“พระครูสถิตสันตคุณ” หรือที่ชาวบ้านเรียกขานว่า “หลวงพ่อพัว เกสโร” พระเกจิชื่อดังแห่งปักษ์ใต้ เจ้าอาวาสวัด สถิตคีรีรมย์ (วัดเขาราหู) ต.ย่านยาว อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ที่ชาวเมือง สุราษฎร์ให้ความเลื่อมใสศรัทธา และรู้จักชื่อเสียงของท่านเป็นอย่างดี

มีนามเดิมว่า พัว จิตรัตน์ เกิดเมื่อวันพุธที่ 7 ธันวาคม 2419 ที่บ้านบางเดือน ต.บางเดือน อ.พุนพิน (เดิม อ.พุมดวง) จ.สุราษฎร์ธานี

ในวัยเยาว์เมื่ออายุ 13 ปี ศึกษาเล่าเรียนอักขรวิธี ปฐมมาลา ปฐมจินดามุนี (เวลานั้นยังไม่มีโรงเรียนประชาบาล) ในสำนักท่าน อธิการยง เจ้าอาวาสวัดบางเดือนเก่า ต.บางเดือน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

ครั้นอายุ 15 ปี เข้าพิธีบรรพชาที่วัด ท่าโขลง โดยพระอธิการนุ้ย เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นกลับไปศึกษาธรรมวินัย อยู่กับพระอธิการยง วัดบางเดือนเก่า พร้อมกับฝึกหัดเทศน์มหาชาติ

ล่วงเข้าอายุ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดท่าโขลง โดยมีพระอธิการเย็น จันทมุนี วัดบางงอน เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการนุ้ย ประทุมสุวรรณ วัดท่าโขลง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการเพชร อินทสุวรรณ วัดเงิน เป็นพระอนุศาสนาจารย์ ได้รับฉายาว่า เกสโร

เมื่ออุปสมบทแล้วกลับมาจำพรรษาอยู่วัดบางเดือนเก่า ต่อมาท่านมีความคิดที่จะศึกษาพระธรรมเพิ่มขึ้น จึงได้เดินทางเข้าศึกษาที่กรุงเทพฯ พักอาศัยเรียนบาลีอยู่สำนักวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)

การศึกษาของพระพัวดำเนินไปด้วยดี แต่ในที่สุดไม่ได้สมความตั้งใจ กล่าวคือ พอใกล้จะถึงวันเข้าสอบบาลี เกิดอาพาธป่วยไข้อย่างกะทันหัน พออาการดีขึ้นท่านตัดสินใจเดินทางกลับสุราษฎร์ธานีทันที

ท่านตั้งปณิธานศึกษาด้านสมถะกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐาน โดยได้ศึกษากับพระอาจารย์เพชร วัดเงิน ในเบื้องต้น และท่านได้ออกรุกขมูลธุดงค์เพื่อฝึกฝน ก่อนเข้าฝากตัวกับพระอาจารย์รอด วัดโฆสิตาราม

พ.ศ.2446 ล่วงเข้าพรรษา ที่ 2 หลังจากปวารณาออกพรรษาแล้ว ท่านก็กราบลาท่านอาจารย์ออกธุดงค์จาริก เพื่อเดินทางไปนมัสการพระธาตุชเวดากอง กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า

หลังจากการธุดงค์จาริกไปยังที่ต่างๆ ท่านกลับมาจำพรรษาที่วัดจันทรประดิษฐาราม พ.ศ.2459 เจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เห็นถึงศีลาจาริยวัตรอันงดงามตลอดจนอายุกาลพรรษาของท่าน เห็นสมควรที่จะขอแต่งตั้งท่านเป็นพระอุปัชฌาย์

ตลอดเวลาหลวงพ่อพัวได้ดูแลปกครองคณะสงฆ์และอบรมชาวบ้านให้ดำเนินไปในทางอันดีงาม จนล่วงเข้าต้นปี พ.ศ.2508 ท่านอาพาธด้วยโรคชรา โดยก่อนหน้า ท่านประกาศการจัดการเกี่ยวกับสรีรสังขาร ตลอดจนการดำเนินการต่างๆ ไว้ ซึ่งต่างเข้าใจกันว่าท่านคงจะทราบถึงกาลมรณะก่อนหน้าแล้ว

เมื่อวันอาทิตย์วันที่ 31 ม.ค.2508 ตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 2 เวลา 16.05 น. หลวงพ่อพัวมรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 88 พรรษา 68

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน