หลวงปู่ถนอม จันทวโร พระเกจิชื่อดังนครพนม

 

ในช่วงรอบ 30 ปีที่ผ่านมา “พระครูสันธานพนมเขต” หรือ “หลวงปู่สนธิ์ สุรชโย” อดีตเจ้าคณะตำบลท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าดอกแก้วเหนือ เป็นพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมรูปหนึ่งแห่งนครพนม

แต่ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ หลวงปู่สนธิ์ละสังขารสร้างความอาลัยให้กับลูกศิษย์ลูกหา และผู้ที่เลื่อมใสศรัทธา ยิ่งนัก

ล่วงสมัยกาลปัจจุบัน “พระครูสิริโพธา ภิวัฒน์” หรือ “หลวงปู่ถนอม จันทวโร” ถือเป็นพระเกจิชื่อดังอีกรูปของนครพนม มีวัตรปฏิบัติดี เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจ และเป็นศิษย์สืบสายธรรมหลวงปู่สนธิ์

ปัจจุบันสิริอายุ 78 ปี พรรษา 58 ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอโพนสวรรค์ และเจ้าอาวาสวัดขามเตี้ยใหญ่ บ้านขามเตี้ยใหญ่ ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม

มีนามเดิมว่า นายถนอม นนทศรี เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 1 มี.ค.2483 ปีมะโรง ที่บ้านขามเตี้ยใหญ่ ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม

อายุ 18 ปี บวชเป็นสามเณร เมื่อปีพ.ศ.2501 ที่อุโบสถวัดโพธิ์ศรี บ.ขามเตี้ย ต.ขามเตี้ย อ.ท่าอุเทน (ในขณะนั้น) ต่อมาอีก 2 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2503 โดยมีพระครูสันธานพนมเขต หรือหลวงปู่สนธิ์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูโสตถิธรรมคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงปู่ที เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ภายหลังอุปสมบท ได้กราบลาพระอุปัชฌาย์ กลับมาศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ที่บ้านเกิด โดยร่ำเรียนที่สำนักวัดศรีทอง ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จบนักธรรมชั้นเอกใน 3 ปีแรก ด้วยความเป็นคนใฝ่รู้ ท่านได้ไปร่ำเรียนสรรพวิชา และวิทยาคมต่างๆจากหลวงปู่สนธิ์ ผู้เป็นพระอาจารย์ นาน 7 ปี จนช่ำชอง

พ.ศ.2510 กราบลาพระอาจารย์ จาริกธุดงค์ไปในภาคเหนือของฝั่งลาว จำพรรษาอยู่ที่วัดพระบาทแอวขันธ์มหาวิหาร บ้านนาคาย เมืองชัยธานี นครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อศึกษาคัมภีร์มูลกัจจายน์ อักษรธรรม อักษรขอม อักษรไทยและอักษรลาว เป็นต้น

ในช่วงที่จำพรรษาอยู่วัดดังกล่าว ได้ฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานกับหลวงปู่เพ็ง ซึ่งเป็นพระเกจิที่วัดพระบาทแอวขันธ์ และได้พบกับอดีตพระเกจิชื่อดังของเมืองไทยหลายรูป อาทิ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร แม่ทัพธรรม ภาคอีสาน, พระอาจารย์วัน อุตตโม, พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ และพระเถราจารย์อีกหลายรูปที่วัดแห่งนี้ด้วย

ต่อจากนั้น จึงได้เดินธุดงค์ไปฝึกกัมมัฏฐานที่เมือง บังบด-ภูเขาควาย ฝั่งลาว กับหลวงปู่เพ็ง โดยนั่งสมาธิบำเพ็ญภาวนาในถ้ำยักษ์นาน 6 เดือน

หลังจากจาริกแสวงบุญไปตามป่าเขาฝั่งลาว ก่อนจะหยุดธุดงค์ในปี พ.ศ.2538 จึงกลับสู่มาตุภูมิเพื่อมาจำพรรษาที่วัดบ้านเกิด สงเคราะห์โปรดญาติโยม และอยู่จำพรรษาที่วัดขามเตี้ยใหญ่ จวบจนปัจจุบันนี้

ระหว่างที่อยู่วัดแห่งนี้ หลวงปู่ประไพ อัคคธัมโม สหธรรมิก อดีตพระเกจิชื่อดังสายป่า ซึ่งอยู่วัดละแวกใกล้เคียงกัน ท่านก็หมั่นแวะเวียนมาสนทนาธรรมบ่อยครั้ง

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี พ.ศ.2511 เป็นเจ้าคณะตำบลนาขมิ้น พ.ศ.2521 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ต.นาขมิ้น อ.ท่าอุเทน (ปัจจุบัน อ.โพนสวรรค์) และในปี พ.ศ.2538 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอโพนสวรรค์ จนถึงปัจจุบัน

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2529 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูสิริโพธาภิวัฒน์ ปี พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

หลวงปู่ถนอม เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ที่มุ่งมั่นในศีลธรรม หมั่นอบรมอุบาสกอุบาสิกา และญาติโยมให้เข้าวัดปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายสมถะ ไม่ถือตัว ทั้งยังมีความชำนาญด้านช่างไม้ ช่างปูน ช่างเหล็ก ลงมือก่อสร้างกุฏิ โดยมีพระภิกษุ-สามเณร ภายในวัด ร่วมลงแรง

“สมณเพศต้องมีวินัย ศีล ปัญญา สมาธิ ที่สำคัญต้องตั้งมั่นในสติ ไม่ว่าจะอยู่ในมหานิกาย หรือธรรมยุต ศีล 227 ข้อ ก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย อยู่ที่การปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และตัวผู้ปฏิบัติเท่านั้น” โอวาทธรรมหลวงปู่ถนอม

แม้อายุ 78 ปี แต่สุขภาพร่างกายของท่านยังคล่องแคล่ว แข็งแรง เพียบพร้อมไปด้วยข้อวัตรปฏิบัติที่สมถะเรียบง่าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน