อธิบดี สบส. เผยโรงแรมแห่สมัครเป็น Hospitel กักตัวคนป่วยโควิด-19 ที่ไม่มีอาการ มากกว่า 2,000 เตียง มั่นใจเพียงพอ ไม่เกิดปัญหาเหมือนต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2564 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงแรมที่กักตัว Alternative State Quarantine(ASQ) ร่วมสมัครเป็น Hospitel เพื่อเพิ่มเตียงไว้รองรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่มีอาการ แล้วจำนวนมากกว่า 2,000 เตียง จำนวน 20 กว่าโรงแรม เพื่อเก็บเตียง และเครื่องมือทางการแพทย์ไว้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการหลัก ไม่ให้เกิดปัญหาเตียงไม่พอ อย่างที่ประชาชนกังวลว่า เมืองไทยจะเหมือนต่างประเทศ

นพ.ธเรศ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ป่วยที่ต้องเข้ารักษาตัว หรือกักตัวใน Hospitel อาจต้องกักตัวไปจนหายโดยไม่ต้องย้ายไปยังโรงพยาบาลหลัก การทำ Hospitel เป็นการจับคู่ระหว่างโรงพยาบาล และ โรงแรม ASQ แต่ในโรงแรม ASQ ต้องมีแพทย์ พยาบาล อยู่ประจำ 24 ชั่วโมง แต่ Hospitel จะค่อยๆเปิดเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นจนต้องเตรียมโรงพยาบาลหลักที่มีเครื่องมือพร้อมไว้รักษาคนป่วยที่อาการแย่

“ที่ผ่านมากลุ่มที่ติดเชื้อไม่มีอาการ มีจำนวน 70-80% กลุ่มนี้อาจไม่มีอาการจนหายดีเลยก็ได้ หากมีการักษาและดูแลที่ถูกวิธี ดังนั้นกลุ่มที่มีอาการจึงมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่ดีพร้อม พร้อมหมอและพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ แต่หากกลุ่มคนหรือผู้ใดที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย รัฐบาลโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้กำชับให้บูรณาการร่วมกับทำงานโดยเปิดสายด่วนให้สอบถามคือ โทร 1330,1668 และยังมีสายด่วนของกทม.อีกคือ 1669”

นพ.ธเรศ กล่าวว่า สำหรับการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข รัฐบาลสั่งให้จับตาสถานการณ์ตลอดเวลา เพื่อประเมินสถานการณ์เพื่อรับมือ หากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น หากรัฐบาลจะเพิ่มจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง หรือพื้นที่ควบคุมสุงสุด อันเกิดจากการระบาดของโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น เมื่อนั้นอาจต้องเพิ่มโรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่ของตำรวจ และกองทัพ แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องของการสัมผัสใกล้ชิดคนป่วยไม่ใช่ทุกคนจะติดเชื้อ ดังนั้นหากสงสัยไม่แนะนำให้ไปตรวจทันทีให้รอดูอาการ 3-5 วันซึ่งเป็นระยะฟักตัวของเชื้อ บางคนเลย 3-5 วันแล้วไม่มีอาการอาจไม่ติดก็ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน