การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 คู่ที่ 3 ของวันที่ 20 มิ.ย. ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดี้ยม เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซีย เจ้าภาพที่นัดแรกโชว์ฟอร์มหรู ถล่ม ซาอุดีอาระเบีย 5-0 ลงสนามนัดที่ 2 พบ อิยิปต์ ที่นัดแรกแพ้ อุรุกวัย 0-1

สำหรับเกมนี้ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ กุนซือรัสเซีย จัดทัพในระบบ 4-2-3-1 ผู้รักษาประตูเป็น อิกอร์ อคินเฟเยฟ แผงหลังใช้ ยูริ ชีร์คอฟ, เซอร์เก อิกนาเชวิช, อิเลีย คูเตปอฟ, มาริโอ แฟร์นานเดส กองกลางตัวรับสองคนให้ โรมัน ซอบนิน จับคู่กับ ยูริ กาซินสกี คอยตัดเกม ส่วนมิดฟิลด์ทำเกมรุกเป็น อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, เดนิส เชริเชฟ และกองหน้าตัวเป้าเป็น อาร์เตม ซูบา

ขณะที่อียิปต์ของ เอ็กตอร์ คูเปร์ มาในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน ผู้รักษาประตูเป็น โมฮาเหม็ด เอล-เชนาวี กองหลัง 4 คนประกอบด้วย อาห์เหม็ด ฟาธี, อาลี กาบร์, อาห์เหม็ด เฮกาซี, โมฮาเหม็ด อับเดล-ชาฟี มิดฟิลตัวตัดเกม 2 คนใช้ ตาเรก ฮาเหม็ด คู่กับ โมฮาเหม็ด เอลเนนี ส่วนกลางรุกให้ เทรเซเกต์, อับดุลลาห์ ซาอิด และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวดังที่ผ่านความฟิตลงเกมนี้เป็นเกมแรก เป็น 3 ประสานอยู่หลัง มาร์วัน โมห์เซน กองหน้าตัวเป้า

ครึ่งแรกเกมเป็นไปอย่างสูสี โดยรัสเซีย อาศัยบอลโยนยาวซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่ อาร์เตม ซูบา กองหน้าตัวเป้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ขณะที่อียิปต์ใช้ไสตล์ต่อบอล และขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายของ เทรเซเกต์ บ่อยครั้ง สลับกับวางยาวไปให้มาร์วัน โมห์เซน ศูนหน้า พักบอลแต่สุดท้ายทั้งสองทีมยังจบสกอร์ไม่คม จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังเริ่มมาได้เพียง 2 นาที แฟนเจ้าบ้านได้เฮกันลั่น เมื่อ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน เปิดจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปกลางประตู โมฮาเหม็ด เอล-เชนาวี พุ่งปัดไปเข้าทาง โรมัน ซอบนิน วิ่งเข้ามาซัดด้วยขวาจากนอกกรอบ บอลพุ่งไปทาง อาห์เหม็ด ฟาธี ที่ยื่นขาออกมาสกัด แต่โชคร้ายโดนเหลี่ยมไม่ดีเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองทำให้รัสเซียขึ้นนำ 1-0

หลังโดนนำอียิปต์พยายามบุกทวงประตูคืน แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่แน่นอน กลับเป็นรัสเซีย ที่ค่อยๆตั้งเกม จนมาได้ประตูหนีเป็น 2-0 นาที 60 จากการเข้าชาร์จของเดนิส เชริเชฟ

จากนั้นรัสเซีย ยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ ถัดมา 2 นาที อาร์เตม ซูบา รับบอลจากแดนหลัง ก่อนแตะหลบกองหลังอียิปต์เข้าไปยิงเสาแรก เป็นประตูให้รัสเซีย ทิ้งห่างเป็น 3-0

แม้จะโดนนำถึง 3 ประตูแต่นักเตะอียิปต์ ยังวิ่งสู้ฟัด ท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมา นาที 71 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดนดึงล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินดูวีดิโอ ช่วยตัดสินก่อนชี้เป็นจุดโทษ สุดท้ายเป็น ซาลาห์ ที่ลุกขึ้นมาสังหารเข้าไปตุงตาข่าย ให้อียิปต์ ไล่เป็น 1-3

ช่วงเวลาที่เหลืออียิปต์ ยังสู้ยิบตา แต่รัสเซีย ยังครองบอลเหนียวแน่น ทำให้อียิปต์ ไม่ค่อยมีโอกาสสร้างจังหวะลุ้นประตู จบ 90 นาที รัสเซีย ชนะ อียิปต์ 3-1 ส่งผลให้รัสเซีย จ่อเข้ารอบเต็มที หากผลอีกคู่ในกลุ่มเอ อุรุกวัย เสมอ ซาอุดีอาระเบียเป็นอย่างน้อย ขณะที่ อิียิปต์ โอกาสตกรอบเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องลุ้นให้ผลอีกคู่ ซาอุดีอาระเบีย ชนะ อุรุกกวัย สถานเดียว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน