กรณีที่ “นายสิระ เจนจาคะ” ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ และประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน นำ “นายไชย์พล วิภา” หรือ “ลุงพล” ผู้ต้องหาคดี “น้องชมพู่” ที่อยู่ระหว่างประกันตัวชั้นศาล พร้อมทนายความมาแถลงข่าวที่รัฐสภา จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม อีกทั้งยังถูก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาตำหนิ
รายการโหนกระแสวันที่ 10 มิ.ย. 64 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ “ส.ส.สิระ เจนจาคะ” และ “ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ทนายความฝั่งลุงพล ถึงเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากรายการได้เผยแพร่ไป ชาวเน็ตได้แห่ติดแฮชแท็ก #โหนกระแส พร้อมแชร์ช็อตต่างๆ ในการสัมภาษณ์ภายในรายการ โดยเฉพาะปม นายกรัฐมนตรี ได้ถามทั้งสองคนในรายการ ในประเด็นของคดี
อันนี้ยังดีนะที่ประยุทธ์ยังตำหนิสิระเรื่องเอาผู้ต้องหามาแถลงที่สภา ในขณะที่ในสภากำลังประชุมเรื่องเงินกู้ห้าแสนล้านอยู่ มันใช่เวลามาป่ะ แล้วนักข่าวก็ให้ซีน เหมือนมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจที่ประชุมสภาอ่ะ อิสิระคือตอบเสียงอ่อน ตะกุกตะกักแล้วนะโดน ประยุทธ์ประวิตรตำหนิ#โหนกระแส pic.twitter.com/3phZ5rUHVk
— Moonshot เพลงดีบอกต่อ⁷⁷▷เต้าเจี้ยว&มายองเนส◁• (@realll_ppyydd) June 10, 2021
โดยตอนหนึ่งของรายการ ได้ถามเรื่องดังกล่าว ว่า ท่านสิระ มองยังไง มีสิทธิ์มั้ย ทางสภานิติบัญญัติมีหน้าที่ออกกฎหมาย แต่เรื่องการตัดสินเป็นเรื่องตุลาการ เรื่องของตร.?
สิระ : ใช่ครับ ก่อนหน้านี้ประธานรัฐสภา ท่านชวน หลีกภัย บอกว่ามาร้องที่สภาได้ คือช่องทางขอความเป็นธรรม สอง 35 คณะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มีคณะอะไรบ้าง เรื่องนี้ถ้าลุงพลสามารถร้องอย่างน้อยได้ 3 คณะ หนึ่งคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สองกรรมาธิการตำรวจ เพราะเกี่ยวข้องตร. สามคณะกรรมาธิการปราบปรามทุจริต นี่คือช่องทางขอความยุติธรรม ตอนนี้เรามีสภาผู้แทน จากประชาชนเลือกมา อยากให้ประชาชน สังคมมาใช้ช่องทางนี้ ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียหาย หรือผู้ต้องหา
จริงๆ แล้วกมธ.กฎหมาย ยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน น่าจะเป็นเรื่องของเหยื่อ แต่อันนี้เป็นผู้ต้องหา แต่ถ้ากมธ.เปิดทางให้ผู้ต้องหาไปร้องได้ต่อไปผู้ต้องหาทั้งประเทศไม่เข้าไปร้องเหรอ?
สิระ : เขาบอกเขาไม่ได้รับความยุติธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของตร. เนื้อหาสาระผมยังไม่ทราบ แต่ที่ผ่านมา มีขนาดผู้ต้องหาในคดีความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนใต้เข้ามา และแถลงข่าวแบบนี้ปกติครับ แต่ไม่เป็นที่สนใจของประชาชน แล้วบอกว่าเจ้าหน้าที่รัฐยัดเยียดข้อหาเขา กลั่นแกล้งเขา ทำให้เขาไม่ได้รับความเป็นธรรม เป็นเรื่องปกติในการทำงานของเรา แต่จะรับไม่รับในการพิจารณาเราเอาหนังสือที่ผู้เสียหายมาร้องไปพิจารณา มติแรก เรื่องนี้อยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของเรามั้ยตามรัฐธรรมนูญ ถ้าอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ ค่อยกำหนดวันเวลาการประชุม และจะเชิญใครบ้าง หรือถ้าบอกว่าขอทำหนังสือที่ผู้ร้องสงสัยขอความเป็นธรรม ต่อการเชิญหรือทำหนังสือ ทำได้สองกรณี แต่อยู่ที่มติของคณะกรรมการ
ถ้าท่านพูดแบบนี้ มันจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่มั้ย ต่อไปเอเย่นต์ค้ายาบ้าต่างๆ นานา พอตร.ออกหมายจับ เขาต้องการต่อสู้คดีนี้ เขาก็ให้ทนายความไปร้องทางท่านอีก?
สิระ : ปัจจุบันนี้ ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม มีช่องทางหลายช่องทาง อย่างเช่นร้องขอความเป็นธรรมจากพนักงานสอบสวน ร้องขอความเป็นธรรมจากอัยการ ศาล ศูนย์ดำรงธรรม มีช่องทางไปร้องได้ แต่ถามว่าเจ้าหน้าที่ตร. ถ้าบอกว่าคนเป็นผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตร.ออกหมายจับได้ ถามว่าร้อยเปอร์เซ็นต์มั้ยที่ศาลตัดสินว่าผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิด
เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งหรือเปล่าที่ทนายตั้มเลือกท่านในการที่จะมาร้องเพราะรู้ว่าท่านไม้เบื่อไม้เมากับตร.อยู่แล้ว คิดว่าท่านน่าจะเล่นตร.แน่?
สิระ : ถามว่าองค์กรหรือหน่วยงานไหน ต้องมีทั้งคนดีและไม่ดี เป็นเรื่องปกติ คนดีเราก็ส่งเสริม คนไม่ดีเราก็เอาออกจากสังคม
ทำไมทนายตั้มเลือกท่านสิระเข้าไปร้อง?
ทนายตั้ม : จริงๆ แล้วท่านสิระให้คนประสานมา ว่าเรื่องนี้จะถูกต้องชอบธรรมหรือเปล่า ผมก็เลยคิดว่าถ้าเรามีช่องทางในการตรวจสอบตรงนี้อีกทาง ผมเลยโทรไปหาท่านสิระด้วยตัวเองว่าเราสามารถร้องเรียนไปที่ท่านได้มั้ย ท่านก็บอกว่าให้ลองทำหนังสือยื่นมา เดี๋ยวให้กรรมาธิการพิจารณา มันก็เป็นช่องทางนึงที่ผมคิดว่าน่าจะใช้ตรวจสอบตร.ได้อีกช่องทางนึง
หลังทนายตั้มพาลุงพลไปร้องท่านสิระที่สภา ปรากฎว่าท่านนายกฯ ไม่สบายใจ ท่านพูดว่าเอาผู้ต้องหามาแถลงที่สภา เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยไม่รู้ มองว่าถูกตำหนิมั้ย?
สิระ : ตำหนิครับ ระดับท่านนายกฯ ได้ตำหนิ มุมมองของผู้ใหญ่ เราก็ต้องน้อมรับคำตำหนิของท่าน เราคิดว่าท่านดูแล้วไม่สบายใจ ท่านได้ตำหนิเราก็เมตตาเรา เราอาจไปปรับวิธีการในการรับหนังสือ หรือคนมายื่นให้เขามองแล้วชัดเจนกว่านี้
ล่าสุดทางท่านบิ๊กป้อม ประวิตร เรียกคุย จ่อคาดโทษ?
สิระ : ในระบบพรรคการเมือง ท่านเป็นหัวหน้าพรรค และผมเป็นสมาชิกพรรค เราก็มีระเบียบ วินัย ถ้าท่านเรียกผมเข้าไป ท่านพิจารณายังไงก็น้อมรับ
จะไปต่อมั้ย?
สิระ : วันเสาร์ที่เราขอมติกรรมาธิการ ไปพบแม่น้องชมพู่ พบตร.ที่มุกดาหารครับ ทำไมลุงพลเลือกมายื่นเรื่องกับผม เราก็สัญญากันกับลุงพลและแม่น้องชมพู่ว่าหากทุกคนไม่ได้รับความเป็นธรรม เราพร้อมเข้ามาให้ความเป็นธรรม
ล่าสุดคุณอัจฉริยะ ฝากมาบอกท่านสิระว่าท่านไม่ต้องไปหรอก ไม่ใช่เรื่องการเมือง?
สิระ : มันไม่เกี่ยวกับการเมืองทั้งสิ้น หนึ่งไม่มีการหาเสียง หรือได้ผลประโยชน์ทางการเมือง เราทำให้ประชาชนรู้ว่าเราไม่ได้เชื่อข้างใดข้างหนึ่ง และเราต้องไปฟังอีกด้าน การทำหน้าที่ของตร.ด้วย ถ้าเราได้ข้อมูลครบถ้วน เราก็นำเข้าสู่กรรมาธิการ เราได้ประสานแม่น้องชมพู่ เขาบอกว่ายินดี ถ้ามีอะไรจะบอกก็ให้บอกในวันที่เราไปพบครับ
เรื่องคาดผ้า เขาลือกันว่าทำแบบนี้ดูไม่เป็นกลาง ไปรับของรับอะไร มองยังไง?
สิระ : ครั้งแรกที่ไปบ้านกกกอกก็ทำแบบนี้นะครับ ลุงพลและแม่น้องชมพู่ก็ทำแบบนี้เหมือนกัน ไม่มีอะไรที่ผิดปกติ ผมไปที่กกกอก ทำแบบนี้ก็ได้
ล่าสุดคุณอัจฉริยะ ออกมาแถลงเปิดตัวทนายความต่อสู้ให้กับทางแม่น้องชมพู่ หวั่นมั้ย?
ทนายตั้ม : ไม่ได้มีความหวั่นวิตกอะไรเลย ทีนี้ผมฟ้องอัจฉริยะหลายเรื่อง ที่ผ่านมาเกือบทุกศาลเขาจะอ้างว่าไม่มีทนายความ วันนี้ศาลทั่วประเทศคงได้เห็นแล้วว่าในคดีของคนอื่น อัจฉริยะ สามารถหาทนายความได้ถึงสี่คน ฉะนั้นถ้าคดีตัวเองก็คงขอเหตุอ้างเพื่อเลื่อนศาลตัวเองไม่มีทนายความไม่ได้อีกแล้ว
จะบอกว่าคดีที่สู้ๆ กันอยู่ คุณอัจฉริยะขอเลื่อนเพราะอ้างว่าไม่มีทนายความ?
ทนายตั้ม : ใช่ครับ แต่คดีคนอื่นหาได้ ทำไมคดีตัวเองไม่มีทนายความไปสู้ในศาล ก็ฝากไป ฝากให้กระบวนการยุติธรรมดูเรื่องนี้ จะได้เห็นว่าจริงๆ แล้วคดีคนอื่นเขามีทนายความ แต่เรื่องตัวเองหาทนายไม่ได้
คนวิจารณ์ทนายตั้มกันเยอะมาก เรื่องการวางตัว ออกมาฟาดฟัน ปกป้องลูกความ เมื่อวานไปสัมภาษณ์ ทนายตั้มไปกระชากไมค์ออกสื่อ คนก็งงว่าทำไมกระชากไมค์?
ทนายตั้ม : จริงๆ ไม่ได้กระชากไมค์ ผมเอาไมค์ออกมา วันที่เราไปยื่นสภา เราจะมาโฟกัสเรื่องร้องเรียนตร. ทีนี้พอตรงนั้นใกล้จบแล้ว ก็มีนักข่าวไปถามเรื่องความรู้สึกส่วนตัว ซึ่งศาลวางข้อกำหนดไว้ว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับพยานฝ่ายตรงข้าม แล้วนักข่าวเขาถามไม่หยุด ไม่เว้นวรรคเลย แล้วลูกความผมก็พูดตลอดเหมือนกัน
กลัวว่าจะหลุดอะไรที่เกี่ยวกับรูปคดี?
ทนายตั้ม : ใช่ครับ และจะผิดข้อกำหนดที่ศาลวางไว้ ผมในฐานะเป็นทนายความของลุงพล ผมก็ต้องเซฟไว้ก่อน เอาไมค์มาและขอให้นักข่าวถามในเรื่องที่เรามาในวันนี้ เป็นการให้เกียรติท่านสิระ หรือส.ส.ท่านอื่นที่ยืนอยู่ด้วย เพราะไปถามเรื่องอื่นที่ไม่ได้เกี่ยว แล้วเขายืนอยู่ เขามารับเรื่องรับเอกสาร
คุณสิระ มีคนตั้งคำถามว่าเหมือนเป็นกันเองไปมั้ยกับคนที่มาร้อง?
สิระ : มันก็ปกติ ประชาชนคือคนไทย เราเป็นผู้แทนราษฎร ในพื้นที่เรายิ่งกว่านี้อีก
แล้วที่ไปชมป้าแต๋น เมียลุงพลว่าเหมือนนางงามจักรวาล?
สิระ : ก็เห็นในคอมเมนต์ เขาเอารูปป้าแต๋นกับนางงามจักรวาลมาเทียบกัน น่าจะเป็นพี่น้องกัน หน้าเหมือนกัน ไม่ได้มีอะไร
ไม่ได้ดูลำเอียง?
สิระ : ผมเจอป้าแต๋นครั้งที่สาม ทนายตั้มเพิ่งเจอตัวจริงเมื่อวานนี้
มีข่าวว่าไปทานข้าวกัน จริงมั้ย?
สิระ : ผมไม่ทานข้าวนอกบ้าน
แล้วมีภาพอันนึง?
สิระ : มีสิระมั้ย เฟซใคร เฟซคนหนีคดี มีคดีติดตัวแล้วหนีไปต่างประเทศ ปกติเฟซเขาจาบจ้วงสถาบัน
ทนายตั้ม : เรื่องนี้หลังจากที่ผมเห็นปวินมีการแชร์ ลองดูสิในภาพไม่มีภาพท่านสิระอยู่เลยแล้วเอามาโยงว่ามีคุณสิระอยู่ด้วย คนเป็นเอฟซีก็เชื่อไปแล้วว่าสิ่งที่ปวินโพสต์เป็นความจริง ผมก็ถามป้าแต๋น ไลน์ไปถามเมื่อวานเขาบอกว่าเป็นภาพเก่า นานแล้วไปกับทนายสมเกียรติ ทีมมาทีหลังน่าจะเม.ย. คนนี้มากินข้าวกับเอฟซีอีกทีค่ะ มากับคนเสื้อแดง เป็นคนของสำนักงานทนาความธรรมรังสี กินเลี้ยงที่อื่นและมาเจอกัน เป็นภาพที่ไม่มีท่านสิระอยู่ ร้านครกไม้ ไม่ได้ถามว่าจังหวัดไหน (เปิดภาพให้ดู) จะได้จบประเด็นตรงนี้ คนเอาภาพนึงมาใส่คำบรรยายก็พร้อมเชื่อแล้ว อีกภาพมีภาพทนายสมเกียรติชัดๆ
สิระ : อยากให้ตั้งสติครับ เสพสื่อ
เป็นภาพเก่า แต่ว่าไปลุงพลก็โชคดีได้กินข้าวกับส.ส. ผมยังไม่ได้กินเลย?
ทนายตั้ม : ไม่มีส.ส. คุณสิระไม่มีอยู่ในภาพ
ทนายหลายคนเขาบอกว่าเขามั่นใจว่าลุงพลเป็นผู้กระทำจริงๆ เรื่องน้องชมพู่ ทนายมองยังไง?
ทนายตั้ม : ก่อนทำคดี ผมตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ทำให้ผมมั่นใจว่าลุงพลไม่น่าใช่ผู้กระทำความผิด ผมบอกอีกครั้ง เรื่องนี้ผมไมได้เงิน ฟรี ตรวจสอบได้ แม้แต่การเดินทางผมก็ไม่คิดตังค์ ค่าพักก็ไม่คิดตังค์
แล้วทำเพื่ออะไร?
ทนายตั้ม : ผมเห็นว่าลุงพลไม่ได้ทำความผิดไงครับ ผมไม่ได้อะไรแล้วผมออกมา คนด่ากันทั้งประเทศ เพราะคนไม่ชอบลุงพล ผมทำออกมาแล้วจะได้อะไรล่ะครับ
ทำไมมักมีปัญหากับผบ.บ่อยๆ เกิดอะไรขึ้น?
ทนายตั้ม : ใครอยากมีปัญหากับผบ.ครับ
ก็คุณไง?
ทนายตั้ม : คราวที่แล้วผมมีปัญหากับท่านจักรทิพย์ ไปฟ้องแกเรื่อง ไบโอเมทริกซ์ ตอนนี้เรื่องอยู่ป.ป.ช. หลังจากนั้นผมโดนหมายจับ 2 หมายจับ โดนทั้งหมด 6 คดี คดียังคากำลังจะขึ้นศาล
นี่ท่านใหม่อีกแล้ว?
ทนายตั้ม : ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ว่าที่ผมทำในวันนี้ ผมไม่ได้ทำเพื่อลุงพลแล้ว ผมอยากให้เป็นบรรทัดฐานของสังคมด้วย
พอมีเรื่องนี้ขึ้นมาเหมือนกระแสตีกลับ มีแต่คนเซฟผบ.ตร.?
ทนายตั้ม : ผมไม่ได้สนใจตรงนี้อยู่แล้ว ผมคาดไว้ก่อนแล้วว่าต้องออกมาเป็นแบบนี้ เข้าใจว่าคนสงสารแม่ชมพู่ คนเทไปทางแม่ชมพู่เพราะสงสาร ซึ่งต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดอยู่แล้ว มันก็อนุมานได้ว่าผมอยู่กับลุงพลตอนนี้ก็ต้องโดน ผมเตรียมใจไว้ก่อนอยู่แล้ว
มีคนบอกทนายตั้มแบ็กดี?
ทนายตั้ม : เรื่องนี้แบ็กที่ไหนจะช่วยผมได้ ตอนผมโดนคดีก็ไม่มีแบ็กที่ไหนช่วยได้ ผมโดนอั๊กๆ อยู่ตลอดเวลา ผมโดนคดีก็ต้องทำใจ ไปสู้ในกระบวนการศาลยุติธรรม เพราะผมเชื่อในศาลยุติธรรม
ตกลงยังไง เรื่องนี้จะดำเนินการต่อไปยังไง จะเปิดสำนวนต่างๆ นานามั้ย?
สิระ : ประการแรกผมเป็นผู้แทนราษฎร ประชาชนร้องขอความเป็นธรรมมาที่คณะเรา สอง ผมไม่ได้ทำเพียงลำพัง ทำเป็นคณะกรรมาธิการ มีผู้แทนราษฎร 15 ท่าน ก็ให้เชื่อใจว่าจะให้ความยุติธรรมกับทุกคน ไม่ว่าจะผู้เสียหาย ผู้ต้องหา ข้าราชการผู้ปฏิบัติหน้าที่เราให้ความเป็นธรรมหมด คณะกรรมาธิการผมมีบทบาท มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ใครยื่นเข้ามาคณะกรรมาธิการชุดนี้ ได้การพิจารณาได้รับการแก้ไข
ถ้าบิ๊กป้อมบอกว่าเรื่องนี้ปล่อยเถอะ เพราะไม่ใช่เรื่องของเหยื่อ?
สิระ : เราก็จะอธิบายให้ท่านเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ผมกับทนายตั้มไม่รู้จักกันมาก่อน ที่ผ่านมาเราสร้างผลงานพรรคประชารัฐ สภาผู้แทนราษฎร ต้องอธิบายกันว่าเราจะทำให้รัดกุม ระมัดระวังและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ท่านทราบมั้ยประชาชนส่วนใหญ่ไม่ค่อยแฮปปี้กับท่านที่มาทำแบบนี้?
สิระ : บางครั้งทำอะไรคนชอบไม่ชอบเป็นเรื่องปกติ ไปดูผลงานที่ผ่านมาแล้วกัน ผมคืนป่าไม้ที่ภูเก็ตให้คนทั้งชาติ แต่วิธีการยังไง ผมไม่รู้
หนุ่มกรรชัย “ผมจะรอวันนั้นนะครับ” 👍#ลุงพล #โหนกระแส pic.twitter.com/E3vwU1USHC
— 🦋💖ℕ𝕦𝕔𝕙ℕ𝕚𝕕7️⃣0️⃣2️⃣💖🦋♥️🅿️ที่ซู๊ดดด🌹 (@NittyPeckky) June 10, 2021
สุดท้าย รู้สึกยังไง ตอนนี้ประชาชนจากเคยเคารพรักชื่นชอบทนายตั้ม ตอนนี้กลับตาลปัตร คนต่อว่าต่อขานต่างๆ นานา?
ทนายตั้ม : มันก็เป็นปกติครับ เวลาเราทำอะไรถูกใจใครก็เป็นที่ชื่นชอบ เวลาทำอะไรไม่ถูกใจไม่ถูกจริต คนก็ต่อว่าเรา แต่อยากบอกว่าวันนี้ผมเป็นทนายลุงพล ผมทำตามวิชาชีพของผม และผมก็ปกป้องทุกอย่างเกี่ยวกับลุงพล สิ่งที่ผมทำคือวิชาชีพ และผมก็เชื่อมั่นว่าลุงพลเป็นผู้บริสุทธิ์
ทนายตั้มจะบอกว่าเป็นหน้าที่ทนายดูแลลูกความ ถ้าผิดก็ให้รับสารภาพ และถอน?
ทนายตั้ม : ถูกต้องครับ
คุณกำลังจะบอกว่าอาชีพคุณก็เหมือนหมอ เป็นโจรถูกยิงมาก็ต้องช่วยผ่าตัดให้ เหมือนกัน?
ทนายตั้ม : เหมือนกันครับ