พญาครุฑ‘หลวงพ่อเมียน’ร่วมบุญบูรณะวัดบ้านจะเนียง
พญาครุฑ‘หลวงพ่อเมียน’ร่วมบุญบูรณะวัดบ้านจะเนียง – “หลวงพ่อเมียน กัลยาโณ” เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดจะเนียงวนาราม จ.บุรีรัมย์ มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ ได้รับการยกย่องว่า “เทพเจ้าแห่งบ้านจะเนียง” เป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและเมืองไทย
ปัจจุบัน หลวงพ่อเมียน กัลยาโณ สิริอายุ 82 ปี ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจะเนียงวนาราม ต.สูงเนิน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
ชาติภูมิ เกิดเมื่อปี พ.ศ.2479 ตรงกับวันอาทิตย์ ปีขาล ที่บ้านกุมกัน แห่งเมืองสวายตรึง ประเทศกัมพูชา บิดาชื่อ นายอุมขัน และมารดาชื่อเปร็ง ไม่ทราบนามสกุล
ช่วงวัยหนุ่มมีความคึกคะนองตามประสา ชอบศึกษาวิทยาคมจากพระอาจารย์กัมพูชาถึง 12 ท่าน พระอาจารย์ที่หลวงพ่อให้ความสำคัญมาก คือ พระอาจารย์ลุน และศึกษาวิทยาคมกับอาจารย์สวาย ฆราวาสจอมขมังเวท ชื่อดังแห่งเมืองสวายตรึง
อายุ 26 ปี อุปสมบทที่วัดยอดทอง อำเภอกำพงตราด จังหวัดกำโปรด ประเทศกัมพูชา เรียนทางสงฆ์จบที่กัมพูชา ฝึกฝนสมาธิและวิทยาคม จนเกิดความชำนาญกับพระอุปัชฌาย์ จนถึงปี พ.ศ.2518 จึงธุดงค์เข้ามาประเทศไทย จำพรรษาช่วยเหลือชาวบ้านบริเวณป่าช้าบ้านจะเนียง จนชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธา
ต่อมา ท่านสร้างวัดบ้านจะเนียง (จะเนียงวนาราม) จนทุกวันนี้ กลายมาเป็นวัดจะเนียงวนาราม เป็นศาสนสถานประจำหมู่บ้านตั้งอยู่ในเขตป่าช้าของหมู่บ้านจะเนียง
หลวงพ่อเมียน ปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์มิได้ขาด เป็นพระเกจิอาจารย์ในระดับชั้นนำของจังหวัดบุรีรัมย์ ท่านยังเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่เจียม อติสโย พระเกจิดังแห่งวัดอินทราสุภาราม จ.สุรินทร์ ด้วยเป็นคนบ้านเดียวกันและบวชเรียนมาด้วยกัน รวมทั้งเป็นสหธรรมิกรุ่นน้องกับหลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระพุทธบาทพนมดิน อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ อีกด้วย
หลวงพ่อเมียน ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านจะเนียง เมื่อปี พ.ศ.2536
ด้านเครื่องรางหรือวัตถุมงคลที่หลวงพ่อเมียนท่านสร้าง ล้วนแล้วแต่เป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 เวลา 13.09 น. หลวงพ่อเมียน ประกอบพิธีพุทธาเทวาภิเษกและอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว วัตถุมงคลพญาครุฑ รุ่นมหาบารมี เจริญทรัพย์ พร้อมคณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ 9 รูป ที่อุโบสถวัดบ้านจะเนียง
วัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งร่วมสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะที่ชำรุดทรุดโทรมของวัดบ้านจะเนียง
กล่าวสำหรับ พญาครุฑ เป็นสัตว์กึ่งเทพในปกรณัมอินเดียและปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง เช่น มหากาพย์ มหาภารตะ เล่าว่า ครุฑเป็นพี่น้องกับนาคและทะเลาะกันจนเป็นศัตรู นอกจากนี้ ยังมีคัมภีร์ปุราณะที่ชื่อว่า ครุฑปุราณะ เป็นเรื่องเล่าพญาครุฑ
ตามคติไทยโบราณ เชื่อว่าครุฑเป็นพญาแห่งนกทั้งมวล และเป็นพาหนะของพระนารายณ์ ปกติอาศัยอยู่ที่วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ก็ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า “สุบรรณ” ซึ่งหมายถึง “ขนวิเศษ”
ครุฑเป็นสัตว์ใหญ่ มีอานุภาพและพละกำลังมหาศาล แข็งแรง บินได้รวดเร็ว มีสติปัญญาเฉียบแหลม อ่อนน้อมถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ
แต่ครุฑในทางพุทธศาสนา จัดเป็นเทวดาชั้นล่างประเภทหนึ่งภายใต้การปกครองของท้าววิรุฬหก ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศใต้
ด้วยเหตุนี้ จึงสร้างรูปครุฑพ่าห์ (หรือ พระครุฑพ่าห์) หมายถึง ครุฑซึ่งเป็นพาหนะ เป็นรูปครุฑกางปีก มีการใช้ธงรูปครุฑ และมีครุฑเป็นสัญลักษณ์ประจําแผ่นดิน ดังที่ปรากฏอยู่ในดวงตราหรือพระราชลัญจกรประจำพระองค์ ประจำแผ่นดิน ประจำราชวงศ์ และประจำรัชกาล เป็นต้น
ดังที่พบเห็นครุฑได้จากเอกสารต่างๆ ของทางราชการและนับว่าเอกสารเหล่านั้น เป็นเอกสารศักดิ์สิทธิ์
พญาครุฑ รุ่นมหาบารมี-เจริญทรัพย์ ที่หลวงพ่อเมียน บรรจงสร้างและปลุกเสกตามตำราโบราณจารย์ เพื่อให้บังเกิดคุณวิเศษครบครัน เป็นสิ่งมงคลคู่กาย เสริมส่งบารมีให้ได้ดี เสริมอำนาจให้ยิ่งใหญ่สู่ความเป็นหนึ่ง หนุนนำชีวิตให้ก้าวหน้า ต่อชะตาอายุให้ยืนยาว แก้และกันอาถรรพณ์ต่างๆ นานา
พญาครุฑรุ่นดังกล่าว สร้างขนาดบูชา 9 นิ้วนำฤกษ์ จำนวนการสร้าง 19 องค์ และขนาด 2 นิ้วตั้งหน้ารถ พร้อมครอบแก้ว จำนวนการสร้าง 1,999 ชุด มีเนื้อเดียว คือ เนื้อทองแดงเถื่อนโบราณ ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายของวัดบ้านจะเนียง โดยท่านจะไม่ปลุกเสกวัตถุมงคลใดๆ ในวัด นอกจากนิมนต์ไปปลุกเสกที่อื่น
