สธ. ชี้ เตรียมฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้คนได้ซิโนแวค 2 เข็มแรก ลงทะเบียน 24 ก.ย. เปรยภูมิคุ้มกันอาจลดลง แต่ยังป้องกันการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้

21 ก.ย. 2564 – นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงแนวทางการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นสำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ว่า วัคซีนโควิดทุกตัว เมื่อฉีดไปแล้วประมาณ 4-6 เดือน ภูมิคุ้มกันจะลดลง แต่ยังสามารถป้องกันการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้

ทั้งนี้ประเทศไทยมีการฉีดซิโนแวคมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. จนถึงปัจจุบัน มีผู้ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 โดส จำนวน 3,499,802 คน เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า 827,960 คน เนื่องจากมีความเสี่ยงติดเชื้อสูงจากการปฏิบัติหน้าที่ จึงให้วัคซีนเข็มกระตุ้นตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. ด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนกา และ ไฟเซอร์ พบว่ากระตุ้นภูมิคุ้มกันสูงขึ้นมาก และมีความปลอดภัย อาการไม่พึงประสงค์ไม่แตกต่างจากการฉีดวัคซีนโควิดตามปกติ

สำหรับบุคลากรอื่นและประชาชนทั่วไปที่รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มช่วง มี.ค. – พ.ค. 2564 มีประมาณ 5.5 แสนคน สธ.จึงเตรียมฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน โดยจะเสนอหลักการต่อ ศบค. หากเห็นชอบจะเริ่มแจ้งข้อมูลประชาสัมพันธ์ผ่านระบบหมอพร้อม ทั้งแอปพลิเคชันและไลน์ OA ผ่านสื่อสาธารณะ รพ. และหน่วยบริการฉีดวัคซีน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรับทราบและเตรียมการลงทะเบียนตามความสมัครใจ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป

โดยใช้เอกสารรับรองการรับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มทั้งแบบกระดาษหรือดิจิทัล ลงทะเบียนได้ทั้งหน่วยบริการเดิมที่รับวัคซีน หน่วยบริการอื่นในจังหวัดเดิม หรือหากจำเป็นต้องฉีดกระตุ้นในจังหวัดอื่น กรณีพื้นที่ กทม.ให้ติดต่อศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ประสานผ่านคอลเซ็นเตอร์ค่ายมือถือ ทั้ง AIS DTAC และ TRUE เพื่อลงทะเบียน กรณีต่างจังหวัดให้ศึกษาระบบการลงทะเบียนและระบบนัดหมายของจังหวัดนั้นเข้าใจ หรือประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด

“หน่วยบริการฉีดวัคซีนให้ตรวจสอบหลักฐาน จัดสรรคิวการฉีดเรียงตามเดือน คือ มีนาคม เมษายน และพฤษภาคมตามลำดับ และตามปริมาณวัคซีนที่ได้รับ โดยวันที่ 21-23 กันยายน 2564 จะจัดส่งวัคซีน 50% ก่อน และทยอยจัดส่งตามจำนวนลงทะเบียนที่เหลือหรือจัดส่งเพิ่มตามความจำเป็น นอกจากนี้ ให้บันทึกการฉีดวัคซีนเข้าสู่ระบบและติดตามอาการไม่พึงประสงค์และรายงานผลต่อกรมควบคุมโรค คาดว่าใช้เวลาฉีดประมาณ 1 เดือน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน