นพ.มานพ เผยผลฉีดวัคซีน คนสูงอายุโดยเฉพาะผู้ที่มีโรคร่วม ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรืออยู่บ้านพักคนชรา ภูมิจะลดลงเร็วกว่ากลุ่มอื่น

เมื่อวันที่ 15 ก.ย.64 นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยการแพทย์แม่นยำ คณะ​แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊กถึงประสิทธิผลของวัคซีนว่า

ประสิทธิผลของวัคซีนลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ผู้สูงอายุและมีโรคร่วมจะลดลงเร็วกว่ากลุ่มอื่น เมื่อเดือนที่แล้วมีข้อมูลจาก Office for National Statistics UK เป็นข่าวดังที่รายงานว่าประสิทธิผลของวัคซีน AstraZeneca ลดลงช้ากว่า Pfizer จนอาจมีระดับพอๆ กัน

เมื่อ 4 เดือนหลังฉีดวัคซีน (อ่านเพิ่มเติมที่นี่ https://www.facebook.com/manopsi/posts/10161181653928448) จากนั้นมีข้อมูลเผยแพร่จาก ZOE COVID cohort ที่แสดงต่างออกไปคืออัตราการลดลงของประสิทธิผลวัคซีนทั้ง 2 ชนิดพอๆ กัน

เมื่อคืน Public Health England เผยแพร่ข้อมูลชุดของตนเองบ้างใน preprint พบว่าอัตราการลดลงของประสิทธิผลของวัคซีนที่ใช้ในอังกฤษลดลงทั้ง 3 ชนิด โดยที่ AstraZeneca และ Pfizer vaccine ก็ลดลงในอัตราส่วนพอๆ กันแทบจะเป็นเส้นขนาน เมื่อติดตามไปอย่างน้อย 5 เดือน ประสิทธิผลของวัคซีน Pfizer ยังคงสูงกว่า AstraZeneca

ที่น่าเป็นห่วงคืออัตราลดลงในกลุ่มเปราะบาง คือคนสูงอายุโดยเฉพาะผู้ที่มีโรคร่วม ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรืออยู่บ้านพักคนชรา จะลดลงเร็วกว่ากลุ่มอื่น

ข้อมูลนี้น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ JCVI แนะนำให้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มสามในกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ก่อน หลังได้รับวัคซีนครบอย่างน้อย 6 เดือน โดยใช้ Pfizer vaccine เป็นวัคซีนหลัก (https://www.gov.uk/…/jcvi-issues-updated-advice-on…)

ข้อสังเกตของ Moderna ดูเหมือนประสิทธิผลจะคงอยู่ในระดับสูงกว่า Pfizer vaccine สอดคล้องกับข้อมูลจาก Mayo Clinic และ CDC แต่ระยะติดตามของอังกฤษยังสั้นกว่าเนื่องจากเป็นวัคซีนที่เริ่มใช้ทีหลังอีกสองตัว

น่าสนใจดีว่าผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ต่างกันระหว่าง Public Health England & ZOE COVID กับ ONS เกิดจากอะไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน