‘น้อยหน่า’ เปิดสารภาพลงมือฆ่า ‘เจ๊แดง’ คาบ้านพักในพื้นที่ จ.บึงกาฬ เล่าคืนเกิดเหตุ อ้างถูกด่า ตำรวจเผยจุดผิดสังเกต ก่อนเรียกสอบ
จากกรณีพบศพ นางอนัญญา (ขอสงวนนามสกุล) หรือ เจ๊แดง อายุ 47 ปี เจ้าของร้านชำ ถูกปาดคอเสียชีวิตภายในร้าน พื้นที่ ม.1 บ้านป่งไฮ ต.ป่งไฮ อ.เซกา จ.บึงกาฬ ตรวจสอบพบมีทรัพย์สินหายไปหลายรายการ ซึ่งผู้ตายหย่ากับสามีได้ 6 ปี และอยู่ที่ร้านเพียงคนเดียว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยหลายรายมาสอบปากคำ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : ผู้ต้องสงสัย 18 คน! ตร.เร่งคลี่คดีฆ่า ‘เจ๊แดง’ เผยปมรอยเท้าในร้าน ด้าน ‘ด.ต.’ รับมีสัมพันธ์จริง
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ก.ค.2565 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ บำรุงสวัสดิ์ ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ควบคุมตัว น.ส.น้อยหน่า (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี สาวทอมคนสนิทนางอนัญญา ผู้ตาย มาสอบสวนเนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัยในคืนเกิดเหตุ เพราะเป็น 1 ใน 3 คนที่นั่งดื่มกินบนม้าหินอ่อนข้างบ้านและใกล้หน้าต่างที่นางอนัญญานอนพักอยู่บนโซฟา
พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวต่อว่า น.ส.น้อยหน่า ได้เล่าเหตุการณ์ก่อนมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นว่า หลังจากที่นั่งดื่มกินด้วยกันกับเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งเป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งหมด ตนเองได้ขอยืมรถจักรยานยนต์ของนางอนัญญาออกไปธุระ ขณะนั้นเวลาประมาณ 21.30 น. และได้กลับมาอีกทีประมาณ 22.00 น. ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พอกลับมาที่บ้านนางอนัญญาไม่พบเพื่อนอีก 2 คนที่นั่งกินด้วยกัน จึงได้เข้าไปในบ้านนางอนัญญาเพื่อคืนลูกกุญแจรถ แต่ถูกผู้ตายต่อว่า จึงเกิดการโต้เถียงทะเลาะเกิดขึ้น โดยผู้ตายโมโหได้คว้ามีดแหลมจะมาแทงตนเองจึงได้เกิดการต่อสู้แย่งมีดกันขึ้น เมื่อแย่งมีดกลับคืนมาได้จึงผลักล้มลงไปนอนบนโซฟา แล้วได้ใช้มีดปาดคอตายดังกล่าว
‘น้อยหน่า’ เปิดสารภาพลงมือฆ่า ‘เจ๊แดง’ คาบ้านพักในพื้นที่ จ.บึงกาฬ เล่าคืนเกิดเหตุ
จากนั้น ก็ได้ขึ้นไปชั้นบนบ้านเพื่อค้นหาทรัพย์สินของมีค่า และลงมาถอดแหวนของผู้ตายไป 1 วง ส่วนอีกวงถอดไม่ได้แล้วก็ปีนออกหน้าต่างไป ก่อนจะปั่นจักรยานนำมีดปลายแหลมไปทิ้งลงแม่น้ำฮี้ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร และเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้นำแหวนของผู้ตายมาโยนทิ้งไว้ข้างโซฟาที่พบศพนางอนัญญา จึงทำให้เป็นที่สงสัยและผิดสังเกตของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก
เนื่องจากวันที่พบศพนางอนัญญานั้น ทุกคนตรวจค้นหาทรัพย์สินทุกอย่างในที่เกิดเหตุและใกล้เคียงแล้วว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้างที่ตกหล่นอยู่ในที่เกิดเหตุแต่ไม่พบแหวนวงดังกล่าว ซึ่งมาพบเอาเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก จึงคาดว่ามีคนที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมในครั้งนี้เป็นคนนำแหวนวงนี้มาทิ้งเอาไว้ ซึ่งไม่น่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยรายที่ถูกควบคุมตัวมาก่อนหน้านี้ เป้าหมายจึงเปลี่ยนเป็นมาหากลุ่มผู้นั่งดื่ม 3 คนก่อนพบศพนางอนัญญา
แหวนของผู้ตายที่ผูก่อเหตุนำกลับมาโยนไว้ภายในบ้าน
ส่วนวันนี้ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ เหนือโพธิ์ทอง พนักงานสอบสวน จะได้นำหลักฐานที่ พฐ.บึงกาฬมาตรวจหาดีเอ็นเอซึ่งมีแหวน 1 วงแล้วก็เส้นผมนำเข้าไป พฐ.ภาค 4 เพื่อเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยตามหลักนิติวิทยาศาสตร์
ขณะนี้ชุดสืบสวน ตร.ภ.4 กำลังสอบ น.ส.น้อยหน่าเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม จากที่อ้างว่าวันเกิดเหตุได้ใส่เสื้อสีแดงกางเกงขาสั้น เพื่อนำมาประกอบเป็นพยานหลักฐานในคดี ส่วนมีดปลายแหลมที่ใช้เชือดคอนั้น ตำรวจจะใช้นักประดาน้ำมาช่วยงมหามีดที่สาวทอมอ้างทิ้งลงไปในลำห้วยฮี้ ซึ่งขณะนี้มีน้ำไหลหลากมากเนื่องจากเป็นหน้าฝน น้ำก็ไหลลึกจึงเป็นอุปสรรคในการค้นหา อย่างไรก็ตาม หากผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์ออกมาตรงกับผู้ต้องสงสัยรายนี้แล้ว ก็จะไม่มีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมมาว่า ขณะนี้ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหากับน.ส.น้อยหน่าแต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะไปขออนุญาตศาลออกหมายจับ ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
