คำสั่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง 17 ผู้ต้องหาในคดีความผิดอั้งยี่และมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม

สำคัญและทรงความหมาย

สำคัญเพราะว่าเป็นคำสั่งของอัยการ “ศาลทหารกรุงเทพ” สำคัญเพราะเป็นคดีอันเนื่องแต่การใช้คำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558

สำคัญยิ่งกว่านั้นเพราะว่าการจับกุมเมื่อเดือนสิงหาคม 2559

หลังสถานการณ์ “ระเบิด”

เป็นระเบิด 11 จุดประสานกันใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนอันรวมถึง หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์

ยังจำได้ไหม

หลังกัมปนาทแห่งระเบิดที่เริ่มจากกระบี่ เรื่อยมาจนถึงหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์

ก็มีการชูประเด็น”พรรคแนวร่วมปฏิวัติประชาธิปไตย”

เป็นการชูจาก “หน่วยเฉพาะกิจ” ฝ่ายข่าวของคสช.อันนำไปสู่การจับกุมครั้งใหญ่ 17 ราย

ทั้งจากพัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช

มายัง นนทบุรี อ่างทอง ไปยัง เชียงราย และ หนองคาย ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และกทม.

อายุน้อยที่สุด 40 กว่าปี

ส่วนใหญ่อายุเข้าหลัก 60 และทะลุไปถึง 70 กว่าปี

เป็นการกวาดล้างจับกุมใหญ่ หลังกัมปนาทแห่งระเบิดเกิดขึ้นไม่นาน

นี่คือผลสะเทือนและความต่อเนื่อง

ความน่าสนใจอยู่ที่เป็นความต่อเนื่องจากกัมปนาทแห่งคาร์บอมบ์ บนเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี

ที่ตอนแรกซัดเข้าใกล้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ

เมื่อกัมปนาทแห่งระเบิดปลิวว่อนในเดือนสิงหาคม 2559 ก็นำไปสู่การรวบนักเคลื่อนไหว”เฒ่า”

ผ่าน”พรรคแนวร่วมปฏิวัติประชาธิปไตย”

เห็นคำว่า “ปฏิวัติประชาธิปไตย”ก็จะรู้สึกคุ้นไปถึง “ทหารประชาธิปไตย”

ผลที่สุด”อัยการศาลทหาร”ก็สั่ง”ไม่ฟ้อง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน