หลวงพ่อสนองชาติ ฐิตจิตโต วัดเย็นสนิทธรรมาราม กาญจนบุรี

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

หลวงพ่อสนองชาติ ฐิตจิตโตพระครูสุภัทรกาญจนกิจ หรือหลวงพ่อสนองชาติ ฐิตจิตโตพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดเย็นสนิทธรรมาราม .ลาดหญ้า .เมือง .กาญจนบุรี ปัจจุบันสิริอายุ 79 ปี พรรษา 40

ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระที่เคร่งครัดระเบียบวินัย ใส่ใจด้านการปฏิบัติกัมมัฏฐาน เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดและเปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและสาธุชนโดยทั่วไป มีจิตที่เปี่ยมด้วยความเมตตา

มีนามเดิม สนองชาติ เศียรประภัสสร เป็นชาวเมืองพระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อวันที่ 21 ..2483 บิดามารดา ชื่อ นายชูศักดิ์ และนางสำอางค์ เศียรประภัสสร

ในช่วงวัยเยาว์ เที่ยวเล่นซุกซนตามประสาเด็กชนบททั่วไป แต่สุขภาพท่าน ไม่แข็งแรง เลี้ยงยาก มีอาการเจ็บไข้บ่อย ทำให้ยายพริ้งที่เลี้ยงดูท่านตอนเด็ก เป็นห่วง จึงปรึกษากับนางสำอางค์ ว่าต้องยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของพระ จะได้เลี้ยงง่าย ตามความเชื่อของคนโบราณ จึงได้ตกลงยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของพระครูเนกขัมมวิสุทธิคุณ หรือหลวงพ่อฮวด เจ้าอาวาสวัดไม้รวก

หลวงพ่อสนองชาติ ฐิตจิตโต

เมื่อมีอายุครบเกณฑ์เข้าเรียนหนังสือ บิดานำไปฝากที่โรงเรียนวัดหนองแห้ว .ท่าเรือ .พระนครศรีอยุธยา เรียนจบชั้นประถมศึกษาเมื่อเรียนจบชั้นประถมต้น บิดาจึงนำไปเข้าเรียนชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนนิตยานุกูล .ท่าเรือ

ระหว่างเรียนที่โรงเรียนนิตยานุกูล ฝากตัวเป็นศิษย์วัดอยู่ที่วัดแค ซึ่งมีพระปลัดบุญรอด เป็นเจ้าอาวาส พระปลัดบุญรอด เป็นพระธุดงค์ชาวเขมร ผู้ทรงวิทยาคม มีความชำนาญทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ มีความเชี่ยวชาญ ในอักขระเลขยันต์ ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาต่างๆ จากหลวงพ่อบุญรอด ควบคู่กับการเรียนทางโลก

เรียนจบแล้ว มารดาส่งให้ไปเรียนต่อชั้นมัธยมปลายที่กรุงเทพฯ โดยเข้าเรียนที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงมาก เป็นที่นิยม

กระทั่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (.6) จึงกลับมาอยู่บ้านที่ .พระนครศรีอยุธยา มาทำงานช่วยเหลือครอบครัว ..2500 อายุ 17 ปี เข้าพิธีเป็นบรรพชา โดยมีหลวงพ่อฮวด เจ้าอาวาสวัดไม้รวก เป็นพระอุปัชฌาย์

ครั้งนี้ ศึกษาหาความรู้ในวิชาอย่างจริงจัง ที่สำนักใดที่ว่ามีวิชาเก่งกล้า ท่านจะเข้าไปกราบฝากตัว พร้อมเครื่องบูชาครู ขอเป็นศิษย์เพื่อศึกษาวิชา

หลังท่านลาสิกขา และเริ่มหางานทำเพื่อช่วยเหลือตนเองและเป็นการแบ่งเบาภาระครอบครัว เปลี่ยนงานหลายครั้ง ในที่สุดสมัครเป็นลูกจ้างชั่วคราวของการรถไฟแห่งประเทศไทย

ทำงานอยู่จนอายุได้ 39 ปี เกิดความ เบื่อหน่ายทางโลก จึงเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 1 เม..2522 เวลา 09.25 . ที่วัดทองบน .บางโพงพาง .ยานนาวา กรุงเทพฯ โดยมีพระครูจันทรโอภาส เจ้าอาวาสวัดด่าน เป็นพระอุปัชฌาย์, พระฉะอ้อน อภิปุณโณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระประยงค์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ไปเรียนวิชาอาคมต่างๆ จากหลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ, หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดง, หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง, หลวงพ่อนา วัดดอนพุด รวมทั้งศึกษาค้นคว้าจากตำรับตำราของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค

ต่อมาได้ฝากตัวเป็นศิษย์และเข้าพิธีครอบครูกับหลวงพ่อเงิน แห่งวัดดอนยายหอม ขอคำแนะนำหลายอย่างที่ท่านกำลังติดขัดอยู่ หลวงพ่อเงินก็เมตตาชี้แนะให้จนเข้าใจกระจ่างแจ้งทุกอย่าง และให้คำสอนที่จดจำมาถึงทุกวันนี้ว่าถ้าจะทำของอะไร ต้องทำให้ดีที่สุด เสกจนมั่นใจแล้วจึงค่อยแจกจ่ายให้คนเอาไปใช้ เพราะคนที่ศรัทธาเอาของเราไปใช้เท่ากับเขาฝากชีวิตไว้กับเรา

จากนั้นท่านจึงกลับมาพำนัก วัดไม้รวก ญาติโยมนิมนต์ท่านให้เป็นเจ้าอาวาสสืบต่อแต่ท่านปฏิเสธ

ต่อมาตั้งใจออกเดินทาง เพื่อแสวงหาสถานที่สงบร่มเย็นเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและพัฒนาให้เป็นวัดต่อไป จนที่สุดคณะศิษย์ ได้นิมนต์มา วัดร้างที่บ้านจันอุย .ลาดหญ้า .เมือง .กาญจนบุรี หลังจากท่านเข้ามาสำรวจและพิจารณาเห็นว่าเหมาะควรแล้ว จึงเริ่มเข้ามาสร้างกุฏิหลังเล็ก เพื่อปฏิบัติธรรมและพัฒนาต่อมาเป็นวัดเย็นสนิทธรรมาราม ในปัจจุบัน

..2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูสุภัทรกาญจนกิจ ..2548 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลลาดหญ้า นับเป็นพระเกจิผู้มีบารมี มุ่งมั่นสืบทอด และจรรโลงบวรพระพุทธศาสนา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน