เมรุวัดไผ่ล้อมเริ่มรับไม่ไหว ยอดหักตัวปล่องร้าว หลังเผาศพโควิดทุกวันไม่ได้หยุด หลวงพี่น้ำฝน เดินหน้าซ่อมพร้อมเพิ่มเตาเผาคู่

วันที่ 24 ส.ค. 64 ที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัด รับเผาศพผู้ติดเชื้อโควิดฟรี ตามโครงการสวด เผาฟรี โดยกองทุนหลวงพ่อพูล และได้เผาศพวันละ 2 – 3 ศพ จากนั้นพบว่าเกิดรอยแตกร้าวหลายแห่ง จนยอดของเมรุได้แตกหักลงมาบนหลังคา ขณะกำลังจัดพิธี

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ กล่าวว่า สถานการณ์การเสียชีวิตของผู้ที่ติดเชื้อโควิด จากตัวเลขมียอดผู้เสียชีวิตสะสมแล้วเกือบ 300 คน โดยที่วัดไผ่ล้อมได้มีการเผาศพทุกวันไม่มีวันหยุด ซึ่งปกติจะเผาอยู่ที่ 2 ศพก็ได้เพิ่มยอดการเผาเป็น 3 ศพ กระทั่งไม่นานมานี้ ขณะที่กำลังทำการเผาศพผู้เสียชีวิตที่ติดเชื้อ เกิดเสียงดังตูมสนั่นเหมือนกับมีอะไรระเบิดบนหลังคาเมรุ ซึ่งทั้งพระและเจ้าหน้าที่ต่างตกใจ คิดว่ามีอะไรระเบิด เมื่อไปสำรวจโดยรอบก็พบว่ายอดเมรุพังตกลงมาบนหลังคา โชคดีที่ไม่ทะลุลงมาโดนศีรษะพระสงฆ์และคนที่อยู่ภายในงาน

ตอนนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่และฝ่ายช่างได้มีการตรวจสอบความเสียหายทั้งหมด พบว่าที่ยอดเมรุเกิดความร้อนสะสมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ปูนผุกร่อนและมีหลายฝั่งกำลังจะพังลงมา ส่วนที่ตัวปล่องอิฐมีการเกิดการแตกร้าวและเริ่มมีรอยร้าวกว้างมากขึ้น ซึ่งรอยแตกจะแผ่กว้างขึ้นทุกครั้งที่มีการเผาศพ 1 ศพ และการตรวจสอบในช่องบรรจุโลงสำหรับเผาก็ พบว่าอิฐที่วางเรียงอยู่ภายในก็สึกกร่อนไปไวมาก

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากการประเมินสถานการณ์พบว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด ในจังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่ลดลง การประสานขอจองเมรุเผาศพที่วัดไผ่ล้อมก็มีคิวจ่อมาไม่หยุด จึงได้วางแผนที่จะซ่อมส่วนที่เสียหายและสร้างเตาเผาแบบคู่ขึ้นมาเพื่อรองรับการเผาศพให้เพียงพอและทันต่อสถานการณ์ในช่วงนี้

โดยเมรุและเตาเผาศพที่วัดไผ่ล้อมจัดสร้างขึ้นมามีอายุการใช้งานมาแล้ว 16 ปี ซึ่งโยมมารดาของอาตมาได้นำเงิน 1.5 ล้านมาถวายเพื่อทำเป็นเมรุแบบปลอดมลพิษไร้ควัน ซึ่งในเวลาปกติก็ไม่ได้มีศพเข้ามามากขนาดนี้ แม้ทางวัดจะดูแลเมรุเป็นอย่างดี สุดท้ายก็ทนไม่ไหวกับการใช้งานหนัก ถึงเวลาที่ต้องเร่งซ่อมและสร้างเมรุยังแบบเตาคู่ไปเลยในคราวเดียว แต่เราจะไม่หยุดการเผาศพที่ติดเชื้อ ซึ่งได้วางแผนรองรับมาตรการไว้หมดแล้ว รวมถึงพิธีการก็จะยังคงพิธีการครบถ้วนเหมือนเดิมทุกอย่าง

สำหรับการสร้างเตาแบบคู่ขึ้นมาจะทำให้วัดไผ่ล้อมมีศักยภาพในการเผาศพได้มากขึ้น จากเดิมที่เคยเผาได้สูงสุดวันละ 3 ศพ ก็จะสามารถเผาได้วันละ 6 ศพ เนื่องจากเตาเผาชุดใหม่จะใช้น้ำมันลดลงจาก 80 ลิตรเหลือเพียง 30 ลิตรต่อศพ และใช้เวลาในการเผาลดลงจาก 5-6 ชั่วโมงเหลือเพียง 3 ชั่วโมงต่อศพ โดยจะเป็นการทั้งลดเวลา ลดค่าใช้จ่ายแต่สามารถทำงานได้มากขึ้นด้วย

โดยตอนนี้ได้วางแผนไว้หมดแล้ว ในช่วงการบูรณะซ่อมแซมเมรุและก่อสร้างเตาเผาศพเพิ่มเป็น 2 เตา จะมีการวางแผนบรรจุโลงศพขึ้นที่ด้านหลังของเตาซึ่งสามารถทำได้ และแบ่งส่วนสร้างกับซ่อมให้สอดคล้องกัน ทางทีมช่างมีการวางแผนไว้ครบถ้วนแล้ว ในวันที่ 28 ส.ค. นี้ จะมีพิธีการบวงสรวง ในเวลา 09.09 น. และ 21.59 น. ซึ่งจะมีการไลฟ์สด ทางเพจหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม และเป็นการจัดงานที่งดผู้เข้าร่วมพิธีภายในงานด้วย

“แม้ว่าการเผาศพอาตมาก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ด้วยหลักธรรมการเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นเรื่องที่หลบเลี่ยงไม่ได้ สถานการณ์ยามนี้ การเร่งแก้ไขและช่วยสังคมเป็นสิ่งที่วัดและพระจะต้องทำให้สอดคล้องกับช่วงเวลาและทางวัดไผ่ล้อมก็ได้วางแนวคิดว่าวัดไผ่ล้อมจะทำงานในทุกมิติเพื่อให้เป็นวัดที่สร้างประโยชน์ให้กับพุทธศาสนิกชนและประชาชนให้ได้มากที่สุดโดยเฉพาะในยามที่สถานการณ์บ้านเมืองเกิดสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้” พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน