ไฟไหม้วอดกุฏิอดีตเจ้าอาวาส ช่วยหนีทัน ผู้ป่วยอัมพฤกษ์นอนอยู่กุฏิข้างๆ หลวงตาเผยเข้าไปสวดมนต์ จุดเทียนทิ้งไว้ คาดล้มใส่กองหนังสือ
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
วันที่ 26 ก.พ.64 ร.ต.ท.นราพัฒน์ บุญชายสุวรรณ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้กุฏิเก่า ภายในวัดเขาพิทักษ์หัวหิน ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงประสานรถดับเพลิง งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองหัวหิน และทีมบรรเทาสาธารณภัยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน ก่อนรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ นายจีรวัฒน์ พราหมมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กำลังควบคุมการปฏิบัติงาน เบื้องต้นจุดที่เกิดเหตุไฟไหม้เป็นกุฏิพระเก่าที่ไม่มีพระจำพรรษาแล้ว เพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ลามจากด้านล่างขึ้นด้านบน ทำให้เสียหายทั้งหมด และไฟกำลังลุกลามไปยังกุฎิข้างเคียง
นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากคนที่อยู่ในวัดว่า กุฏิหลังที่อยู่ติดกันซึ่งไฟกำลังจะไหม้ลุกลามไปถึงนั้น มีผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์พักอาศัยอยู่ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เจ้าหน้าที่จึงไปช่วยกันอุ้มออกมาได้ทัน ก่อนที่ไฟจะลุกลามไปถึง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ต้องช่วยกันใช้รถน้ำระดมฉีดน้ำดับไฟ จำนวน 3 คัน และใช้เวลาควบคุมเพลิงอยู่นานเกือบ 2 ชั่วโมง จึงสงบ และไม่ลุกลามไปยังกุฏิข้างเคียง
จากการสอบถาม พระอารยะ ภาคศิริแข อายุ 82 ปี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ อาตมาเข้าไปสวดมนต์เนื่องในวันมาฆบูชา หลังจากสวดมนต์เสร็จ จึงกลับออกมาอยู่ที่กุฏิที่อยู่ด้างหลังกุฏิที่เกิดเหตุ แต่ยังจุดเทียนไว้ จึงคาดว่าน่าจะเกิดจากเทียนล้มแล้วไปติดกองหนังสือที่อยู่ใกล้กัน ประกอบกับกุฏิปลูกแบบครึ่งปูนครึ่งไม้ ซึ่งด้านบนเป็นไม้เก่าทำให้กลายเป็นเชื้อเพลิงลุกลามได้อย่างรวดเร็ว
ด้าน นายจีรวัฒน์ พราหมมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน กล่าวว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากเทียนที่จุดสวดมนต์เกิดล้มจนลุกไหม้ดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง สำหรับค่าเสียหายในเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองหัวหิน และ ทีมกู้ภัยสว่างหัวหิน ซึ่งเข้าถึงที่เกิดเหตุได้อย่างเร็ว และโชดดีที่ทีมกู้ภัยสว่างหัวหิน มีอุปกรณ์เป็นเครื่องสูบน้ำชนิดแบกหาม ทำให้เข้าถึงพื้นที่แคบภายในวัดได้อย่างรวดเร็ว รถดับเพลิงคันใหญ่เข้าลำบากกว่า ทำให้การควบคุมเพลิงทำได้ดี ซึ่งเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้ พบว่ากุฎิต้นเพลิงถูกไฟไหม้ทั้งหมดไป 1 หลัง และลามติดผนังกุฏิอีกหลังแค่บางส่วนเท่านั้น และไม่มีใครได้รับอันตรายจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว
