ตามรวบโจรเดินเข้าบ้าน ฉกโทรศัพท์มือถือ ก่อนออกไปหน้าตาเฉย สารภาพนำไปขายแลกยาบ้ามาเสพ เพียง 200 บาท เจ้าทุกข์วอนกฎหมายเข้มงวดกว่านี้
วันที่ 1 มี.ค.2567 นายศุภกาณ์ โชตยาธิวัฒน์ เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์‘ หลังโจรแอบย่องเข้าบ้านขโมยโทรศัพท์ ไปแลกกับยาบ้า 4 เม็ดเสพจนเบลอ นายศุภกาณ์ กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 10 โมงครึ่ง พ่อได้โทรศัพท์มาบอกว่า มีชายแปลกหน้าเดินเข้ามาภายในบ้าน ก่อนจะเดินออกไป โดยไม่ได้พูดอะไร
โดยพ่อบอกว่า “ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย ก็มีคนเดินเข้ามาในบ้าน และเดินไปถึงหลังบ้าน” จากนั้นก็เดินออกไป ตนจึงรีบถามว่า “ได้หยิบอะไรติดไม้ติดมือไปหรือไม่” ซึ่งในขณะนั้น พ่อยังไม่ได้ตรวจสอบทรัพย์สินให้แน่ชัด จึงตอบกลับไปว่า “ไม่มีอะไร” ตนจึงป้องกันความปลอดภัย เนื่องจากมีคนไม่รู้จักเดินเข้ามาถึงในบ้าน จึงให้พ่อไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในป้อมตรงข้ามบ้าน เพื่อป้องกันความปลอดภัย เผื่อชายคนดังกล่าวกลับ
จากนั้นตนจึงได้ไล่เช็กกล้องวงจรปิดผ่านในแอปโทรศัพท์มือถือ ก็เห็นว่า โจรได้เข้าไปในบ้านประมาณ 3 นาที ต่อมาตนได้นำคลิปวงจรปิดที่บันทึกไว้โพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า รบกวนช่วยแชร์เป็นหูเป็นตาให้หน่อย เพราะบุคคลนี้เข้ามาในบ้าน โดยที่ไม่ใช่คนรู้จัก จึงอยากรู้ว่าจุดประสงค์ที่เข้ามาในบ้านคืออะไร
ต่อมามีคนทักแชทมาให้ข้อมูลกับตนว่า น้องคนนี้มีพฤติกรรม ไปขโมยของบ้านคนอื่นมาแล้วหนึ่งครั้ง เมื่อได้รับข้อมูลแบบนี้ จึงรีบตรงไปที่บ้านของพ่อกับแม่ทันที ระหว่างนั้นพ่อก็โทรมาบอกว่า “มันเอาโทรศัพท์ไปเครื่องหนึ่ง”
ตนจึงให้พ่อไปแจ้งความ และก็รีบขับรถไปหาพ่อทันที แต่ระหว่างทางดันขับรถสวนกับโจรพอดี ตนจึงรีบขับรถตามไป พบว่าคนร้ายได้ไปจอดรถที่บ้านเพื่อน ตนจึงบอกคนในบ้านว่า ให้เรียกชายคนดังกล่าวออกมาพบเพราะเขาได้ขโมยโทรศัพท์ไป
เมื่อคนร้ายออกมา ตอนแรกเจ้าตัวยังไม่รับสารภาพว่าเป็นคนขโมยโทรศัพท์ไป แต่สุดท้ายก็รับสารภาพว่า เอาโทรศัพท์ไปแลกกับยาบ้า 4 เม็ด เม็ดละ 50 บาท รวม 200 บาท แต่ราคาโทรศัพท์ที่ขโมยไปนั้น ราคา 7,000 – 8,000 บาท ตอนแรกที่ได้ยินเหตุผล รู้สึกโกรธมาก เพราะกลัวว่า ถ้าหากขณะก่อเหตุพ่อแม่ไปเจอ แล้วคนร้ายเกิดทำอะไรพ่อแม่ขึ้นมา จะทำยังไง พ่อแม่อาจจะตกเป็นอันตรายก็ได้
“คนร้ายเคยถูกจับกุมและได้รับการบำบัดมาแล้ว แต่ก็กลับมาเสพยาอีก ตนมองว่ากฎหมายเรื่องยาเสพติดบ้านเรามันอ่อนเกินไป ยิ่งมีกระแสว่า ยาบ้า 5 เม็ดถือว่าเป็นผู้เสพ สำหรับเหตุที่เกิดขึ้น คนร้ายอุกอาจเกินไป ถึงขนาด กล้าบุกเข้ามาขโมยทรัพย์สิน ในขณะที่เจ้าของบ้านอยู่ด้วย ก็ยิ่งรู้สึกว่า ผู้เสพยอมทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้ยามาเสพ รู้สึกว่ากฎหมายไม่สามารถทำให้คนเชื่อมั่นได้ จึงอยากให้กฎหมายเข้มงวดมากกว่านี้” นายศุภกาณ์กล่าว
