มาริสา ปรับตัวยุคโควิด หารายได้เสริม ผันตัวเป็นครูฝึกสุนัข หลังงานวงการหดหาย

มาริสา ปรับตัวยุคโควิด – แม้ว่าจะเป็นสาวแซ่บ เล่นบทร้ายๆ แต่ตัวจริงนั้นเป็นคนใจบุญ และรักสัตว์เอามากๆ สำหรับ มาริสา อานิต้า ที่ช่วงโควิด-19 งานวงการบันเทิงหดหาย จึงรับจ๊อบฝึกสุนัขตามบ้าน เพื่อหารายได้เสริม นอกจากนี้ยังได้สละเวลาเป็นจิตอาสาฝึกสุนัขบำบัดอีกด้วย

โดย มาริสา ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดออนไลน์ เผยว่า “จริงๆแล้วสา มีอาชีพ 2-3 อย่าง ปกติก็จะเป็นนักแสดง อาชีพเสริมอีกอันเป็นสุนัขบำบัดที่เราทำเป็นจิตอาสา ซึ่งทำมาตั้งแต่ก่อนมีโควิดแล้ว ทั้งเรียน และฝึกปฏิบัติ เราจะไปทำงานตามโรงพยาบาลต่างๆที่เขาต้องการสุนัขบำบัดเข้าไปช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเด็กพิเศษ ผู้สูงอายุค่ะ

พอมาหลังโควิด เรากำลังจะเปิดเป็นศูนย์สุนัขบำบัดโดยเฉพาะ เพื่อรับฝึกน้องหมาที่จะไปเป็นสุนัขบำบัดด้วย อีกส่วนหนึ่งสาทำช่วงโควิดนี่แหละ งานละครมันไม่มี อีเว้นต์ก็ไม่มี มันเงียบๆเลยรับฝึกน้องหมาให้กับเพื่อน เพราะว่าเราเรียนไปเรื่อยๆ ค่อยๆเพิ่มเลเวล สุดท้ายก็มาทำจริงจังช่วงโควิดนี่แหละค่ะ สร้างรายได้เพิ่มให้กับตัวเอง”

คิดถึงบทแซ่บๆในละคร? “คิดถึงนะคะ จริงๆยังรับละครอยู่ เพราะว่าการฝึกน้องหมามันเหมือนเป็นแค่อาชีพเสริมค่ะ ทำในช่วงที่เราว่าง โดยเฉพาะช่วงโควิด 2 ปีที่ผ่านมาค่ะ งานมันเงียบมาก เราก็หาอะไรทำที่มันจะมีรายได้เข้ามา แล้วก็เป็นอะไรที่เราชอบ เราถนัด เรามีความรู้ เราก็รับทำค่ะ”

เห็นบทละครร้ายๆ ไม่คิดว่าตัวจริงจะเป็นคนใจบุญ รักสัตว์? “จริงๆเป็นคนที่ชอบน้องหมามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ด้วยความที่เราฝึกน้องหมาของตัวเองให้เป็นสุนัขบำบัด เลยรู้สึกว่าการฝึกน้องหมา ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของเขา ใครๆก็ฝึกได้ บางคนอาจจะมองว่าน้องหมาไม่ฉลาดเลย จริงๆสาว่าพันธุ์ไหนก็ตาม ฉลาดทุกตัวค่ะ เพียงแต่ว่าเราจะเข้าใจเขามากแค่ไหน

สาก็จะเน้นสอนให้เจ้าของเข้าใจน้องหมามากขึ้น แล้วสามารถเอาทริกหรือเทคนิคที่สาสอนไปฝึกกับน้องหมาของตัวเองได้ เน้นฝึกเจ้าของให้สามารถฝึกน้องหมาให้ได้ ซึ่งสาจะสอนเป็นเบสิกพื้นฐาน สอนให้น้องหมานั่ง หมอบ เดินสายจูง หรือการห้ามไม่ให้กัดแทะสิ่งของทั่วไป

สำหรับน้องหมาวัยเด็กไม่เกิน 1 ขวบ นอกจากนี้เราก็จะสอนวิธีการอาบน้ำน้องหมา ตัดเล็บยังไง แปรงขนแบบไหน หรือบางบ้านที่เขามีลูกเล็ก เราจะสอนให้เด็กกับน้องหมาเล่นด้วยกันได้อย่างไร โดยที่ต่างคนต่างไม่บาดเจ็บหรือไม่โดนน้องหมากัด

เราสิ่งเหล่านี้มาจากที่ไหน? “เริ่มแรกมาจากสุนัขบำบัดล้วนๆเลยค่ะ ข้อมูลทั้งหมด และวิธีการสอน ที่เหลือสาก็จะเรียนออนไลน์ค่ะ อ่านเอง และทดลองเองด้วย เทคนิคต่างๆที่สาได้มาก็จะเอามาปรับให้มันเป็นเทคนิคเฉพาะในแบบของสา ซึ่งสาเรียนค่อนข้างเยอะและหลากหลาย เรียนทั้งพฤติกรรมน้องหมา จิตวิทยาน้องหมา วิธีการเทรนน้องหมาแบบเบื้องต้น หรือวิธีการเทรนน้องหมาแบบสุนัขบำบัด

ส่วนที่เหลือและเทคนิคอื่นๆ เราใช้น้องหมาของเราเป็นเหยื่อทดลองว่าถ้าเราปรับตรงนี้หน่อยมันจะเป็นอะไรมั้ย อย่างสมัยนี้อุปกรณ์สำหรับน้องหมามันมีเยอะมาก ซึ่งมันช่วยให้ความสัมพันธ์ของเรากับน้องหมามันง่ายขึ้นกว่าสมัยก่อนมากๆ แล้วอุปกรณ์พวกนี้มันจะช่วยน้องหมายังไง

เช่น สายจูงค่ะ มันมีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นสายสั้น สายยาว สายรัดอก ถ้าเราไม่ได้ศึกษาหรือว่าเราไม่เข้าใจวิธีการใช้สายในแต่ละแบบที่ถูกต้อง เราก็จะใช้สายผิดวิธี แต่เมื่อเราใช้สายถูกวิธี แค่เราจับให้ถูก แค่นี้เราก็จะสามารถจูงน้องหมาไปเดินเล่นได้แล้ว ไม่ดึง ไม่วิ่ง โดยที่เจ้าของพลิ้ว หรือหกล้มไป

เรียนมานานหรือยัง? “สะสมความรู้ไปเรื่อยๆเลยค่ะ ตั้งแต่โควิดยังไม่เริ่ม แล้วเราก็มาเรียนหนักๆในช่วงโควิด”

การฝึกสุนัขบำบัดจะช่วยในเรื่องอะไรบ้าง? สุนัขบำบัดเราจะช่วยเรื่องของการที่เราไปดูแลผู้ป่วย หรือว่าเด็กพิเศษ เช่น เด็กออทิสติกหรือว่าเด็กพิการ เราจะฝึกให้น้องหมาของเราอดทนกับความเจ็บปวดได้ระดับหนึ่ง และอดทนกับความตกใจเมื่อน้องจะได้ยินเสียงที่ดัง หรือพฤติกรรมบางอย่างของเด็กพิเศษที่ไม่ปกติได้ค่ะ

เด็กพิเศษบางคนเวลาเขาตื่นเต้นเขาจะปรบมือ หรือบางทีเขาจะจับน้องหมาแบบแรงๆ พวกนี้เราจะฝึกน้องหมาของเราให้อยู่นิ่งๆให้ได้ แล้วเราก็จะค่อยๆสอนเด็กพิเศษว่าวิธีการสัมผัสหมาที่ดี ควรจะจับแบบนี้นะคะ ซึ่งการที่เขาฝึกมันจะช่วยให้เขาเรียนรู้ในสังคมปกติ

เวลาที่เขาเจอเพื่อน ผู้ปกครอง ถ้าเขาดีใจมากๆ เขาจะต้องระวัง ไม่ออกอาการรุนแรง จะจับน้องหมาเบาๆ ก็จะไปช่วยตรงนี้ได้ค่ะ หรือวิธีการฝึกอีกอันหนึ่งที่เราสามารถเอาไปปรับใช้กับคนปกติทั่วไปได้ คือบ้านไหนที่มีเด็กเล็ก เวลาที่เขาจับเขาจะจับแรงก็จะมีสอนว่าคุณจะฝึกน้องหมายังไง ฝึกเด็กยังไง”

มันค่อนข้างได้ผลไหม? “มันได้ผลนะคะ แต่ว่าน้องหมาจะเก่งหรือไม่เก่งอยู่ที่เจ้าของ มีความขยันมากแค่ไหนในการฝึก แล้วก็เรียนรู้ทำสิ่งต่างๆได้ด้วยการทำซ้ำบ่อยๆ สามักจะย้ำกับคนที่สอนเสมอว่าสาขอฝึกแค่ครั้งละ 5 นาทีพอ แต่ขอให้ทำทุกวัน ถ้าขยันทำทุกวัน น้องหมาจะมีอาการดีขึ้นแน่นอน

จะเห็นได้จากรีวิวหลายๆคนที่เคยเรียนกับสาแล้วว่าน้องหมามีความนิ่งขึ้น มีสมาธิมากขึ้น จะช้าจะเร็วก็อยู่ที่เจ้าของด้วย คือถ้าสาไปสอนให้แล้วน้องหมาสามารถทำตามคำสั่งของสาได้ แปลว่าน้องทำได้ แสดงว่าเจ้าของก็สามารถทำได้เหมือนกัน”

สุนัขบำบัดมีกี่ตัว? ถ้าสุนัขบำบัดมีตัวเดียวค่ะ เป็นน้องซันเดย์ค่ะ เป็นพันธุ์บอร์เดอร์ คอลลี่ น้องซันเดย์ก็จะมีเพจด้วย ชื่อเพจ “sundaythebordercollie” ในเพจสาก็จะลงในเรื่องของการรีวิวของต่างๆกับน้องหมา ทริกการฝึกน้องหมาก็จะมีในนั้นด้วย คือถ้าไม่ได้ลงเรียนกับสาไปดูในเพจก็ได้ค่ะ

คือที่สารับฝึกน้องหมาตามบ้าน คือสาไปฝึกให้ถึงบ้าน ราคาก็ไม่ได้แพงอะไรมากมาย สาตั้งใจอยากช่วยให้คนที่มีน้องหมาเข้าใจเขามากขึ้น สาไม่อยากให้คนเลี้ยงน้องหมาทิ้งเขา เพราะว่าไม่เข้าใจเขาหรือควบคุมเขาไม่ได้ ถ้าเราจับเทคนิคได้ จับจุดของน้องหมาแต่ละตัวได้ น้องหมาก็จะน่ารัก

เจ้าของก็ไม่ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือปวดหัวกับการที่จะเลี้ยงเขา หรือเลี้ยงไม่ไหวแล้วทิ้ง สาก็เลยตั้งใจจะไปสอนตามบ้าน เพราะวัตถุประสงค์เราไม่ได้ทำเพราะว่ามันจะได้เงินเยอะ หรือว่ามันจะได้รายได้เป็นกอบเป็นกำ มันไม่ใช่ค่ะ เพราะรายได้หลักของสาคือยังรับงานละครอยู่

น้องอายุเท่าไหร่ เพศอะไร? “น้องเป็นผู้หญิงค่ะ อายุประมาณ 3 ขวบแล้วตอนนี้”

สุนัขที่จะสามารถไปบำบัดได้ ต้องมีคุณลักษณะอะไรพิเศษ? “ไม่มีเลยค่ะ จริงๆแล้วเป็นน้องหมาสายพันธุ์ไหนก็ได้ขอให้มีอายุ 1 ขวบครึ่งขึ้นไป แล้วก็อยู่กับเจ้าของ ไม่ใช่ว่าเจ้าของไม่ได้เลี้ยง หรือไม่ได้ดูแลเป็นประจำ แต่การที่คนจะเข้ามาร่วมทีมกับสุนัขบำบัดของเราได้ ต้องไปสอบก่อนเหมือนสอบเข้าโรงเรียนค่ะ สอบทั้งเจ้าของ และน้องหมา

ถ้าใครที่สนใจในเรื่องของสุนัขบำบัดก็เข้าไปในเพจ Therapy Dog Thailand ในนั้นก็จะมีรายละเอียดอยู่ หรือส่งข้อความมาในอินบล็อกเฟซบุ๊กของสาก็ได้ ไอจีก็ได้ ถ้าสนใจเรื่องนี้ก็สามารถตอบให้ได้ค่ะ”

ในส่วนของการสอบยากไหม? “หลักๆแล้ว สำหรับตัวเจ้าของจะทดสอบใจเรื่องของจิตวิทยา เป็นไปในลักษณะคุยกันมากกว่าว่าคุยแล้วคนนี้เป็นยังไง เพราะว่าเราจะต้องไปคุยกับผู้ป่วยด้วย อันที่สองสำหรับน้องหมาก็จะต้องทำคำสั่งพื้นฐานได้ คือ นั่งได้ หมอบได้ คอยได้ เดินสายจูงเป็น คณะกรรมการที่เป็นต่างชาติก็จะเข้ามาดูเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างน้องหมากับเจ้าของ

อันนี้ก็ค่อนข้างสำคัญ ซึ่งการเรียนคลาสตรงนี้เราก็จะไปใบประกาศนียบัตรจากต่างประเทศ หลักสูตรมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็มีใบ มีเลขประจำตัวเรียบร้อยว่าสุนัขบำบัดเบอร์นี้ ลงทะเบียนเรียบร้อยค่ะ

เราสามารถนำมาต่อยอด สร้างรายได้? “ถ้าสำหรับการฝึกสุนัขบำบัด ตอนนี้ยังไม่มีค่ะทั้งหมดที่เราทำกัน ทีมสุนัขบำบัดทั้งหมด 20 ทีม ก็คือ 20 ตัว เป็นจิตอาสาทั้งหมดนะคะเราไม่ได้เงิน แต่ที่รับฝึกน้องหมาตามบ้านอันนี้ได้เงินค่ะ เป็นคนละส่วนกันสำหรับ Therapy Dog กับ Dog Trainer ”

เห็นในต่างประเทศมีแบบนี้เยอะ ในไทยมีเยอะไหม? “ไม่มีค่ะ เราเป็นทีมแรก และทีมเดียวที่เป็นออฟฟิเชี่ยล ก็กำลังทำเรื่องขอการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการอยู่ค่ะ เพื่อให้เป็นหลักสูตรที่ได้ใบรับรอง อันนี้ก็จะเป็นเรื่องของอนาคตค่ะ ว่าต่อไปมันน่าจะสร้างรายได้ได้ แต่ว่าตอนนี้ยังค่ะ ตรงนี้จุดโครงการมันเพิ่งเริ่มได้ไม่นานค่ะ

อาชีพครูฝึกสุนัข ฟีดแบ็กไปได้ดี? “ค่อนข้างดีนะคะ คิวของสาตอนนี้เดือนพฤศจิกายนคิวเต็มหมดแล้ว ธันวาคมก็ใกล้เต็มหมดแล้ว จริงๆสาเริ่มทำมาประมาณช่วงมิถุนายน ทำแบบจริงจังค่ะ 4 วัน วันพฤหัสฯ-วันอาทิตย์ เต็มหมดแล้วค่ะ

เนื่องจากว่าสมัยนี้คนสนใจให้ครูไปฝึกให้ถึงบ้านดีกว่า จะได้เห็นปัญหาชัดเจน คุยกันต่อต่อตัว บางคนก็ไม่อยากจะส่งลูกไปโรงเรียนฝึก ทิ้งลูกไว้ 1-2 เดือน บางคนเขาก็เป็นห่วง เขาก็สบายใจกว่าที่จะให้ครูมาสอนให้ที่บ้านค่ะ ”

ยังจะได้เห็นลุกส์แซ่บๆบนจอ? “ก็มีแหละ ถ้ามีคนจ้างก็ไปค่ะ สู้ตายเหมือนกันละครก็ยังอยากเล่นอยู่ ไม่ได้ทิ้ง เข้าใจสถานการณ์โควิด และโปรเจ็กต์หลายอย่างที่เคยเข้ามาก็เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ แต่เชื่อว่าถ้าทุกอย่างมันเข้าที่เข้าทางมันก็น่าจะดีขึ้น แต่ระหว่างที่มันยังไม่ดีขึ้น เราก็ทำอันนี้ไปก่อนได้ค่ะ

ตอนนี้มีสุนัขที่บ้านกี่ตัว? “ตอนนี้มี 2 ตัวค่ะ หลักๆมี ชิวาวา 1 ตัว และก็มี บอร์เดอร์ คอลลี่ 1 ตัว ส่วนตัวอื่นๆที่เห็นโพสต์ก็เป็นลูกศิษย์หมดเลย”

อยากแนะนำอะไรสำหรับคนรักสัตว์? “อยากแรกเลยเวลาที่เราจะไปซื้อน้องหมา อยากให้ดูสายพันธุ์นิดนึง อยากให้ย้อนไปดูถึงต้นกำเนิดค่ะว่าน้องหมาพันธุ์นี้เขาเพาะมาสำหรับกิจกรรมแบบไหน เราจะได้พอเข้าใจเขาคร่าวๆ เราจะได้รู้ว่าน้องหมาตัวนี้เขาจะมีลักษณะนิสัยแบบไหน พลังงานประมาณไหน เหมาะกับไลฟ์สไตล์หรือชีวิตประจำวันของเราหรือเปล่า

อย่างเช่นน้องหมาบางตัวเป็นตระกูลที่ใช้สำหรับต้อนสัตว์ในฟาร์มก็ต้องเข้าใจว่าต้อนสัตว์ในฟาร์มพลังงานเขาค่อนข้างเยอะ คุณมีเวลามากพอมั้ยที่จะพอเขาไปทำกิจกรรมที่เขาจะปล่อยพลังงานของเขาได้เต็มที่ ถ้าเป็นสายชิลไม่ชอบออกกำลังกาย ไม่อบทำกิจกรรมก็อาจจะต้องเลือกน้องหมาสายพันธุ์อื่นที่มีความนิ่ง ไม่ค่อยแอ๊กทีฟมาก แล้วการเลี้ยงน้องหมาต้องค่อยๆทำความเข้าใจเขา”

………..

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน