นครพนมบวงสรวง พญาศรีสัตตนาคราช

โดย… ชนะ วสุรักคะ

นครพนมบวงสรวง พญาศรีสัตตนาคราช – งานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ประจำปี 2562 จังหวัดนครพนม ร่วมกับเทศบาลเมืองนครพนม องค์การบริหารส่วนจังหวัด และหอการค้าจังหวัดนครพนม กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 7-13 ก.ค.2562 รวม 7 วัน 7 คืน ที่แลนด์มาร์กพญานาค ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร อ.เมือง จ.นครพนม

ตำนานพญานาค เทพเจ้าริมฝั่งโขง เชื่อว่าพญาศรีสัตตนาคราช เป็นหนึ่งในพญานาคผู้มีฤทธิ์เดชและอานุภาพ เผ่าพันธุ์ของพญามุจลินท์นาคราช หรือพญานาค 7 เศียร ได้สืบสายพันธุ์มาจนถึง พญาศรีสัตตนาคราช เชื่อกันว่าเป็นกษัตริย์พญานาคฝั่งลาว

หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ

หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิอาจารย์วิปัสสนาชื่อดังภาคอีสาน วัดพระธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม เล่าไว้ว่า ในผืนน้ำของประเทศไทยมีพญานาคเป็นใหญ่ นามว่า พญาศรีสุทโธนาคราช (นาคาธิบดีศรีสุทโธ) ชอบบำเพ็ญเพียรศีลบำเพ็ญเพียรและปฏิบัติธรรม มีนิสัยอ่อนโยนเมตตา ไม่ชอบการต่อสู้ ตำนานกล่าวว่า ท่านจะชอบ มาที่วัดพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

“ฝั่งไทยมีพญาศรีสุทโธนาคราช เป็นกษัตริย์พญานาคฝั่งไทย แต่เป็นพญานาคเศียรเดียว ส่วนพญาศรีสัตตนาคราช เชื่อว่าเป็นใหญ่เหนือพญานาคทั้งปวงในสองแผนดินไทย-ลาว โดดเด่นเป็นสง่า เพราะมี 7 เศียร ลำตัวเดียว ตระกูลพญานาคจะมีความใกล้ชิดพระพุทธองค์ และพระพุทธศาสนามาแต่ครั้งโบราณกาล”

หลวงปู่คำพันธ์ยังบอกด้วยว่า พญาศรีสัตตนาคราช และ พญาศรีสุทโธนาคราช มีเรื่องเล่าเชื่อว่าพญานาคทั้งสองเป็นสหายรักกันมาก หากมีพิธีกรรมอันใดอยู่ใกล้ต้นน้ำลำธาร ให้อัญเชิญบอกกล่าวแก่เหล่าพญานาคเชื่อกันว่าพิธีกรรมนั้นจะศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก

สำหรับพญาศรีสัตตนาคราชที่ชาวพุทธศาสนิกชนชาวไทยและลาวให้ความเคารพกราบไหว้และตั้งจิตอธิษฐานขอพร เชื่อว่าอาจสัมฤทธิผลสมดังปรารถนาทุกประการ ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ

พญานาคองค์นี้หล่อด้วยทองเหลืองน้ำหนัก 9 ตัน เป็นรูปทรงประติมากรรมพญานาคขดหาง 7 เศียร ประดิษฐานบนแท่นฐาน 8 เหลี่ยม กว้างด้านละ 6 เมตร เฉพาะลำตัวองค์พญานาคสูง 10.90 เมตร กว้างรวมหาง 4.49 เมตร สูงรวมฐาน 16.29 เมตร พ่นน้ำได้ ใช้งบก่อสร้าง 9 ล้านบาท

มงคลนาม “พญาศรีสัตตนาคราช” พระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ตั้งชื่อให้

ประวัติการสร้าง เริ่มตั้งแต่สมัย นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการคนที่ 38 (ในขณะนั้น) มีดำริว่า จ.นครพนม มีความสวยงามด้านทัศนียภาพริมฝั่งแม่น้ำโขง แต่ยังขาดสัญลักษณ์เมืองเป็นแลนด์มาร์ก จึงได้ปรึกษาหารือกับ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน ดำเนินการออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง

ยุค นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คนที่ 39 ดำเนินการลงมือก่อสร้างแท่นฐานจนแล้วเสร็จ ต่อเนื่องถึง นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คนที่ 40 การก่อสร้างจึงสำเร็จลุล่วง วันที่ 19 ส.ค.2559 จึงอัญเชิญประติมากรรมพญาศรีสัตตนาคราชประดิษฐานบนแท่นฐาน

พิธีอัญเชิญ เวลา 15.29 น. วันที่ 27 ส.ค.2559 หลังจากนั้นจึงประกอบพิธีสมโภชอย่างยิ่งใหญ่

นิวัต เจียวิริยบุญญา

นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม หนึ่งในคณะกรรมการมูลนิธิกองทุนพญาศรีสัตตนาคราช กล่าวว่า จังหวัดนครพนม เทศบาลเมืองนครพนม รวมทั้งภาคเอกชน กำหนดจัดงานบวงสรวงขึ้นติดต่อกัน 4 ปีแล้ว เพื่อรำลึกตำนานพญานาคที่ใกล้ชิดพระพุทธเจ้า

ภายในงานมีการแบ่งโซนงานออก 3-4 โซน รองรับนักท่องเที่ยว เริ่มจากโซนถนนคนเดิน โซนจัดงานบวงสรวง สินค้าเทรดแฟร์ และการจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด

ทุกวันก็จะมีพิธีบวงสรวงที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของงาน โดยในวันที่ 7 ก.ค.2562 ซึ่งเป็นวันเปิดงานวันแรก มี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดงาน

เวลา 15.30 น. วันเดียวกัน จะมีดารานางเอกสาวชื่อดังของเมืองไทย ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ร่วมรำบวงสรวงในพิธีเปิดงาน พร้อมสาวงาม 8 เผ่ากว่า 3,000 ชีวิตด้วย

วันต่อไปจะมีสาวงามจาก 12 อำเภอ วันละประมาณ 1 พันคน รำด้วยท่าทางอ่อนช้อยสวยงามประกอบเพลงออนซอนนครพนม เบิ่งนครพนม เป็นต้น

คาดว่าจะมีผู้คนหลั่งไหลพบกับทิวทัศน์ที่สวยงาม และความมีมิตรไมตรี ตลอดงานทั้ง 7 วัน ประมาณกว่า 1 แสนคน จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนสะพัดในพื้นที่จำนวนกว่า 10 ล้านบาท