“ราม วัชรประดิษฐ์”

วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งวัดเก่าแก่สำคัญที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองกรุงเก่า “พงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐ” กล่าวไว้ว่า ได้มีการสถาปนาพระพุทธรูป นาม “พระเจ้าพแนงเชิง”เมื่อปี พ.ศ.1867 ซึ่งเป็นระยะเวลาก่อนที่พระเจ้าอู่ทองจะสถาปนากรุงศรีอยุธยาถึง 26 ปี

ทั้งยังมีประวัติใน “พระราชพงศาวดารเหนือของจีน” โดยอ้างอิงถึงของไทย อีกด้วย

ส่วนพระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต พระปฏิมากรศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ศิลปะอู่ทองตอนปลาย ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ ขนาดหน้าตักกว้าง 14.20 เมตร สูง 19.20 เมตร เป็นพระพุทธรูปโบราณคู่บ้านคู่เมืองกรุงศรีอยุธยามาแต่แรกสร้างกรุง

ใน “พงศาวดารกรุงเก่า” ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ ระบุว่า “สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1868 ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 “ และเป็นที่อัศจรรย์ที่เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาใกล้จะแตกนั้น ปรากฏใน “คำให้การของชาวกรุงเก่า” ว่า “พระปฏิมากรใหญ่ที่วัดพนัญเชิงองค์นี้ มีน้ำพระเนตรไหลออกมา …”

นอกจากเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวไทยแล้ว พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต ยังเป็นที่เคารพนับถือในหมู่ชาวจีนเป็นอันมาก โดยเรียกกันว่า “ซำปอฮุดกง” หรือ “ซำปอกง”

วัดพนัญเชิง จึงมีทั้งชาวไทย ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวจีน รวมถึงชาวต่างชาติ มักแวะเวียนไปกราบสักการะขอพรเป็นเนืองนิตย์ โดยเฉพาะในงานประจำปี ชาวไทยจะจัดในช่วงวันสงกรานต์เดือนเมษายน ส่วนชาวจีนจะจัดในช่วงเดือน 9 เรียกกันว่า “งานงิ้วเดือนเก้า” ซึ่งตรงกับวันสิ้นเดือน 7 ของจีน นอกจากนี้ยังมีการจัดงานในช่วงเทศกาลสำคัญๆ อาทิ วันสารทจีน และ วันตรุษจีน เป็นต้น

หลังจากกราบสักการะขอพรและห่มผ้าพระปฏิมากรศักดิ์สิทธิ์ในพระวิหารเรียบร้อย ก็มักจะแวะมาสักการะ “เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก” หรือภาษาจีนเรียก “เจ้าแม่จู๊แซเนีย” ด้วยเชื่อกันว่าพระองค์สามารถบันดาลให้ผู้ที่กราบไหว้สมปรารถนาตามที่ขอทุกประการ โดยเฉพาะเรื่องความรัก คู่ครอง และการขอบุตร มีการบนบานศาลกล่าวด้วยผ้าแพร ไข่มุก เรือสำเภา หรือนำสิงโตมาเชิด เมื่อสมหวังก็มาแก้บนกันคึกคัก และบอกเล่าต่อๆ กัน จนเป็นความเชื่อและความศรัทธาสืบต่อมา

วัดพนัญเชิง มีการจัดสร้าง “วัตถุมงคลจำลองรูปหลวงพ่อโต” อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สาธุชนผู้เลื่อมใสศรัทธาได้มีโอกาสเช่าบูชาติดตัวเพื่อความเป็นสิริมงคล และด้วยบารมีแห่ง “หลวงพ่อโต” ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน ก็ปรากฏพุทธคุณและปาฏิหาริย์เป็นที่เลื่องลือทั้งสิ้น

ประการสำคัญคือ เป็นบุญกุศลในการได้ร่วมสมทบทุนบูรณะ ซ่อมแซม และก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัด โดยลักษณะการจัดการเป็นเช่นเดียวกับ วัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา คือ มีคณะกรรมการที่เรียกว่า “เฒ่านั้ง” ไปจ้างโรงงานทำแล้วควบคุมดูแลเรื่องการปั๊ม-การสร้าง เพื่อไม่ให้มีของเสริม จึงเป็นที่เชื่อถือได้แน่นอนครับผม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน