เมื่อเขตต์เดินไปที่รถ พนักงานเสิร์ฟในห้องอาหารเดินเข้ามาหาแพรนวลแล้วส่งกระดาษโน้ตที่เขียนเลขทะเบียนรถให้แพรนวลดู

“ใช่ทะเบียนรถคุณผู้หญิงมั้ยครับ?”

แพรนวลเห็นทะเบียนรถตัวเองในกระดาษ มีอะไรคะ?”

“คุณผู้หญิงจอดรถซ้อนคัน รบกวนช่วยเลื่อนรถให้หน่อยครับ”

“กุญแจรถอยู่ที่คุณเขตต์..แต่ไม่เป็นไรค่ะ..ฉันมีกุญแจสำรอง เดี๋ยวฉันจัดการให้ค่ะ”

แพรนวลลุกตามพนักงานเสิร์ฟออกไป ศิรินุชรีบหันไปถามภาคกับธีรภพด้วยความสงสัย

“คุณเขตต์มีเซอร์ไพรส์อีกรึเปล่าคะ”

ภาคกับธีรภพส่ายหน้างงๆ ไม่รู้เรื่อง

แพรนวลเดินมาที่รถ แปลกใจที่รถไม่ได้จอดซ้อนคัน แต่กลับเห็นเขตต์เปิดประตูรถฝั่งตรงข้ามคนขับ ก้มมองหาอะไรบางอย่างภายในรถ แพรนวลเปิดประตูรถฝั่งคนขับ เขตต์ตกใจเมื่อเห็นแพรนวล

“แพร”

“ลืมของไว้ในรถเหรอคะ”

เขตต์พยักหน้าหงึกๆ พยายามกลบเกลื่อนสีหน้ากังวลไม่ให้แพรนวลจับได้ แพรนวลยื่นหน้าเข้าไปช่วยเขตต์หาของในรถ แล้วสายตาก็สะดุดเข้ากับวัตถุหนึ่งที่วางซุกไว้ตรงซอกเบาะนั่งข้างคนขับ

แพรนวลหยิบโทรศัพท์มือถือของนาตยาออกมาจากซอกเบาะ เขตต์ตกใจมาก รีบคว้าโทรศัพท์มือถือของนาตยาไปจากมือแพรนวลทันที

“โทรศัพท์ของสุนัยตกอยู่ตรงนี้เอง ผมต้องรีบเอาไปคืน” เขตต์ลุกลี้ลุกลนออกไป

แพรนวลมองกุญแจรถที่เขตต์ลืมไว้บนเบาะข้างคนขับ นึกสงสัย

เขตต์มาที่ห้องพักนาตยา เขาเคาะประตูอยู่ครู่หนึ่ง นาตยาในชุดคลุมอาบน้ำเดินมาเปิดประตู

“นาตกำลังจะอาบน้ำ ไม่คิดว่าคุณเขตต์จะมาเร็วขนาดนี้”

“ผมต้องรีบไป” เขตต์ยื่นโทรศัพท์ให้นาตยา

“เจอแล้วเหรอคะ นาตเครียดแทบตาย กลัวจะส่งงานให้คุณมานพไม่ทัน”

เขตต์เบี่ยงตัวออกจากนาตยา สะดุ้งตกใจเมื่อเห็นแพรนวลมายืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แพรนวลข่มความรู้สึกขมขื่นไว้ในใจ เธอหยิบลิปติกแห่งหนึ่งออกมา

“แพรเจอลิปสติกในรถ แต่เรียกเขตต์ไม่ทัน”

เขตต์กับนาตยาอึ้งๆ เหวอๆ ทำตัวไม่ถูก แพรนวลเอาลิปสติกมายื่นให้นาตยา เขตต์แอบส่งสายตาไม่ให้นาตยายอมรับ

“ไม่ใช่ของฉันค่ะ”

“ฉันยกให้” แพรนวลเสียงเรียบ แฝงความนัย เธอเอาลิปสติกไส่ไว้ในมือนาตยา แล้วหันหลังเดินออกไป

แพรนวลเดินกลับมาที่รถ เขตต์วิ่งตามมาคว้ามือแพรนวลเพื่อรั้งเธอไว้

“แพรฟังผมก่อน”

แพรนวลหันมาเงื้อมือตบหน้าเขตต์สุดแรงจนเขตต์หน้าหัน ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของภาค ธีรภพ ศิรินุช และสุนัยที่เข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี

“แพรต้องการหย่า”

“ผมกับนาตไม่ได้มีอะไรกัน”

“ชีวิตคู่ตั้งอยู่บนความโกหกไม่ได้ แต่คุณก็เลือกที่จะโกหก”

“ผมขอโทษ…”

“กี่ครั้งแล้วที่แพรให้อภัย สุดท้ายเขตต์ก็ทรยศ”

เขตต์เกาะกุมมือแพรนวลไว้ “ผมรักแพรคนเดียว”

“รักของเขตต์คือความเห็นแก่ตัว” แพรนวลสะบัดมือหลุดจากเขตต์ รีบเปิดประตูขึ้นรถและปิดประตูล็อครถทันที

“แพรอย่าทำแบบนี้…ลงมาคุยกันก่อน”

แพรนวลสตาร์ทรถ เขตต์วิ่งไปยืนขวางหน้ารถอย่างไม่รอช้า แพรนวลเหยียบคันเร่งรถเสียงดัง ขู่ให้เขตต์หลบ แต่เขตต์ยังคงยืนอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมหลบทางให้รถ บรรยากาศตึงเครียดมาก ภาคกับธีรภพพยายามเกลี้ยกล่อมเขตต์

“รอให้ใจเย็นแล้วค่อยคุยกันเถอะ

“ผมจะคุยกับแพรให้รู้เรื่องตอนนี้”

“แกจะทำให้ทุกอย่างแย่ลง อย่ายั่วให้แพรโกรธ”

“ผมจะไม่เลิกกับแพร ผมยอมตายถ้าไม่มีแพร!” เขตต์ตะโกนเสียงดัง

แพรนวลเปลี่ยนเกียร์ เหยียบคันเร่งจนมิด ขับรถพุ่งไปข้างหน้าอย่างหมดความอดทน ศิรินุชกรีดร้องด้วยความตกใจ ภาคกับธีรภพกระโดดเข้าไปกระชากตัวเขตต์ออกมาได้อย่างหวุดหวิด เขตต์เสียหลักล้มลงกับพื้น แพรนวลขับรถออกไป เขตต์ตะโกนเรียกแพรนวลอย่างบ้าคลั่ง

“แพร..แพร”

แพรนวลขับรถมาด้วยความเร็วสูงเหมือนใจที่กำลังรุ่มร้อน ก่อนจะค่อยๆ ลดความเร็วลง จนจอดรถตรงข้างทางอย่างนุ่มนวล แพรนวลจับพวงมาลัยรถแน่น นิ่ง เยือกเย็น เงยหน้าขึ้นมองตัวเองในกระจกมองหลัง ไม่มีน้ำตาของความเสียใจปรากฏให้เห็นบนใบหน้าแม้แต่หยดเดียว แววตาของแพรนวลสับสน ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่เสียใจ เมื่อจับได้ว่าเขตต์นอกใจอีกแล้ว แพรนวลผ่อนลมหายใจยาว รู้สึกปลอดโปร่งและโล่งใจอย่างแปลกประหลาด

เมื่อปราณีรู้เรื่องก็ต่อว่าภาคทางโทรศัพท์ด้วยความโกรธ

“คำขอโทษ..ใช้ไม่ได้กับทุกความผิด โดยเฉพาะทำผิดซ้ำๆ”

“ถึงยังไงผมก็ต้องขอโทษคุณน้าแทนเจ้าเขตต์”

“คราวนี้ถ้ายายแพรอยากหย่า ฉันก็จะไม่ห้าม”

ปราณีตัดบท วางสายอย่างหัวเสีย คำแดงกับแหลมทองต่างร้อนใจไปด้วย

“ให้คุณแพรอยู่ในห้องคนเดียวจะดีเหรอคะ”

“ยายแพรเป็นคนมีเหตุผล..ปล่อยให้อยู่กับตัวเองสักพักก็คงดีขึ้น”

แหลมทองมองขึ้นไปบนห้องแพรนวลด้วยความเป็นห่วง

แพรนวลเปลี่ยนชุดเป็นไทเขินของเจ้านางตองริ้วที่เธอใส่ข้ามกาลเวลากลับมา เธอมองตัวเองในกระจกในชุดไทเขินที่ปล่อยผมยาวสลวย นาฬิกาสายสร้อยเงินของหลาวเปิงโดดเด่นสวมอยู่บนคอ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกลั่นทมลอยมาแตะจมูก

แพรนวลเดินตามกลิ่นดอกลั่นทมที่ทวีความหอมชัดเจนมากขึ้น จนก้าวขึ้นมานั่งบนเตียง ซึ่งไม่มีดอกลั่นทมประดับวางบนหมอนหรือบนที่นอนแม้แต่ดอกเดียว แพรนวลลูบเตียงด้วยความแปลกใจ

“กลิ่นดอกลั่นทมออกมาจากเตียงนี้?”

 

เสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งต้องลมดังแว่วมาในความคิด ร่างกายของแพรนวลก็เริ่มร้อนวูบวาบ ใจของเธอหวั่นไหวเต้นแรง สะกดให้แพรนวลทอดตัวนอนหนุนหมอนอันอ่อนนุ่มราวกับต้องมนตร์ ดวงตาของเธอเริ่มริบหรี่ ลวดลายสลักบนแผ่นไม้หัวเตียงหมุนวนพลิ้วพรายทวนเข็มนาฬิกาไปราวกับมีชีวิต พร้อมสติของแพรนวลที่วูบวับดับมืดไปสู่ภวังค์อันล้ำลึก

แพรนวลค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงดอกลั่นทมสีขาวราวกับกำลังลอยอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เธอก้าวลงจากเตียง อึ้งจนพูดไม่ออก เมื่อเห็นรูปภาพสเกตซ์ของเธอในอิริยาบถต่างๆ ถูกตกแต่งไว้จนเต็มห้อง สวยงามมาก แพรนวลเดินดูรูปภาพของเธอแต่ละรูปอย่างตื่นเต้น

“ผมไม่รู้จะไปตามแม่หญิงยังไง ก็เลยใช้ดอกลั่นทมนำทางแม่หญิงกลับมา”

แพรนวลหันมาเจอหลาวเปิงยืนอยู่ข้างหลัง เธอโผเข้ากอดหลาวเปิงด้วยความดีใจ น้ำตารินไหล ในอกของเขา

“แม่หญิงร้องไห้ทำไม”

“ฉันดีใจที่ได้เจอคุณ ดีใจที่คุณไม่เคยลืมฉัน”

“ผมไม่มีวันลืมนางในฝัน..ไม่มีวันลืมผู้หญิงที่ผมวาดรูปเธอทุกครั้งเมื่อคิดถึง”

“เราเจอกันช้าไป”

“เวลาที่เราอยู่ด้วยกันคือปัจจุบัน ไม่มีอดีตหรืออนาคต ไม่มีช้าหรือเร็ว” หลาวเปิงปาดน้ำตาให้แพรนวล

“มีแต่เรา” หลาวเปิงรวบเอวของแพรนวลไว้ในอ้อมแขน ก้มหน้าลงจนชิดผิวหน้าของหญิงสาว ริมฝีปากสัมผัสแผ่วกับผิวแก้มของแพรนวล เปลวเทียนบนโต๊ะหัวเตียงวูบวาบด้วยแรงลมที่พัดเข้ามาจากหน้าต่าง แพรนวลสบตาหลาวเปิง พยายามรั้งใจไม่ให้ปั่นป่วนไปกับปรารถนาอันลึกเร้น หลาวเปิงกระซิบบอก

“บอกให้ผมชื่นใจได้ไหม..ว่าแม่หญิงก็รักผม”

“ฉันไม่คู่ควรกับคุณ”

“หัวใจผมจะเลือกเองว่าใครคู่ควร”

หลาวเปิงจุมพิตนุ่มนวลบนริมฝีปากของแพรนวล ร่างของแพรนวลสั่นสะท้าน ก่อนจะเริ่มอบอุ่นขึ้นด้วยสัมผัสแห่งรอยจูบอันหนักแน่น จนแพรนวลไม่อาจยับยั้งต้านทานหัวใจของเธอและเขาได้อีกต่อไป หลาวเปิงอุ้มแพรนวลไปวางลงบนเตียงที่เต็มไปด้วยดอกลั่นทมอย่างทะนุถนอม แล้วโน้มหน้าเข้าหาระดมจูบครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความรักที่เฝ้ารอคอยมานานแสนนาน แพรนวลใจสั่นรอนๆ

ดังล่องลอยในความฝัน วิญญาณสองดวงกำลังไขว่คว้าหาความอบอุ่นอาทรของกันและกัน รสสัมผัสร้อนรุ่มนุ่มนวลของริมฝีปากหลาวเปิง พาให้หัวใจของแพรนวลอ่อนเปลี้ยคล้อยตาม จนวาบหวามเคล้าประสานไปด้วยความสุขอันเหลือประมาณ มือทั้งสองของแพรนวลเลื่อนมาไขว่คว้าโอบกอดหลาวเปิงไว้แนบแน่น ในที่สุด…หัวใจของหลาวเปิงก็ชนะหัวใจของแพรนวล

“ผมหยุดรักแม่หญิงไม่ได้ หัวใจผมมีแม่หญิงคนเดียว”

“รักคนที่รักเรา ความรักจะอยู่กับเราตลอดไป..ฉันเป็นดอกลั่นทมของคุณค่ะหลาวเปิง”

“ผมจะรักและภักดีกับแม่หญิงตลอดกาล”

หลาวเปิงกอดร่างของแพรนวลด้วยความดีใจและโหยหา ประพรมจูบไปตามแก้มนวลของเธอ แพรนวลหลับตาพริ้ม ปล่อยให้บทเพลงรักข้ามกาลเวลาบรรเลงไปตามท่วงทำนองมนตราอาถรรพ์ กังวานก้องในหัวใจอันเอ่อล้นด้วยความรักของเขาและเธอ

ห้องทำงานเขตต์ในโรงแรม ภาคต่อว่าเขตต์ด้วยความโกรธและผิดหวังในตัวน้องชายเป็นอย่างมาก

“แกรับปากว่าจะไม่นอกใจแพรนวลอีก”

“ผมไม่ได้ตั้งใจ”

“ไม่ตั้งใจแล้วนาตยามาอยู่ที่นี่ได้ไง”

“นาตเสนอตัวเอง เธอรับปากว่าจะไม่วุ่นวายกับแพร”

ภาคโกรธมากต่อยเขตต์เปรี้ยงจนเขตต์หน้าหัน ศิรินุชยืนตะลึงตกใจ ธีรภพรีบเข้าไปห้ามภาค

“ใจเย็นไอ้ภาค”

“ฉันขอร้องน้าปราณีกับแพรให้โอกาสแกแก้ตัว แกก็ทำทุกอย่างพังเพราะไม่รู้จักพอ”

“ผมจะเลิกกับนาต พี่ภาคช่วยผมพูดกับแพรด้วย”

“ฉันเสียคำพูดเพราะแกหลายครั้งแล้ว คราวนี้แก้ปัญหาเอง”

ภาคหันหลังจะเดินออกจากห้อง เขตต์ถลาเข้าไปคุกเข่ากอดขาภาค อ้อนวอนขอร้องพี่ชาย

“ผมสาบานว่าจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหนอีก ผมจะซื่อสัตย์กับแพรคนเดียว”

ภาคมองเขตต์ด้วยความผิดหวังและเอือมระอา เดินหนีไปอย่างไม่สนใจ เขตต์ขาดสติชั่ววูบ ก้มหัวโขกพื้นอย่างบ้าคลั่ง เพราะรู้สึกเหมือนคนกำลังจะสูญเสียทุกอย่าง ทั้งพี่ชายและภรรยาสุดรัก ศิรินุชตกใจ

“คุณเขตต์”

ภาคหันไปเห็น รีบปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อเขตต์ขึ้นมาเต็มแรง เขย่าเพื่อให้ได้สติ

“ทำบ้าอะไรของแก เสียสติไปแล้วเหรอ”

“ผมขาดแพรไม่ได้..ช่วยผมด้วยนะพี่ภาค”

เขตต์หลั่งน้ำตาแห่งความสิ้นหวังและหมดหนทาง ภาคพูดไม่ออก โกรธแต่ก็สงสารน้อง ศิรินุชกับธีรภพเห็นใจภาค ไม่กล้าออกความเห็น

+++++

อ่านย้อนหลัง

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 13

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 12

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 11

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 10

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 9

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 8

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 7

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 6

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 5

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 4

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 3

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 2

บ่วงบรรจถรณ์ ตอนที่ 1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน