คอลัมน์ ชมรมพระเครื่อง

แทน ท่าพระจันทร์

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีพระเกจิอาจารย์ที่เก่งๆ มากมาย ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน วันนี้เราจะมาคุยกันถึงพระเกจิอาจารย์ของอยุธยาที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยสงครามอินโดจีน คือหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก

หลวงพ่อจงเป็นชาวอยุธยาโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 4 ปี พ.ศ.2415 โยมบิดาชื่อ ยอด โยมมารดาชื่อ ขลิบ ในสมัยเด็กๆ หลวงพ่อจงเป็นเด็กขี้โรค และเกือบตายมาหลายครั้ง นอกจากนี้นัยน์ตาฝ้าฟางมองอะไรไม่ถนัด จึงต้องอยู่กับบ้านจนอายุครบบวช จึงได้อุปสมบทที่วัดหน้าต่างใน โดยมี พระอธิการสุ่น เจ้าอาวาสวัดหนองปลาหมอ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับนามฉายาว่า “พุทธสฺสโร”

เมื่ออุปสมบทแล้วก็เจริญในทางธรรม ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมและพุทธาคมกับ หลวงพ่อสุ่น วัดหนองปลาหมอ และ พระอาจารย์โพธิ์ วัดหน้าต่างใน อีกทั้งยังได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับพระอธิการปั้น วัดพิกุล จนกระทั่งปี พ.ศ.2450 ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหน้าต่างนอกว่าง ลงจึงย้ายกลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหน้า ต่างนอก

หลวงพ่อจงมีความชำนาญแตกฉานในทุกๆ ศาสตร์ที่ร่ำเรียนมาทั้งพุทธาคม พระปริยัติธรรม และวิปัสสนากรรมฐาน เมื่อครั้งสงครามอินโดจีนในปี พ.ศ.2483 หลวงพ่อจงได้รับนิมนต์เข้าร่วมปลุกเสกเสื้อยันต์ ผ้ายันต์ ตะกรุด และวัตถุมงคลพร้อม หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม และ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ

ในปีนี้ปรากฏว่าทหารไทยที่ร่วมสงครามได้รับประสบการณ์ต่างๆ มากมาย และกลับมาได้อย่างปลอดภัย ชื่อเสียงของพระเกจิอาจารย์ทั้งสี่รูป จึงเป็นที่เลื่องลือขจรขจายไปทั่ว ผู้คนมักกล่าวขวัญชื่อรวมๆ ว่า “จาด จง คง อี๋”

ชาวบ้านทั้งใกล้ไกลเมื่อมีทุกข์หรือมีปัญหาใดๆ ก็จะมาหาหลวงพ่อให้ช่วยขจัดปัดเป่าให้ เช่น ทำน้ำมนต์ ให้ศีลให้พร ทุกคนที่ไปจะไม่ผิดหวัง บางรายขอของขลังท่านก็จะแจกตะกรุด บางรายจนมากท่านก็จะให้เงิน แต่เป็นแผ่นกระดาษลงยันต์ บางรายทำมาค้าขายท่านก็ให้ปลาตะเพียน บรรดาวัดต่างๆ ที่จะจัดพิธีพุทธาภิเษกทั้งในกทม. และจังหวัดใกล้เคียง นิยมนิมนต์หลวงพ่อจงมาร่วมในพิธีทั้งสิ้น เช่น ในงานหล่อพระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิธ ปี พ.ศ.2481 หลวงพ่อจงก็ได้ รับเกียรตินิมนต์เข้าร่วมพิธี

หลวงพ่อจงมีเมตตาธรรมสูง มีอยู่ครั้งหนึ่งมีขโมยเข้ามาลักโอ่งวัดในตอนกลางคืน หลวงพ่อยังไม่ได้จำวัด ท่านรู้เห็นมาตลอด แต่ก็อดเมตตาขโมยไม่ได้จึงลุกออกมาจากที่นอนไปปรากฏตัวหลังขโมยพร้อมกับแนะนำว่า “ไม่ต้องรีบร้อนเดี๋ยวจะแตกเสียหาย ค่อยๆ ขนไปอย่าโลภมากเอาไปครั้งละใบก็จะไม่เสียหาย” ขโมยตกใจกันมากก้มกราบ และพากันเดินจากไป เพราะไม่คิดว่าหลวงพ่อจะใจดีมีเมตตาจึงละอายแก่ใจตนเอง หลวงพ่อจงมรณภาพเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2508 สิริอายุได้ 93 ปี พรรษาที่ 72

เครื่องรางของขลัง เรื่องทำมาค้าขายของหลวงพ่อจงที่นิยมกันมากก็คือปลาตะเพียน ซึ่งทำเป็นคู่ เป็นตะเพียนเงินกับตะเพียนทอง ในสมัยก่อนจะเห็นตามร้านค้าในอยุธยาจะแขวนเครื่องรางรูปปลาตะเพียนของหลวงพ่อจงกันแทบทุกร้าน และก็ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง

ในปัจจุบันตะเพียนเงินตะเพียนทองของหลวงพ่อจงแท้ๆ หาได้ยาก เนื่องจากใครมีไว้ต่างก็หวงแหนเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี บางครั้งไปเจอก็ไม่ครบคู่จะเจอเพียงตัวใดตัวหนึ่ง

สันนิษฐานว่าเจ้าของเดิมอาจจะทำหายหรือไม่ก็ได้รับตกทอดมาโดยการแบ่งกันไว้คนละตัว จึงเช่าหาครบคู่ค่อนข้างยาก สนนราคาก็เริ่มสูงขึ้นมากครับ ของปลอมมีมานานแล้ว เวลาจะเช่าหาก็ต้องระวังสังเกตดูให้ดีครับ

ในวันนี้ผมได้นำรูปปลาตะเพียนเงินตะเพียนทองจากหนังสือตามรอยตำนานเครื่องรางของขลังขมังเวทย์ มาให้ชมครับ

ด้วยความจริงใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน