เคน ภูภูมิ สะสมไม้ด่างต้นหลักล้าน ทำใจขายไม่ลง
ถ้าพูดถึงนักแสดงที่ชื่นชอบการปลูกไม้ด่าง ทุกคนต้องนึกถึงพระเอกหนุ่ม เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค และนอกจากชื่นชอบแล้ว ยังยึดเป็นอาชีพเสริมทำสวนปลูกไม้ด่างขาย พร้อมสะสมไม้ด่างราคาหลักล้านไว้หลายต้นอีกด้วย
ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับพระเอกหนุ่มถึงเรื่องนี้ ซึ่งเจ้าตัวได้เล่าให้ฟังว่า
“นอกจากร้านอาหารและร้านกาแฟที่เพิ่งได้เปิด ก็ยังทำต้นไม้ด้วยเพาะต้นไม้ขาย พวกไม้ด่าง มีทำดินปลูกต้นไม้ อาหารเสริมทางใบ ยาฆ่าเชื้อรา แล้วก็มีพวกยาเร่งราก แล้วก็มีทำพวกต้นไม้เนื้อเยื่อด้วย ในอนาคตเราค่อยๆ ปล่อยออกมา ชอบทางนี้และก็มีโอกาสได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของเกษตรค่อนข้างเยอะในช่วงโควิดที่ผ่าน”
ไม้ด่างพันธุ์ที่กำลังฮิตกันตอนนี้ของเรามีกี่พันธุ์? “เป็นร้อยสายพันธุ์ ที่นิยมตอนนี้มีหมดครับ ที่ขายดีๆ เป็นไม้ราคากลางๆ ราคาประมาณหลักพันถึงหลักหมื่น เดี๋ยวนี้ถ้าเกิดเป็นราคาหลักร้อย ถ้าเกิดเป็นต้นไม้กระแสจะไม่ค่อยมีแล้ว ส่วนใหญ่จะขึ้นเป็นหลักพันจนถึงหลักหมื่น”
ต้นไม้ที่เราขายคือนับใบขาย? “ใช่ครับ นับใบ ใบไหนสวยก็จะแพงกว่าเพื่อน ส่วนเรื่องการดูแลยากนะครับ ผมเริ่มปลูกปีที่แล้ว ยังไม่เคยเจอหน้าร้อนเต็มๆ แต่พอมาปีนี้มาเจอหน้าร้อนเต็มๆ ก็มีต้นไม้เสียหายไปบ้าง เราต้องย้ายมุมต้นไม้ เพราะว่าต้นไม้พวกนี้ถ้าเกิดเจอแดดแรงๆ จะอยู่ไม่ได้ ส่วนหน้าฝนก็จะมีเรื่องเกี่ยวกับพวกเชื้อราใบ เขาจะโดนน้ำฝนกระแทกใบ ใบเขาก็เปื่อย ช่วงหน้าหนาวจะเลี้ยงง่ายที่สุดครับ”
ได้ข่าวว่าเราก็มีไม้ด่างหลักล้านด้วยเหมือนกัน มีกี่สายพันธุ์? “ผมว่าผมก็มีทุกสายพันธุ์นะ (หัวเราะ) แล้วก็ซื้อยากด้วยนะไม่ได้ซื้อง่ายๆ ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะซื้อได้ บางทีเขาก็ไม่อยากปล่อย บางต้นมันสวยมาก มันเป็นกึ่งๆ ของสะสมของคนเลี้ยง
บางต้นแพงมากๆ เขาก็ไม่ปล่อยกัน เพราะถ้าเกิดปล่อยไปแล้วมันหากลับมาไม่ได้ เหมือนเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่งถ้าเกิดเราปล่อยไปแล้วเราจะไม่สามารถหาแบบนี้กลับมาได้อีก”
ต้นไม้หลักล้านซื้อมาขายไปหรือว่าซื้อมาเก็บ? “เก็บไว้สักพัก เพาะชำเรียบร้อยแล้ว เราก็ค่อยปล่อย แต่ส่วนใหญ่ก็จะเก็บหมด ต้นไม้ที่ผมขายจะเป็นไม้ราคากลางๆ ต้นไม้พวกนี้ถ้าเปรียบเทียบกับรถ มันก็เหมือนรถซูเปอร์คาร์ เราก็ขายรถที่คนเขาใช้กันทั่วไป ส่วนซูเปอร์คาร์เราก็เก็บไว้ใช้เอง”
ต้นไม้ที่ร้านเราขายดีไหม? “ยังห่วงอยู่ครับ แต่ก็มีสั่งจองกันไปบ้าง คือพวกใบที่เป็นสีเหลืองทั่วโลกไม่ได้มีเยอะ ไม่พอจำนวนคนที่ปลูกต้นไม้ ส่วนใหญ่เขาก็ไม่ค่อยปล่อยกัน ผมก็เลยรู้สึกว่ายังไม่ได้เดือดร้อนอะไร อยากเก็บไว้ดูก่อนอุตส่าห์เลี้ยงขึ้นมาจนได้ต้นและใบใหญ่ขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ต้องรีบ”
