มหาสารคามพร้อมยกฐานะ‘วิทยาลัยสงฆ์’

มหาสารคามพร้อมยกฐานะ‘วิทยาลัยสงฆ์’

มหาสารคามพร้อมยกฐานะ‘วิทยาลัยสงฆ์’ – ย้อนไปในปี 2559 พระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม พร้อมคณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคาม หน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น วัดอภิสิทธิ์ จ.มหาสารคาม ได้ยื่นเรื่องขอใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์โคกหนองรัก ต.คันธารราษฎร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม พื้นที่กว่า 50 ไร่

สำหรับเป็นสถานที่ก่อสร้างหน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม

ต่อมา นายโชคชัย เดชอมรธัญ ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ขณะนั้นได้อนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์โคกหนองรัก ประกอบด้วย 1.ก่อสร้างอาคารเรียนอนุสรณ์ 150 ปี มหาสารคาม ของหน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม 2.รองรับการจัดตั้งเป็นวิทยาลัยสงฆ์มหาสารคามในอนาคต 3.รองรับการผลิตบัณฑิต วิจัย บริการวิชาการแก่สังคมและทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม

โดยยกมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น วัดอภิสิทธิ์ จ.มหาสารคาม ขึ้นเป็นวิทยาลัยสงฆ์ จึงขอใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์โคกหนองรัก ต.คันธารราษฎร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม พื้นที่กว่า 50 ไร่ และทางราชการก็ให้ความร่วมมืออนุญาตให้ใช้ที่ดิน

คณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคามได้มีการเปิดรับ บริจาคปัจจัยจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญก่อสร้างวิทยาลัยสงฆ์ และเริ่มลงมือในปี 2559 ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารเรียน 150 ปี จังหวัดมหาสารคาม เป็นอาคารหลังแรก

สำหรับอาคารเรียน 150 ปี จังหวัดมหาสารคาม ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างต้องใช้งบกว่า 72 ล้านบาท ลักษณะเป็นอาคาร 4 ชั้น 16 ห้องเรียน และในส่วนที่ยังไม่ได้ลงมือก่อสร้างเพราะยังขาดปัจจัยอยู่เป็นจำนวนมากคือ 1.โรงอาหาร คาดว่าจะต้องใช้งบ 4 ล้านบาท และ 2.หอพักนิสิต 1 หลัง เป็นอาคารสูง 5 ชั้น ต้องใช้งบกว่า 80 ล้านบาท

ในส่วนที่แล้วเสร็จ 1.หอประชุมสิ้นงบก่อสร้าง 6 ล้านบาท 2.ห้องสมุด งบ 6 ล้านบาท 3.หอศิลปะนครจำปาศรี งบ 30 ล้านบาท เป็นงบของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ 4.ห้องน้ำห้องส้วม รวมทั้งระบบน้ำประปาและไฟฟ้าก็แล้วเสร็จสมบูรณ์แล้ว

การยกฐานะขึ้นเป็นวิทยาลัยสงฆ์มหาสารคาม ทุกอย่างจะต้องพร้อมหมด ไม่ว่าจะเป็นอาคาร สถานที่ บุคลากร มีคณะกรรมการจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจากส่วนกลาง ทำการประเมิน หากผ่านการรับรองและประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ทันที

ปัจจุบัน หน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น วัดอภิสิทธิ์ จังหวัดมหาสารคาม มีนิสิตกำลังศึกษาอยู่ 300 รูป อาจารย์ 20 คน หากยกฐานะขึ้นเป็นวิทยาลัยสงฆ์ คาดว่าจะมีนิสิตเพิ่มขึ้นกว่าพันคน เปิดรับทั้งพระภิกษุ–สามเณร และฆราวาส ไม่จำกัดอายุ จึงเป็นความหวังของคณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคาม ในการที่จะพัฒนาการเรียนการสอนของวงการสงฆ์ให้เจริญงอกงามขึ้น

สำหรับความคืบหน้าการประเมินความพร้อมของ หน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น จ.มหาสารคาม เพื่อยกฐานะขึ้นเป็นวิทยาลัยสงฆ์มหาสารคาม เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการศึกษาข้อมูลและตรวจความพร้อมจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัยจากส่วนกลาง ซึ่งมีคณะกรรมการจำนวน 15 รูป/คน อาทิ พระสุวรรณเมธาภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ประธานกรรมการ, พระเมธีธรรมาจารย์ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา เป็นต้น เดินทางมาที่ห้องประชุมอเนกประสงค์ หน่วยวิทยบริการวิทยาเขตขอนแก่น โคกหนองรัก ต.คันธารราษฎร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม

โดยมีพระเทพเมธี เจ้าคณะภาค 9 เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม เป็นประธานที่ประชุมฝ่ายสงฆ์, นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส, พระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยพระเถรานุเถระ ให้การต้อนรับ พิธีเริ่มโดยผู้ร่วมประชุมได้เข้าสักการะประธานฝ่ายสงฆ์ และสวดมนต์ไหว้พระ จากนั้นคณะกรรมการได้เริ่มประชุมพิจารณา

นายเกียรติศักดิ์กล่าวถวายรายงานว่า ปัจจุบันจังหวัดมหาสารคาม มีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาอยู่หลายแห่ง และมีนักศึกษาจำนวนหลายหมื่นคน จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองตักกสิลา ห้วงเวลาที่ผ่านมาทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พยายามส่งเสริมและสนับสนุนหน่วยวิทยบริการที่วัดอภิสิทธิ์มาโดยตลอด ด้วยการสนับสนุนงบประมาณ และเข้าร่วมกิจกรรมของหน่วยวิทยบริการ ตลอดจนจัดหาที่สาธารณประโยชน์ไว้สำหรับก่อสร้างอาคารเรียน รองรับการขยายตัวของหน่วยวิทยบริการในอนาคต

จึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่คณะกรรมการศึกษา ข้อมูลและตรวจความพร้อมได้ออกมาตรวจในครั้งนี้ ซึ่งวิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้ได้เตรียมความพร้อมไว้อย่างครบถ้วน ตามหลักเกณฑ์การจัดตั้งเป็นอย่างดี

เชิด ขันตี ณ พล