ก เขื่อนดิน อ่างเก็บน้ำในบ้านเมืองเราก็มีมากมาย
ความไม่ประมาทเป็นสิ่งสำคัญสุดต่อชีวิตประชาชน!