ดาราสาวแจ้งความเพิ่มอีก 4 ข้อหา เอาผิดหลานอดีต รมต. ยันไม่เคยแบล็กเมล์ ลั่นคนพูดลอยๆ ต้องเจอแบบนี้ ด้านทนายเผยผู้ต้องหาโดนไปแล้วรวม 13 ข้อหา

กรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พานักแสดงสาววัย 21 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย เพื่อติดตามความคืบหน้า กรณีถูกนักธุรกิจเจ้าของบริษัทใหญ่ หลานชายอดีตรัฐมนตรี ก่อเหตุวางยาข่มขืนในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ย่านนาคนิวาส 2 ต่อมา นายอภิดิศร์ หรือเอ็ม หลานชายอดีต รมว.ต่างประเทศ ผู้ถูกกล่าวหา เดินทางมาพร้อมทนายความ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา ขณะเดียวกันช่วงเช้าวันนี้ (30 ส.ค.) ดาราสาวได้เดินทางไปที่ศาลาญา เพื่อยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ถูกกล่าวหา และศาลก็ไม่อนุญาตให้ประกันตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 30 ส.ค.65 ที่ สน.โชคชัย ทีมงานของทนายตั้ม ได้พา น.ส.แนน (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ดารานักแสดง มาแจ้งความ 4 ข้อหา กับ นายอภิดิศร์ ในความผิดฐาน ทำพยานหลักฐานเท็จเพื่อให้เกิดคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 179 มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ข้อหาที่ 2 ทำลายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 แสนบาท, ข้อหาที่ 3 ปลอมเอกสาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาที่ 4.หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

ด้าน นายเนติธร สุรักษ์กิตติกุล ทนายความประจำสักนักงาน Sittra Law Firm กล่าวว่า วันนี้พาผู้เสียหายมาแจ้งความเพิ่ม กรณีหลักฐานการคุยแชทถูกลบจากโทรศัพท์ และมีการยกเลิกข้อความจากโทรศัพท์ของผู้ต้องหาเอง และยังกล่าวหาผู้เสียว่าแบล็คเมล์

ทางด้าน น.ส.แนน กล่าวว่า หลังจากผู้ก่อเหตุไม่ได้รับการประกันตัว ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นระดับหนึ่ง รู้สึกว่าตัวเองและพยานปลอดภัยขึ้น แต่ก็ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ เลยมาแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทด้วย ทำให้คนอื่นที่ไม่รู้จักเข้ามาด่าว่าแบล็คเมล์เพราะอยากได้เงิน อยากทำให้คนที่พูดลอยๆ ต้องเจออะไรแบบนี้ เรื่องคดีจะไม่ยอมความแน่นอน ยืนยันว่าไม่เคยกินยานอนหลับเองแล้วมาแจ้งความ เพราะมันก็ทำให้ตัวเองเสียหาย ส่วนตำรวจชุดใหม่ที่เข้ามาทำคดี ก็รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น แต่ก็ต้องดูให้ละเอียดอีกด้วย

ขณะที่ พี่สาวของผู้เสียหาย กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักฐานที่ส่งให้ตำรวจก็มีความแน่นพอสมควร แต่ผู้ก่อเหตุทำให้น้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ยืนยันว่าน้องไม่เคยเรียกรับเงินแม้แต่บาทเดียว มีแต่ทางผู้ก่อเหตุติดต่อมาพยายามเสนอเงินให้ ทางน้องตอบไปชัดเจนว่าไม่ต้องการเงิน ส่วนผลการตรวจร่างกาย รอผลตรวจเลือดอย่างเป็นทางการ ว่าจะพบสารยานอนหลับหรือไม่

อย่างไรก็ตาม นายอภิดิศร์ ถูกแจ้งไปแล้ว 13 ข้อหา หลังจากก่อนหน้านี้ถูกแจ้งไป 9 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ปลอมปนอาหารให้ผู้เสียหายดื่ม (ใส่ยานอนหลับในเครื่องดื่ม) , 2.ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย , 3.กระทำอนาจารผู้เสียหาย , 4.บทเพิ่มโทษกรณีข่มขืนกระทำชำเรา ตามข้อ 2 และอนาจารตามข้อ 3 ที่กระทำกับผู้ซึ่งอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถรู้ผิดชอบ (ถูกมอมยาจนสลบหรือหลับ) , 5.ทำร้ายร่างกาย (การข่มขืน กับ การมอมยา ถือเป็นการทำร้ายร่างกายและจิตใจ) , 6.บทเพิ่มโทษกรณีทำร้ายร่างกาย ตามข้อ 5 ที่กระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , 7.หน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้เสียเสรีภาพ (การมอมยา ทำให้เสียเสรีภาพ) , 8.ข่มเหง รังแก ผู้เสียหาย ในลักษณะการล่วงเกินทางเพศ และ 9. พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เข้าถึงและเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยมิชอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน