นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รับเล็งต่อ พรก.ฉุกเฉิน รอ ศบค.ชุดเล็กเสนอ เหตุปทุมฯยังมีการระบาด ชี้ศักดิ์สิทธิ์กว่าวัคซีน คือหน้ากาก
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
วันที่ 20 ก.พ.2564 ที่รัฐสภา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในวันที่ 22 ก.พ. จะมีการพิจารณาขยายการใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อย่างไรว่า ต้องพิจารณาเพราะพ.ร.ก.ที่ประกาศไว้จะหมดอายุแล้ว ประกอบกับเกิดกรณีการติดเชื้อที่ จ.ปทุมธานี
ดังนั้น ศบค.วงเล็กจะต้องเสนอเข้ามาแต่มีโอกาสที่จะผ่อนผัน อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีการประชุม ศบค.วันจันทร์ที่ 22 ก.พ. ช่วงบ่าย จากนั้นวันอังคารที่ 23 ก.พ. จะนำเข้าการประชุมครม. ดังนั้น การขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก 1 เดือน ยังต้องดูกันอีกที
เมื่อถามว่ามีโอกาสจะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินบางพื้นที่ แทนการประกาศครอบคลุมทั้งประเทศหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ต้องรอให้ ศบค.ชุดเล็กเสนอมาก่อน แต่ต้องเข้าใจตรงกันว่าไม่มีใครได้เบี้ยทวีคูณ ในกฎหมายเขียนไว้ว่าหากมีการประกาศกฎอัยการศึก หรือสถานการณ์ฉุกเฉิน มีโอกาศจะได้เบี้ยทวีคูณ แต่ต้องให้ครม.มีมติ ซึ่งครม.ไม่มีมติในเรื่องนี้
ส่วนพ.ร.ก.ฉุกเฉินยังมีผลในการปรามอยู่ เพราะบางพื้นที่ยังมีการระบาดอยู่ จะเจาะจงลงไปไม่ได้ ว่าเป็นพื้นที่ตำบลไหน ดังนั้น จึงต้องประกาศคลุมไว้ แล้วให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปเจาะจงพื้นที่อีกทีหนึ่ง การประกาศคลุมแบบนี้ไม่ใช่การล็อกดาวน์ทั้งประเทศ แต่เพื่อโยนอำนาจให้ผู้ว่าฯ ไม่อย่างนั้นผู้ว่าฯ จะสั่งอะไรไม่ได้เลย เพราะตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ ผู้ว่าฯ มีอำนาจเพียงเล็กน้อย
เมื่อถามว่าแผนประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะสอดคล้องกับแผนวัคซีนที่กำลังจะมาด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เกี่ยวข้องกัน เพราะวัคซีนจะมาในสัปดาห์หน้าก็ต้องมีมาตรการควบคู่กัน ไม่อย่างนั้นจะเกิดลุกลาม แล้วจะกลายเป็นว่าวัคซีนไม่ศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น ต้องควบคู่กันไปทั้งสองอย่าง ซึ่งความจริงแล้วสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์กว่าวัคซีนคือ หน้ากาก และการเว้นระยะห่าง วัคซีนแค่มีส่วนเข้ามาช่วย
“กลัวที่สุดเลยคือคนที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ระมัดระวัง เพราะอย่าลืมว่าต่อให้ฉีดไปแล้วก็ยังไม่ได้ฉีดเข็มที่สอง และอานุภาพของมันก็ไม่ได้ครอบคลุมทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นต้องเร่งควบคุมทั้งสองอย่างควบคู่กันไป” นายวิษณุ กล่าว
