งานทิ้งกระจาดมหากุศล พุทธสมาคมสัจจะธรรมฯ

โดย ชำนาญ ใจเอื้อ

งานทิ้งกระจาดมหากุศล – พุทธสมาคมสัจจะธรรมสงเคราะห์พ้งไล้ซาจับซาเซียวเกาะ โรงเจบึงไร่ 1 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จัดงานมหากุศลทิ้งกระจาดแจกทาน(ซิโกว) ประจำปี 2562 แจกข้าวสารแก่ ผู้ยากไร้ 2,000 ถุง ให้เป็นทานแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ผู้ยากไร้ และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตไร้ญาติ วันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค. 2562

ผู้ที่สนใจจะมารับแจกข้าวสารต้องมารับบัตรคิวที่หน้าพุทธสมาคมสัจจะธรรมสงเคราะห์พ้งไล้ซาจับซาเซียวเกาะโรงเจบึงไร่ 1 ตั้งแต่เวลา 13.00-14.30 น. เท่านั้น หลังจากเสร็จพิธีไหว้วิญญาณไร้ญาติ คณะกรรมการจะแจกข้าวสารแก่ผู้ยากไร้ต่อไป

นอกจากนี้ สิ่งของข้าวสารส่วนหนึ่งที่เหลือจากการแจกทานครั้งนี้ พุทธสมาคมสัจจะธรรมสงเคราะห์ฯ ยังจะได้นำไปมอบแก่โรงเรียนที่ยากไร้–ขาดแคลน และราษฎรที่ประสบภัยพิบัติอีกด้วย

ประเพณีทิ้งกระจาดของพุทธสมาคมสัจจะธรรมสงเคราะห์ฯ จัดขึ้นมานานหลายปีติดต่อกันจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งแต่ละปีที่ผ่านมามีประชาชนผู้ยากไร้มารับแจกข้าวสารกันเป็นจำนวนมาก

ข้าวสารที่นำมาแจกนั้นเป็นของพุทธสมาคมสัจจะธรรมสงเคราะห์ฯ จัดหามา และอีกส่วนหนึ่งเป็นของผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทำบุญร่วมกัน

นายอำมาตย์ โสภณารมย์ นายกพุทธสมาคมสัจจะธรรมสงเคราะห์ฯ กล่าวว่า ประเพณีทิ้งกระจาดถือเป็นพิธีกรรมจีนอย่างหนึ่ง ที่นิยมจัดขึ้นตามสมาคมของชาวจีนในประเทศไทย ซึ่งเป็นการให้ทานกับผู้ยากไร้ ส่งกุศลแก่วิญญาณไร้ญาติ ที่ไม่มีผู้ใดทำบุญอุทิศส่วนกุศลส่งไปให้ และเป็นการล้างหนี้กรรมตามความเชื่อกันว่ามนุษย์เมื่อเสียชีวิตละสังขารของตัวเองไปแล้วก็จะอยู่ในโลกของวิญญาณ จะต้องได้รับส่วนบุญส่วนกุศลที่มีผู้ทำบุญส่งมาให้เท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะอดด้วยความทุกข์ทรมาน

ประเพณีทิ้งกระจาดเป็นที่นิยมของชาวจีน แม้แต่ในศาสนาเต๋าก็รับแนวคิดนี้จากพระพุทธศาสนา นอกจากนี้ ยังเป็นประเพณีนิยมในประเทศที่รับพระพุทธศาสนาจากจีน เช่น ญี่ปุ่น และเกาหลี

ในส่วนของประชาชนจีนทั่วไป เมื่อถึงวันที่กำหนดก็จะจัดมณฑลพิธี และนิมนต์พระสงฆ์ไปสวดพระพุทธมนต์อุทิศแก่วิญญาณ ส่วนชาวจีนที่อยู่ถิ่นฐานห่างไกลนิมนต์พระสงฆ์ลำบาก ก็จะจัดเพียงเครื่องบูชาเซ่นไหว้ด้วยอาหารแก่วิญญาณเร่ร่อน และบรรพบุรุษแทน

ประเพณีทิ้งกระจาดถือเป็นพิธีกรรมจีนอย่างหนึ่งที่นิยมจัดขึ้นของชาวจีน ซึ่งเป็นการสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ เป็นการทำบุญให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วของแต่ละครอบครัว ตลอดจนเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณผู้ไร้ญาติด้วย

สำหรับประวัติความเป็นมาของพิธีทิ้งกระจาด เป็นพิธีโปรดวิญญาณผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ภาษาจีนเรียกว่า “หยู่แคเอี่ยมเข้า” ตามพระไตรปิฎกจีน พระสูตรนี้ชื่อว่า “อัคนีชวาลมุขเปรตพลี” บรรยายไว้ว่า

ครั้งนั้นพระพุทธเจ้าเสด็จประทับแสดงพระธรรมเทศนา ณ นิโครธารามวิหาร เมืองกบิลพัสดุ์ พระอานนท์เถระเจ้าพุทธอนุชา หลีกออกไปเข้าฌานสมาบัติอยู่ที่โคนต้นไม้ใหญ่ ขณะที่พระอานนท์บำเพ็ญญาณปริเวทธรรมอยู่นั้น ได้มีอสุรกายตนหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้าบอกว่า ตนคือ อัคนีชวาลมุขเปรต (เอี่ยมเข้า) รูปร่างสูงใหญ่ มีใบหน้าสีเขียว แสยะเขี้ยว ตามตัวมีแต่หนังหุ้มกระดูก ลำคอเล็กเท่ารูเข็ม มีเปลวไฟลุกโชติช่วงออกจากปากเป็นนิจ

อัคนีชวาลมุขเปรตกล่าวกับพระอานนท์ว่า “ท่านอานนท์ เราได้รับทุกข์เวทนาอย่างแสนสาหัสเพราะความหิวกระหาย ไม่มีโอกาสจะได้กินอาหารใดๆ เลย ได้รับแต่ทุกขเวทนามานานแสนนาน ท่านผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าอุดมด้วยความเมตตากรุณาต่อสัตว์ ขอพระเถระท่านอุทิศสิ่งอุปโภคบริโภคเป็นไทยทานแก่ฝูงเปรตด้วยเถิด ถ้าท่านไม่กระทำภายใน 3 วันก็จะถึงซึ่งแก่มรณะ”

จากนั้นอสุรกายพลันหายวับไป พระอานนท์เกิดความสะดุ้งกลัว เข้าเฝ้าพระบรมศาสดากราบทูลให้ทรงทราบและกราบขอพระพุทธบารมีแห่งพระพุทธองค์เป็นที่พึ่ง

พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงตอบกลับพระอานนท์ผู้เป็นพุทธอนุชาว่า “อย่าหวาดกลัวไปไยเลย เปรตตนนั้นไม่ใช่ใครอื่น ที่แท้คือพระอวโลกิเตศวร (เจ้าแม่ กวนอิม) ทรงนิรมาณกายให้พระอานนท์ทรงมาบอกเรื่องนี้ เพราะว่าสมัยก่อนนั้นเราตถาคตเคยเป็นศิษย์ของสำนักพระอวโลกิเตศวรซึ่งพระองค์ทรงเคยสอนมหาธารณีมนตร์ ที่ใช้จะโปรดสัตว์ ซึ่งเป็นมหากุศลอันใหญ่ยิ่ง

บัดนี้เราตถาคตจักแสดงเหล่าธารณีมนตร์ให้แก่เธอเพื่อใช้โปรดสัตว์ ซึ่งในช่วงเดือนเจ็ด เป็นเทศกาลเปิดประตูนรก พิธีนี้จึงเกี่ยวข้องกับพิธีอนุเคราะห์คนยากจน”

เป็นที่มาของประเพณีทิ้งกระจาดนั่นเอง