ในโลกของการทำงานทุกวันนี้ไม่ได้ตีกรอบเวลาแค่ 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็นแค่นั้น เพราะการติดต่อสื่อสารที่ย่อโลกลงมา ทำให้เราสามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา นอกจากนี้หลายคนมีกิจกรรมหรืออาชีพเสริมที่ทำหลังเลิกจากงานประจำอีกด้วย แม้ว่าหัวใจพร้อมที่จะลุยงานเต็มที่แต่หลายครั้งที่มักเกิดอาการเบลอสมองตื้อๆ ความคิดไม่ปิ๊งเหมือนเมื่อก่อน นึกอะไรก็ช้ากว่าเดิมหรือจำอะไรไม่ค่อยจะได้ พอสมองเริ่มล้าเราคงมีประสบการณ์ที่ลืมเรื่องใกล้ตัว เช่น ลืมเบอร์โทรศัพท์ตัวเอง หรือลืมว่าจอดรถชั้นไหน ที่ไหนมาแล้ว หลายคนจึงมักด่วนสรุปเอาเองว่าเกิดจากวัยที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นเรื่องปกติ สมองและร่างกายเรายังไหว แต่จริงๆ แล้วสัญญาณเตือนเริ่มต้นเหล่านี้กำลังฟ้องเราว่า ร่างกายและสมองอ่อนล้าต้องการการดูแลที่มากขึ้น

รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต แนะนำว่า ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพโดยเฉพาะ “สมอง” ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องใช้งานอยู่ทุกวัน เพื่อให้ทำงานได้ดีอยู่เสมอสมกับเป็นสมาร์ทเบรน

คุณรู้หรือไม่ว่าอาการ มึน เบลอ คิดไม่ออก ส่วนหนึ่งเกิดมาจากการที่สมองส่วนหน้าที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการคิด ความจำ ได้รับอาหารซึ่งคือกลูโคสและออกซิเจนไปเลี้ยงไม่เพียงพอ เพราะแม้ว่าสมองมีน้ำหนักน้อยนิดเพียง 2% ของร่างกายแต่สมองต้องการออกซิเจนไปเลี้ยงถึง 20% ของปริมาณที่เราหายใจเข้าไป หากเราทำงานใช้ความคิดมากๆ สมองยิ่งต้องการออกซิเจนมากขึ้น การได้รับอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอจะทำให้สมองเกิดความเหนื่อยล้า ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง การจะเริ่มหันมาดูแลสมองไม่ใช่เรื่องยาก แค่เลือกรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสมองและ ฝึกวิธีที่จะฟิตสมองซึ่งทำง่ายๆ ได้ทุกวัน

  • อาหารบำรุงสมอง สารอาหารที่ช่วยลดความอ่อนล้าและคืนพลังให้กับสมองให้สามารถสู้การเรียน หรือการทำงานอันแสนเคร่งเครียดได้ กลุ่มที่รู้จักกันดี เช่น วิตามินบีรวม ซึ่งได้จากข้าวซ้อมมือ ยีสต์ หรือธัญพืชที่ไม่ได้ขัดสี ซึ่งถือว่ามีประโยชน์ต่อระบบประสาทและความจำ และยังมีอาหารฟังก์ชั่น เช่น โสมที่ช่วยเพิ่มการหมุนเวียนให้เลือดนำอาหารไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้นและซุปไก่สกัด ที่มีผลการวิจัยถึงประโยชน์ด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ศ.นพ.โคกะ โยชิฮิโกะ จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคียวริน ประเทศญี่ปุ่นพบว่าการดื่ม ซุปไก่สกัด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง เนื่องจากประกอบด้วยกรดอะมิโนและสารไดเปปไทด์ที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันทีและมีสาร “ไบโอ-อะมิโน เปปไทด์ คอมเพล็กซ์” ที่ช่วยให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองโดยเฉพาะส่วนหน้าซึ่งเกี่ยวข้องกับความจำ การคิดตัดสินใจได้ดีขึ้น นอกจากอาหารแล้ววิธีที่จะ ฝึกสมองฟิตก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน และทำได้ง่ายๆ เริ่มที่ตัวเรา
  • ท้าตัวเองให้ลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำ เริ่มจากกิจวัตรประจำวัน เช่น กินข้าว เขียนหนังสือ การแปรงฟัน จากมือขวาเปลี่ยนมาใช้มือซ้ายบ้าง จะช่วยให้เซลล์สมองได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และยังทำให้สมองส่วนต่างๆ เกิดการตื่นตัวอยู่เสมอและยังช่วยพัฒนาหน่วยความจำในสมองให้เพิ่มขึ้นด้วย อาจหากิจกรรมที่ช่วยเสริมให้เรามีทักษะใหม่ๆ อยู่เสมอ เช่น เรียนภาษาใหม่เพิ่มเติม เรียนเต้น เรียนทำอาหาร เรียนขับโดรน ซึ่งการเรียนรู้สิ่งใหม่เป็นการกระตุ้นความคิดจะทำให้ส่วนต่างๆ ของสมองได้เชื่อมต่อหรือส่งสัญญาณหากัน ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
  • ออกกำลังกายเพียงครั้งละ 30 นาที จะส่งผลดีต่อฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการทำงานสำหรับสมอง เช่น ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์สมองได้ นอกจากนี้เวลาที่เราออกกำลังกายหัวใจจะได้สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมองได้ดี รวมทั้งช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนไปยังสมองมากขึ้น ส่งผลเรื่องของการช่วยสร้างเซลล์สมองใหม่ และช่วยเรื่องความจำให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ควรหาเวลาผ่อนคลายความตึงเครียดด้วยการนั่งสมาธิ สวดมนต์ควบคู่กันไป และอย่าโหมงานหนักมากเกินไปจนไม่มีเวลาพักผ่อน แค่นี้คุณก็สามารถดูแลให้สมองฟิต เพิ่มพลังความจำได้ดีขึ้นแน่นอน

อ้างอิง

Konagai C., Watanabe H., Abe K., Tsuruoka N., Koga Y. Effects of essence of chicken on cognitive brain function: a near-infrared spectroscopy study. Bioscience, biotechnology, and biochemistry. 2013;77(1): 178-81.

Suttiwan P.; Yuktanandana P.; Ngamake S. Effectiveness of Essence of Chicken on Cognitive Function Improvement: A Randomized Controlled Clinical Trial. Nutrients 2018; 10, 845.

Wongyai S. Pharmacological Effects of Ginsenosides from American Ginseng toward Health. Journal of The Royal Thai Army Nurses. 2012; Vol13No.3.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน