นครปฐม – โรงเชือด แฉรัฐ รู้อหิวาต์หมูมีมาเป็นปี แต่ปิดข่าว คนขับสิบล้อแฉซ้ำ ถูกจ้างให้นำหมูไปฝังเป็นพันตัว แต่วันนี้จะมาโยนบาปให้โรงเชือด

11 ม.ค. 2565 – ที่ จ.นครปฐม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบการโรงฆ่าสัตว์ หรือโรงหมู ต่างไม่พอใจกับการตกเป็นจำเลยสังคม กรณีการตรวจพบเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ที่อ้างว่าจากตัวอย่างพื้นผิวสัมผัสบริเวณโรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งที่มาจาก จ.นครปฐม และมีผลบวกเชื้อ ASF

ตัวแทนผู้ประกอบการโรงฆ่าสัตว์ กล่าวว่า การเข้าตรวจ หรือการเข้ามาเก็บตัวอย่างหาเชื้อโรค โดยการใช้ผ้าก๊อซมาเช็ด ซับน้ำเลือดจากพื้นในโรงฆ่าสัตว์ แล้วนำไปตรวจวิเคราะห์โรคนั้น ไม่น่าจะเป็นการกระทำที่ถูกต้องที่สุด เพราะโรงฆ่าสัตว์ มีทั้งยานพาหนะขนส่งสินค้า ขนย้ายสุกร และคนงานเดินเข้าเดินออกมากมายในแต่ละชั่วโมงในหนึ่งวัน อาจจะมีเชื้อโรคต่าง ๆ ปนเปื้อนที่พื้นได้

ทางที่ถูกต้องคือ การจะตรวจหาเชื้อโรคที่ร้ายแรงขนาดนี้ ต้องตรวจเลือดสัตว์ คือ สุกร จึงจะถูก ไม่ใช่มาสุ่มเอาสารคัดหลั่งจากพื้นในโรงเชือดแบบนี้

โรคอหิวาต์ในหมู เกิดมาเป็นปีแล้ว ฟาร์มก็รู้ว่าเป็น ASF ปศุสัตว์ก็รู้ว่าหมูที่ป่วย แรก ๆ ยังให้นำหมูที่ป่วยไปฝังกลบ กินไม่ได้ ต้องให้ทิ้งเท่านั้น โดยราชการจ่ายเงินชดเชยให้ แต่ต่อมาระยะยาว ตายมากขึ้น แก้ไขไม่จบ จึงประกาศว่ากินได้

เมื่อพบหมูป่วย ก็แจ้งไปทางปศุสัตว์เข้าตรวจ ออกใบอนุญาต เคลื่อนย้ายเพื่อนำไปเชือดก่อนตาย แล้วนำไปขายได้ บางเล้าหมูอายุน้ำหนัก 20 กิโลกรัม เป็นร้อย ๆ ตัวติดเชื้อต้องขายออกกิโลละ 13 บาท เฉลี่ยตัวละสองพันกว่าบาท ขณะที่ค่าลูกหมูตัวละ 2,000 บาท ฟาร์มลักษณะนี้ เจ๊งหมดตัว 100% ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดมาเป็นปี แต่ถูกเก็บไว้ ด้วยเหตุผลอะไร ผู้ประกอบการเลี้ยงสุกรเจ๊งระนาว วันนี้จะมาโยนบาปให้โรงเชือด มันไม่เป็นธรรม

ขณะที่แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุกสิบล้อรายหนึ่ง กล่าวว่า เคยได้รับการว่าจ้างให้นำสุกรไปฝังกลบเป็นพันตัว ที่ อ.กำแพงแสน โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้ประสาน ที่น่าตกใจคือ คนขับรถต้องฆ่าเชื้อด้วยวิธี “อาบน้ำยา” แสดงให้เห็นว่าเชื้อโรคตัวนี้รุนแรงมาก คนงานที่อาบน้ำยาฆ่าเชื้อก็แพ้น้ำยาฆ่าเชื้อ เป็นแผลคันไปหมด ก็ไม่มีใครตอบได้ว่าเชื้อโรคตัวนี้คือเชื้อโรคอะไร รู้เพียงว่ามันรุนแรง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน