พระราชธานินทราจารย์ วัดกษัตราธิราชวรวิหาร

คอลัมน์ อริยะโลกที่6

พระราชธานินทราจารย์ วัดกษัตราธิราชวรวิหาร – พระราชธานินทราจารย์ (สุชาติ ฐานิสสโร) พระเถระที่ชาวกรุงเก่า เลื่อมใสศรัทธา ด้วยความเป็นสมณะที่มีวัตรปฏิบัติดีงาม เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เป็นที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชน

ปัจจุบัน สิริอายุ 69 ปี พรรษา 49 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอบ้านแพรก และเจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

มีนามเดิมว่าสุชาติ พงษ์ภมร เกิดวันที่ 6 ส.ค.2493 ปีขาล ที่บ้านเลขที่ 30 ม.7 ต.สามบัณฑิต อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา บิดามารดา ชื่อ นายชีพและนางอ่อน พงษ์ภมร ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา

พระราชธานินทราจารย์ วัดกษัตราธิราชวรวิหาร

หลังเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 ลาออกมาช่วยครอบครัวทำนาหาเลี้ยงชีพ

กระทั่งอายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2513 ที่วัดโคกโพธิ์ ต.โพสาวหาญ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีพระครูวิสุทธิคณารักษ์ วัดหนองน้ำส้ม ต.หนองน้ำส้ม อ.อุทัย เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูอรรถกิจประยุต วัดโพสาวหาญ ต.โพสาวหาญ อ.อุทัย เป็นพระกรรมวาจารย์ และพระครูนิเทศโพธิคาถา วัดโคกโพธิ์ ต.โพสาวหาญ อ.อุทัย เป็นพระอนุสาวนาจารย์

มุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ด้านพระปริยัติธรรมแผนกธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดประสาท จ.พระนคร ศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ.2519

พ.ศ.2547 ได้รับปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

สร้างผลงานอันทรงคุณูปการในหลากหลายด้าน จนประจักษ์ถึงผลงานและคุณสมบัติต่างๆ เป็นที่ยกย่องเชิดชูมากมาย ทั้งในด้านการบริหารและด้านวิชาการ ตลอดจนเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาคุณอย่างยิ่ง เป็นที่ยอมรับและเลื่อมใสศรัทธา

ลำดับการปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2529 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดหนองน้ำส้ม อ.อุทัย พ.ศ.2530 เป็นเจ้าคณะตำบลหนองน้ำส้ม พ.ศ.2532 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2539 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา

พ.ศ.2544 เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดกษัตราธิราชวรวิหาร พ.ศ.2552 เป็นเจ้าคณะอำเภอบ้านแพรก

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2536 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรี ในราชทินนามพระครูวิสุทธิธรรมากร พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมศักดิ์ เป็นรองเจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระญาณไตรโลก

พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชธานินทราจารย์

ส่งเสริมให้พระภิกษุสามเณร ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรม บาลี และสายสามัญ เพื่อให้มีความรู้เป็นกำลังสำคัญต่อวงการคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา

ตั้งแต่เปิดสำนักเรียนวัดกษัตราธิราช มีผู้สอบนักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ได้ 159 รูป สอบบาลีได้ 113 รูป และเมื่อปี พ.ศ.2548 วัดกษัตราธิราช ได้รับมอบหมายจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ให้เปิดการเรียนการสอนหลักสูตร ประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ (ป.บส.) หรือเป็นที่รู้กันว่าเป็นหลักสูตรเตรียมเจ้าอาวาส โดยมีพระสังฆาธิการจากคณะสงฆ์ภาค 2 เข้าศึกษา จบหลักสูตรไปแล้ว 6 รุ่น

ด้านการปกครองภายในวัดและอบรมพระเณรอยู่เป็นประจำอยู่กันแบบพี่น้อง พระที่พรรษาน้อยกว่าต้องเชื่อฟังพระที่มีพรรษามากกว่า ด้วยการพึ่งพาอาศัยกัน พระทุกรูปมีหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ต้องทำวัตรเช้าเย็นและทำอุโบสถกรรม (สวดพระปาฏิโมกข์ทุกกึ่งเดือน) ช่วยกันดูแลวัดให้สะอาด

นอกจากส่งเสริมพระภิกษุ-สามเณรแล้ว ท่านยังสงเคราะห์เยาวชนของชาติ ด้วยการตั้งกองทุนและเพิ่มทุน มอบทุนการศึกษา ให้นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นประจำทุกปี งานด้านเผยแผ่ มีการอบรมศีลธรรมเทศนาธรรมให้กับประชาชนและญาติโยมที่มาทำบุญวันพระและวันสำคัญทางศาสนา

กล่าวได้ว่า พระราชธานินทราจารย์ เป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตนสำหรับพระภิกษุ-สามเณรรุ่นหลัง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน