ลูกชายคนตายเปรียบแม่เหมือนถูกทิ้งไว้ไม่ต่างจากเด็กอนุบาลถูกลืมในรถตู้ ไร้ไลฟ์การ์ดดูแล เคยเตือนแม่ให้ออกกำลังเบาๆอยู่กับบ้านมาก่อนแล้ว
จากกรณีนางธันชนก เพชรแก้ว อายุ 71 ปี เสียชีวิตอยู่ในห้องซาวน่าในสภาพผิวหนังหลุดลุ่ย อยู่ในฟิตเนสแห่งหนึ่งของห้างสรรพสินค้าย่านแจ้งวัฒนะ ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 11 มิ.ย.2567 ที่วัดผาสุกมณีจักร ทางครอบครัวของนางธันชนก ได้รับร่างมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ ศาลา 2 วัดผาสุกมณีจักร หลังจากที่แพทย์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ทำการผ่าตัดชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงแล้ว เกิดจากการขาดอากาศขาดใจ และผิวหนังมีบาดแผลจากการถูกความร้อนสะสมเป็นเวลานาน
ด้าน นายจรัญ ลูกชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาแม่จะเข้าใช้บริการฟิตเนสแห่งนี้เป็นประจำเกือบทุกวัน แต่ในวันเกิดเหตุพ่อพาแม่ไปส่งตอนเวลา 8 โมงเช้าตามปกติ ซึ่งแม่จะเข้าไปใช้บริการแล้วเลิกกลับออกมาประมาณ 10-11 โมงเช้า ขอยืนยันว่าแม่ไม่มีโรคประจำตัวใดๆทั้งสิ้น
ก่อนหน้านี้ตนก็เคยมาสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสแห่งนี้ แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร เข้าไปแป๊บเดียวก็ออกมา แต่รู้ว่าห้องซาวน่าที่นี่เป็นระบบออโต้ ไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้เอง ซึ่งเมื่อวานนี้หลังจากที่ทราบข่าวคุณแม่แล้ว ก็ได้เข้าไปในที่เกิดเหตุ และได้เข้าไปสังเกตภายในห้องซาวน่าของฝั่งผู้ชาย
ซึ่งมีลักษณะโครงสร้างเดียวกันกับห้องซาวน่าหญิง ก็พบว่าห้องซาวน่ามีอุณหภูมิที่ร้อนมาก เพราะแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่เข้าไปดู ยังบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ภายในห้องร้อนมาก ไม่ทราบว่าทางฟิตเนส มีการเซ็ตระบบเอาไว้อย่างไร
นายจรัญ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ไม่นาน ได้เคยบอกเตือนแม่ไปแล้วว่า ไม่อยากให้ไปฟิตเนส อยากให้ออกกำลังกายเบาๆ อยู่กับบ้านมากกว่า แต่ทางแม่ที่ไปซาวน่าเป็นประจำ ก็เพราะว่าเขามีเพื่อน มีกลุ่มสมาคมอยู่ที่ฟิตเนสแห่งนี้ จึงเหมือนไปได้พบปะเจอเพื่อนฝูง ตามประสาคนแก่ที่ปลดเกษียณมา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ครอบครัวยังคงติดใจ เพราะการให้บริการในลักษณะนี้ ควรจะมีการตรวจสอบ และลงเวลาเข้าออก เพราะทางฟิตเนสจะไม่รู้เลยว่า สภาพแต่ละคนที่มาใช้บริการ แต่ละคนเป็นยังไง บางคนอาจจะหน้ามืด ขณะเข้าไปใช้งานก็ได้ แต่กลับไม่มีคนดูแล หรือไลฟ์การ์ดที่คอยเดินตรวจตรา
ดูแลความปลอดภัย อีกทั้งป้ายแจ้งเตือนการใช้งานใดๆ ก็ไม่มีบอกเอาไว้ กรณีที่เกิดขึ้นกับแม่ จึงไม่ต่างอะไรกับการปล่อยเด็กเล็กเอาไว้ในรถตู้เลย เพราะหากมีคนไปเดินตรวจ 10-20 นาทีต่อครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรทำ และจนถึงตอนนี้ทางครอบครัวตนยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากทางฟิตเนส ยอมรับว่าเสียใจมากจนไม่รู้จะพูดอะไร