หลังเกมฟาดแข้ง นัดประเดิม กลุ่มเอช ที่สนาม มอร์โดเวีย อารีน่า ผ่านพ้นไป ด้วยชัยชนะของ ญี่ปุ่น เฉือน โคลัมเบีย 2-1 ประตู
โดย คาร์ลอส ซานเชซ มิดฟิลด์ของโคลัมเบีย พลาดสกัดบอลในเขตโทษจนกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากเกม ตั้งแต่ยังไม่ถึงสามนาทีแรก ด้วยลูกหวดเต็มแรงของ ชินจิ คางาวะ จนกลายเป็นลูกโทษ
จากเกมดังกล่าว ก่อให้เกิดประวัติการณ์ขึ้นถึง 10 ประเด็นในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายเลยทีเดียว ดังต่อไปนี้
-
ใบแดงแรกเร็วที่สุดอันดับ 2 ในฟุตบอลโลก
หลังจากเก็บตัวฟิตซ้อมมานานนับเดือน ภายใต้การคุมทีมของ โฮเซ่ โปเกร์มัน เมื่อถึงคราวลงสนาม คาร์ลอส ซานเชซ กลับได้โชว์ฝีเท้าเพียงแค่ไม่ถึงสามนาที (2.54 นาที) ก็ต้องเผชิญฝันร้าย ทำฟาว์ลโดนใบแดงไล่ออกเป็นคนแรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้
2. ใบแดงแรกในฟุตบอลโลก 2018
ไม่เพียงแต่ความผิดพลาดของ ซานเชซ ที่โดนใบแดงให้โคลัมเบีย เหลือผู้เล่นเพียง 10 คนตั้งแต่ต้นเกมเท่านั้น แต่มันยังกลายเป็นสถิติ ใบแดงแรกใน เวิลด์คัพ 2018 อีกด้วย
3. เป็นชัยชนะนัดแรกของทีมจากเอเชีย เหนือ ทีมจากทวีปอเมริกาใต้
ชัยชนะของ ทีมญี่ปุ่น เหนือ โคลัมเบีย ในเกมนี้ กลายเป็นชัยะชนะนัดแรกของทีมจากทวีปเอเชีย เหนือ ทีมจากอเมริกาใต้ ในฟุตบอลโลก เท่าที่เคยพบกันมา ทั้งหมด 18 ครั้ง ซึ่งทีมจากทวีปเอเชีย พ่ายแพ้ไปถึง 14 เกม
4. คาวาชิม่า อายุแก่สุดในฟุตบอลโลก ของญี่ปุ่น
เออิจิ คาวาชิม่า นายทวารซามูไร บลู กลายเป็นผู้เล่นทีมชาติญี่ปุ่น ที่มีอายุมากที่สุดในทีม ด้วยวัย 35 ปี นายทวารจาก เม็ตซ์ สโมสรในฝรั่งเศส ก่อนจะโดน กินเตโร ของโคลัมเบียปั่นฟรีคิก พังประตูตีเสมอ แม้กระนั้น ด้วยผลงานติดทีมชาติญี่ปุ่น 83 นัด ก็ยังถือเป็น นายทวารอีกคนหนึ่งที่สร้างชื่อในฟุตบอลโลกครั้งนี้
5. สถิติฟรีลบสถิติบอลโลกที่บราซิล
หลังจาก เฟร์นันโด กิเตโร ปั่นฟรีคิกมุดกำแพงเป็นประตูตีเสมอให้โคลัมเบีย ในเกมนี้ ส่งผลให้ สถิติฟรีคิกทำประตูในฟุตบอลโลก 2018 ลบสถิติเดิมจาก ฟุตบอลโลก ที่บราซิลเมื่อสี่ปีที่แล้ว ลงอย่างสิ้นเชิง ทั้งที่เกมแข่งขันยังเตะกันเพียงแค่รอบแรกเท่านั้น
6. กินเตโร โชว์ผลงาน พังประตูถึงสองครั้่งในฟุตบอลโลก
หลังจาก ฆวน เฟร์นันโด กินเตโร ผู้หวดฟรีคิกเป็นประตูในฟุตบอลโลกครั้งนี้ กลายเป็นผู้สร้างผลงาน ยิงประตูที่สองในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ให้ทีมชาติโคลัมเบีย หลังจาก ฮาเมส โรดริเกซ เคยยิงประตูให้ทีมไว้เมื่อสี่ปีที่แล้ว
7. ซานเชซ ทำสถิติคนที่สอง โดนไล่ออก
โฮเซ่ บาติสต้า ผู้เล่นของอุรุกวัย เคยทำผลงานที่ไม่น่าจดจำด้วยการโดนใบแดงไล่ออกเร็วที่สุด ในเกมเข้าเสียบ กอร์ดอน สตักชั่น ของสกอตแลนด์ ด้วยเวลา 54 วินาทีแรกของเกมเท่านั้น ในฟุตบอลโลก 1986 แม้เกมจะลงเอย 0-0 ทว่า ในฟุตบอลโลก ครั้งนี้ คาร์ลอส ซานเชซ ของโคลัมเบีย ทำสถิติโดนไล่ออกเร็วที่สุด เป็นอันดับสอง ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
8. “ฮอนดะ” ทำแฮตทริก
เคซึเกะ ฮอนดะ ตัวสำรองในเกมของทีมชาติญี่ปุ่น กลายเป็นผู้เล่นที่ทำแอสซิส ช่วยจ่ายให้เพื่อนทำประตู ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ถึงสามครั้ง มิดฟิลด์วัย 32 ปี อดีตนักเตะเอซี มิลาน เป็นอีกผู้หนึ่งที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นในครั้งนี้
9. ชัยชนะนัดแรกของญี่ปุ่น บนแผ่นดินยุโรป
ผลงานของญี่ปุ่น ในฟุตบอลโลก ครั้งนี้ นับเป็นชัยชนะ นัดแรกเหนือ ดินแดนในยุโรป หลังจาก “ซามูไร บลู” ต้องผิดหวังในฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส แพ้รวดทั้งสามนัดในครั้ง โดยยิงได้เพียงลูกเดียว
ในฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี พวกเขาก็ต้องผิดหวังอีกครั้ง โดยทำได้ดีที่สุดเพียงแค่เสมอ โครเอเชีย ก่อนจะเก็บชัยได้เป็นนัดแรก ในเกมชนะ โคลัมเบีย นัดนี้
10. ยิงเร็วที่สุดของญี่ปุ่น
ผลงานสังหารจุดโทษของ ชินจิ คางาวะ ผู้ยิงประตูให้ญี่ปุ่น ขึ้นนำ โคลัมเบีย ในช่วงต้นเกม ส่งผลให้เขากลายเป็น นักเตะซามูไร ที่ทำประตูให้ทีมชาติญี่ปุ่น เร็วที่สุดในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย