ซือเจ๊สั่งลุย บุ๋ม ปนัดดา ไม่ทน! ครูโพสต์คุกคามทางเพศ เด็กที่ไหนก็ไม่ควรเจอแบบนี้ แนะควรลาออก ย้ำโรงเรียนควรเป็นที่ปลอดภัย

หลังจากที่พิธีกรชื่อดัง บุ๋ม ปนันดา วงศ์ผู้ดี โพสต์เดือดผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว กรณีที่ ครูสุขศึกษา ในโรงเรียนที่ตนเองเคยเป็นศิษย์เก่า รวมถึงลูกสาวก็เรียนโรงเรียนแห่งนี้ด้วย ได้โพสต์ถ้อยคำหยาบคายเรื่องเพศ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างถึงความไม่เหมาะสม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด บุ๋ม ปนัดดา เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงเรื่องดังกล่าวว่า “คือเป็นเรื่องที่น้องอันดามันส่งมาให้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ว่าเป็นครูสุขศึกษาของหนูเอง ที่เด็กนักเรียนมีการแชร์โพสต์ครูว่ามีการโพสต์ลักษณะที่ไม่เหมาะสมและมีคำหยาบคายอยู่ในนั้น”

“เราก็เลยมีความรู้สึกว่าอย่างนี้มันไม่สมควร เราปกป้องเด็กมาตั้งเยอะตั้งแยะทั่วประเทศไทยแต่ทำไมลูกตัวเองจะปกป้องไม่ได้ แล้วแถมยังเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนนี้ บางสิ่งบางอย่างเข้าใจว่าการโพสต์มันเป็นเรื่องส่วนตัว แล้วเราไม่เคยดูแคลนหรือว่าดูถูกใครเลยว่าจะมีรสนิยมทางเพศยังไง ถ้าเขาเป็นคนมีความรู้ความสามารถทุกคนควรได้รับการส่งเสริมในทางที่ถูกที่ควร”

“แต่ที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือการทำงานใกล้ชิดเด็ก การทำงานที่อยู่ใกล้เด็กขนาดนี้ เป็นคนแนะนำแนวทางให้กับเด็ก เขาต้องมีทัศนคติที่ดีกับเด็กนะ ถ้าคะแนนของเด็กก็คือจิตพิสัย ครูเองก็ควรมีการตรวจเรื่องนี้เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าแค่จบครูมาแล้วก็จะเป็นได้ แต่ควรที่จะตรวจหรือว่าข้างในเขาคิดอะไร”

“แล้วกฎของกระทรวงเราต้องออกมาเขียนเพราะอะไร เพราะกลัวเหมือนที่ผ่านๆ มา กฎกระทรวงทำได้แค่ย้าย คำว่าย้ายคืออะไร ให้เด็กที่อื่นรับกรรมต่อเหรอ เด็กที่ไหนก็ไม่ควรจะเจอครูแบบนี้ ที่จะเอารูปเด็กมาโพสต์แล้วก็เขียนคำหยาบคายแบบนี้”

“ดังนั้นเราก็เลยต้องโพสต์และส่งเรื่องให้กับทางผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้วค่ะ คือผู้ใหญ่ทางกระทรวงและที่โรงเรียน รวมถึงสมาคมผู้ปกครองทุกคนทุกฝ่ายต้องรับรู้ถึงปัญหาตรงนี้และช่วยกันแก้ไข เพราะว่าผอ.คงมีสิทธิ์ได้แค่เชิญออก คงทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เพียงแต่ว่าเรื่องของกระทรวงเนี่ยเราไม่อยากให้เขาไปที่อื่นต่อ”

เคยได้สอบถามน้องอันดามันว่าเคยเรียนกับครูคนนี้ไหม หรือว่าพฤติกรรมในโรงเรียนเขาเป็นยังไง? “บังเอิญว่ามันเพิ่งเปิดเทอมก็เลยยังไม่เคยได้เจอกัน เพียงแต่ว่าพฤติกรรมหลังจากที่มีการโพสต์ออกไปก็จะมีผู้ปกครองคนอื่นๆ รวมถึงเด็กนักเรียนส่งข้อมูลอาจารย์คนนี้เยอะมาก ว่ามีพฤติกรรมยังไง”

“มีวีนนักเรียน ยังไงไม่เข้าสอนยังไง เยอะมากจนเราตกใจว่าทำไมเขาปล่อยให้เกิดเรื่องอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่ครูเพิ่งเข้าด้วยค่ะ เข้ามาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วด้วย เราก็เลยแบบ…โอ้ย ทำไว้เยอะแฮะ ถึงแนะนำสำหรับนักเรียนหรือคุณครูที่อยู่ในรูปที่เขาเอารูปไปเขียนและเขียนคำหยาบคายใส่ สามารถที่จะแจ้งความได้ว่าทำให้เสื่อมเสีย แล้วก็ลงพรบ.คอมได้ด้วยค่ะ

ในฐานะที่เคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนและลูกสาวก็กำลังเรียนอยู่ด้วย มองถึงความไม่ปลอดภัยในเหตุการณ์นี้ใช่ไหม? “ใช่ค่ะ โรงเรียนควรเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเด็ก โรงเรียนควรเป็นที่ที่ปลอดภัยไม่ใช่ว่าวันนี้ฉันจะไปเจออะไร เด็กไม่ควรไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกและความกลัวอย่างนั้น ตัวผู้ปกครองเองเราก็ฝากความหวังฝากชีวิตลูกเราไว้ในโรงเรียน เราก็อยากให้เป็นที่ที่ปลอดภัย”

“มันต้องกลับมาปรับแล้วล่ะว่า ณ ปัจจุบันคุณครูอาจจะเครียดเกินไปมั้ย หลายคนตอนแรกผ่านได้ แต่พอมีภาวะอะไรหลายๆ อย่างคนเราเกิดความเครียดได้ แนะนำต้องเจอจิตแพทย์ แต่เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้ทำงานใกล้ชิดเด็กอีกต่อไปอะไรอย่างนี้เป็นต้น”

อยากให้จัดการกับเรื่องนี้ยังไงเพราะเรื่องทำนองนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว? “ครั้งนี้ยิ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวเราก็คงลุยขั้นเด็ดขาด แต่ก็ต้องให้เกียรติผู้ใหญ่ด้วยว่าท่านจะตอบออกมายังไง เรื่องนี้คงไม่ปล่อยแน่นอนเพราะว่าเราคงไม่อยากให้ลูกเราไปเรียนกับคนแบบนี้”

พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนฝากความหวังไว้ไว้ที่เราว่าจะให้มาเป็นแนวหน้าในการจัดการเรื่องนี้? “ใช่ ทุกคนก็บอกว่าคุณแม่ฟันดาบให้หน่อย ขอบคุณมากที่ออกมา ฝากหอมแก้มคุณบุ๋มด้วย คือข้อมูลมาเยอะมากเลยยังไงก็ต้องรวมพลังกัน บุ๋มคนเดียวคงไม่ได้หรอก”

“บุ๋มเป็นได้แค่กระบอกเสียงให้กับทุกคนเท่านั้นเอง แต่สิ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จคืออย่านิ่งเฉยอย่าเพิกเฉยเวลาเจอพฤติกรรมอะไรแบบนี้ ที่สำคัญคือจะต้องช่วยกันดูแลเพื่อความปลอดภัยของลูกหลานค่ะ”

อันดามันเองมีความกลัวไหม? “เขารู้ว่าแม่เป็นแนวสิทธิสตรีอยู่แล้ว(หัวเราะ) แล้วเขาก็เป็นเด็กที่ปกป้องตัวเองได้ดี ที่สำคัญคือเขารู้ว่าอะไรที่ไม่ถูกไม่ควรก็จะส่งให้แม่ แล้วพอบุ๋มโพสต์ไอจีปุ๊บ นางก็แบบ…แม่! เราก็เลยตอบกลับไปว่า เอาแล้ว แม่ฟาดแล้ว อันดามันบอกว่า…แล้วหนูจะตกวิชาสุขศึกษามั้ย บุ๋มก็เลยบอกเขาว่า…ถ้าเทอมนี้ลูกเกรดตกแม่ขอโทษ คือแม่ทนไม่ได้(หัวเราะ)”

อยากฝากบอกอะไรถึงคุณครูท่านนั้นไหม? “เราไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายจิตใจคุณ เพียงแต่ขอยืนอยู่บนความถูกต้อง แล้วถ้ารู้สึกว่าตัวเองต้องการที่พึ่งทางใจควรปรึกษาหมอ อันนี้แนะนำด้วยความจริงใจ ที่สำคัญก็คือลาออกซะ หางานที่เหมาะสมและไม่ได้เกี่ยวข้องกับเด็ก หรือว่ามีทัศนคติที่ทำให้ตัวเองเครียดเหมือน ณ ปัจจุบันนี้ (ซือเจ๊สั่งลุยแน่นอน?) ลุยค่ะ งานนี้ฟันดาบแน่นอนครับผม”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน