เมื่อเวลา 17.45 น.วันที่ 19 ก.ย. ที่ลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม บริเวณข้างศาลฎีกา นาย ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เดินทางมาต่อแถวร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ร่วมกับโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ (iLaw)

นายปิยบุตร ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวร่วมลงชื่อกับไอลอว์ เพราะเห็นด้วยกับเนื้อหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของไอลอว์

การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 วาระแรกวันที่ 23-24 กันยายนนี้ โดยเปิดกว้างให้จัดทำร่างใหม่ทั้งฉบับ แก้ไขได้ในทุกส่วน มีการเปลี่ยนวิธีได้มาซึ่งส.ว. ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ซึ่งการรณรงค์ครั้งนี้ถือเป็นการแสดงสัญลักษณ์ เพราะแม้รัฐธรรมนูญจะกำหนดให้ลงชื่อเพียง 5 หมื่นคน

แต่หากประชาชนมาร่วมลงชื่อจำนวนมากจนถึงหลักแสน จะเป็นสัญลักษณ์ของประชาชนที่ต้องการให้ทำรัฐธรรมนูญใหม่ และยังเป็นการส่งเสียงไปยังผู้มีอำนาจ เพราะต้องยอมรับว่า การประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 วาระแรกวันที่ 23-24 กันยายนนี้ ก็เกิดขึ้นเพราะการกดดันจากประชาชนภายนอก

นายปิยบุตร กล่าวต่อไปว่า สำหรับการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 วาระแรก หากผ่าน จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขึ้นมาพิจารณา ตนอาจจะไม่สามารถเข้าไปทำหน้าที่เป็นคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาแก้ไขในรายละเอียดได้

เพราะข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา ข้อที่ 123 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนดให้บุคคลที่เป็นสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น ที่สามารถเข้าไปเป็นกมธ.ร่วมกันของรัฐสภาได้ ทั้งๆที่ผ่านมาข้อบังคับการประชุมรัฐสภาในอดีตไม่เคยกำหนดไว้เช่นนี้ ส่วนตัวจึงสงสัยว่าการกำหนดเช่นนี้มีนัยยะทางการเมืองหรือไม่

นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมการชุมนุมเท่าที่ตได้ติดตาม ร่วมสังเกตการณ์ ยังเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ที่ต้องการลุกขึ้นมาต่อต้านเผด็จการและความไม่เป็นธรรมตลอด 14 ปีที่ผ่านมา เป็นที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการรัฐประหารที่เกิดขึ้น เป็นการสืบทอดอำนาจ และนำทรัพยากรของประเทศทั้งหมดไปใช้เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มคนกลุ่มคนหนึ่งอยู่ในอำนาจ จึงถึงจุดที่ประชาชนไม่สามารถทนกับระบอบประยุทธ์ได้อีกต่อไป

ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายกังวลเกี่ยวกับความไม่สงบและความรุนแทนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมนั้น ตนเชื่อว่าความรุนแรงจะไม่เกิดขึ้นจากฝ่ายประชาชนแน่นอน เพราะประชาชนไม่มีอาวุธ มีแต่ใจและอุดมการณ์ จึงอยากให้ทหารและตำรวจมองว่า ผู้ชุมนุมเป็นประชาชนเหมือนกัน และในทางกลับกันทหารและตำรวจก็มีความอึดอัดกับระบอบที่เกิดขึ้น เราจึงหวังว่า พวกท่านจะหันกลับมารับใช้ประชาชนเพื่อสู้กับความไม่ชอบธรรมด้วยกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน