หลวงปู่แขม จารุวัณโณ วัดจันทรสิรินทราวาส : อริยะโลกที่ 6
หลวงปู่แขม จารุวัณโณ วัดจันทรสิรินทราวาส – “พระครูสุวรรณธรรมากร” หรือ “หลวงปู่เเขม จารุวัณโณ” เจ้าอาวาสวัดจันทรสิรินทราวาส ต.บ้านโคก อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น และที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอโคกโพธิ์ไชย พระเกจิที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนทั้งในและนอกพื้นที่
เป็นพระที่มีอายุและพรรษามากอีกรูปหนึ่งในแวดวงคณะสงฆ์ อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น
ปัจจุบัน สิริอายุ 87 ปี พรรษา 67
มีนามเดิม เเขม ตาปราบ เกิดวันที่ 10 ก.ย. 2475 เกิดที่บ้านแก้งคร้อ ต.แก้งคร้อ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ บิดา-มารดา ชื่อ นาย กองและนางบางจันทร์ ตาปราบ เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 10 คน ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนาเหมือนชาวอีสานทั่วไป
ด้วยความที่เป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระพุทธศาสนา อายุ 14 ปี ได้ขอให้บิดา-มารดา นำไปบรรพชา
จนถึงปี พ.ศ.2496 อายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดสระทอง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ มีพระอธิการฟั่น จันทโชโต เป็นพระอุปัชฌาย์
จากนั้น จำพรรษาอยู่ที่วัดศรีไสล บ้านหนองไฮ ต.ช่องสามหมอ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ต่อมาได้ไปจำพรรษาปฏิบัติธรรมที่วัดโพธิ์กลาง ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น มุมานะศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ
ด้วยความที่ท่านต้องการศึกษาพระธรรมวินัยที่ลึกซึ้ง จึงเดินทางลงไปศึกษาที่วัดมหาธาตุฯ กรุงเทพฯ โดยมีพระมหาโชดก ญาณสิทธิ อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ เป็นอาจารย์สอน และที่นี่ได้พบกับหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เเห่งวัดบ้านไร่ ขณะมาอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังให้ความสนใจฝากตัวศึกษาวิทยาคมกับพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป อาทิ หลวงปู่จูม จ.ชัยภูมิ, หลวงปู่หล่ม พรหมโชโต วัดทุ่งสว่าง อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เป็นต้น
วัตรปฏิบัติของหลวงปู่แขม ชมชอบการออกธุดงควัตร เพื่อแสวงหาความหลุดพ้นตามรอยพระตถาคต โดยหลวงปู่เริ่มออกธุดงค์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2499 เดินจาก จ.ขอนแก่น ไปตามป่าเขาในเขต จ.ชัยภูมิ จ.นครราชสีมา จนถึงปี พ.ศ.2518 เมื่ออายุมากขึ้นและมีตำแหน่งทางปกครอง จึงไม่ค่อยมีเวลาออกธุดงควัตรอีก ต่อมาท่านได้มาจำพรรษาปฏิบัติศาสนกิจอยู่ที่วัดจันทรสิรินทราวาส ต.บ้านโคก อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น แห่งนี้ตราบจนปัจจุบัน
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2514 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรี ในราชทินนาม ที่ พระครูสุวรรณธรรมากร
ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นเอกในราชทินนามเดิม
งานด้านปกครอง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจันทรสิรินทราวาส พ.ศ.2518 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอมัญจาคีรี พ.ศ.2542 เป็นเจ้าคณะอำเภอมัญจาคีรี
พ.ศ.2551 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอโคกโพธิ์ไชย
พ.ศ.2555 ได้รับแต่งตั้งที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอโคกโพธิ์ไชย
ด้วยความเป็นพระปฏิบัติดีเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้ชื่อเสียงของท่านเริ่มเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนทั้งในและนอกพื้นที่อย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันจึงมีญาติโยมจำนวนมากเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม และประพรมน้ำพระพุทธมนต์เสริมความเป็นสิริมงคลกับท่านอย่างไม่ขาดสาย
สำหรับปัจจัยที่ได้จากการบริจาค ท่านได้นำมาพัฒนาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดแห่งนี้ ก่อสร้างถาวรวัตถุอย่างมากมาย อาทิ ศาลาการเปรียญ กำแพงแก้ว ประตูโขง หอระฆัง อุโบสถ เป็นต้น
ท่านยังให้ความสำคัญทางด้านการศึกษาสงฆ์ ท่านบริจาคปัจจัยส่วนตัวให้การสนับสนุนการเรียนการสอนแก่พระภิกษุ-สามเณร ลูกวัดมาโดยตลอด หากพระภิกษุ-สามเณร รูปใดมีความตั้งใจเรียนและเรียนดี ท่านจะจัดหาทุนมอบให้ทุกปี
ถึงแม้หลวงปู่จะมีอายุกว่า 80 ปี อยู่ในช่วงปัจฉิมวัย แต่ท่านยังคงรับกิจนิมนต์เป็นปกติ ส่วนหลักธรรมคำสอนที่พร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต คือ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท มีความกตัญญูกตเวทิตาต่อบุพการี ไม่เบียดเบียนสรรพสัตว์ร่วมโลกและให้ยึดศีล 5 ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต เพียงเท่านี้จะทำให้ชีวิตพานพบแต่ความสุขความเจริญ
จึงถือเป็นเพชรเม็ดงามอีกรูปของวงการสงฆ์ อ.โคกโพธิ์ไชย โดยแท้
