ฝนถล่มอินเดียหนักขึ้นเรื่อยๆ – เอพี รายงานสถานการณ์น้ำท่วมและดินถล่มที่อินเดีย โดยเฉพาะรัฐมหาราษฎะ ภาคตะวันตกของประเทศ ว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเกิน 135 ราย ในจำนวนนี้อย่างน้อย 42 รายเสียชีวิตในเหตุการณ์บ้านเรือนถูกน้ำซัดลอยไปกับกระแสน้ำ
ที่เกิดเหตุดังกล่าว เป็นหมู่บ้านตาลิเย อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนครมุมไบ ดินถล่มจนบ้านเรือนพังราบเป็นหน้าหลอง ขณะที่หลายพื้นที่ประสบภัยแม่น้ำไหลหลากล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชน ชาวบ้านกว่า 90,000 คนต้องอพยพหนีภัย หลังจากผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ฝนจะตกหนักต่อไปอีกหลายวัน
นายนเรนทรา โมที นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความว่า ทุกข์ใจกับความสูญเสียนี้ รัฐบาลติดตามเหตุการณ์ที่รัฐมหาราษฎะเผชิญฝนหนักอย่างใกล้ชิด และจะส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
กระทรวงกลาโหมแจ้งว่า ส่งทหาร ยามชายฝั่ง และกองกำลังรับสถานารณ์หายนะแห่งชาติ เข้าไปเร่งช่วยเหลือประชาชนและกู้ภัย โดยเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ช่วยเหลือประชาชนแถบเนินเขาพื้นที่ศิวะจี นาคาร์ออกมาได้กว่า 200 คน หลังจากฝนถล่มเมืองชีพลัน เขตรัตนคีรี
กองทัพอินเดียยังออกแถลงการณ์ว่า ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์และเรือไปอพยพชาวบ้านที่ติดค้างอยู่ตามบ้านเรือน
นอกจากนี้ พื้นที่ทางภาคใต้ ที่รัฐเตลังคานา มีประกาศเตือนฝนหนักและน้ำท่วมเมืองไฮเดอราบาด เมืองเอกของรัฐที่อยู่ในพื้นราบต่ำ และเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีข่าวสารแห่งสำคัญอีกแห่งของอินเดีย
นักพยากรณ์อากาศกล่าวว่า การที่ปริมาณน้ำฝนในเมืองไฮเดอราบาด สูงถึง 30 เซนติเมตร นับว่าสูงที่สุดในเดือนกรกฎาคมรอบ 10 ปี และเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรศเช่นกันที่ต้องเปิดประตูอ่างเก็บน้ำออสมาน ซาคาร์
สัปดาห์ก่อน เพิ่งเกิดฝนตกหนักชะดินถล่มคร่าชีวิตชาวบ้านที่นครมุมไบไปกว่า 38 ราย แม้ฝนตกในช่วงเวลาปกติของฤดูมรสุม แต่ความรุนแรงของเหตุการณ์มีมากขึ้นทุกปี เชื่อมโยงกับภาวะโลกร้อน
“ฝนตกบ่อยขึ้นและหนักขึ้นทุกทีแล้วตอนนี้ เนื่องมาจากทะเลอาระเบียนอุ่นขึ้น ยิ่งเร่งให้เกิดพายุไซโคลนมากขึ้น และฝนกระหน่ำหนักในช่วงเวลาสั้นๆ เราต้องเตรียมการให้ดีในพื้นฝั่งตะวันตก” ร็อกซี แมตธิว โคลล์ นักวิทยาศาสตร์ สถาบันอุตุนิยมวิทยาเขตร้อน เมืองปูเน่ กล่าว
…………
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :