ร.ร.บ้านในเวียง-วัดน้ำโค้ง ตักบาตรพระพุทธวิชิตมาร

ร.ร.บ้านในเวียง-วัดน้ำโค้ง ตักบาตรพระพุทธวิชิตมาร – เมื่อเร็วๆ นี้ นายหอมแต่ง อ่องลออ ผอ.ร.ร. บ้านในเวียง/วัดน้ำโค้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 1 (สพป.แพร่ เขต 1) นำนักเรียนเข้าร่วมงานประเพณีทำบุญตักบาตรประจำปี พระพุทธวิชิตมารประทานสันติสุขสวัสดี ชินสีห์ธรรมบพิตร ประจำปี 2563

จัดเป็นประจำทุกปี โดยสถาบันประชารัฐพิทักษ์ป่า กำหนดจัดเป็นประจำทุกวันที่ 21 ม.ค.ของทุกปี อันเป็นวันเริ่มบูรณะองค์หลวงพ่อเป็นครั้งแรก เมื่อ ปี พ.ศ.2514

ร.ร.บ้านในเวียง-วัดน้ำโค้ง ตักบาตรพระพุทธวิชิตมาร

พระพุทธวิชิตมารประทานสันติสุขสวัสดี ชินสีห์ธรรมบพิตร เป็นพระพุทธรูปประจำโรงเรียนป่าไม้แพร่ ที่ประชาชนชาวเมืองแพร่ ให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นระยะเวลายาวนาน และในปี พ.ศ.2563 นายอภิรักษ์ อิ่มจิตอนุสรณ์ ผอ.สพป.แพร่ เขต 1 ร่วมทำบุญตักบาตรกับนักเรียนด้วย

ประวัติพระพุทธวิชิตมาร เดิมเรียกว่า “หลวงพ่อเศียรขาด” ประดิษฐานอยู่ภายในบริเวณสถาบันประชารัฐพิทักษ์ป่า หรือโรงเรียนป่าไม้เดิม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของนักศึกษาโรงเรียนป่าไม้แพร่ และประชาชนทั่วไป เป็นพระพุทธรูปที่ได้รับการบันทึกว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 20 พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทย

ร.ร.บ้านในเวียง-วัดน้ำโค้ง ตักบาตรพระพุทธวิชิตมาร

พระพุทธวิชิตมาร เป็นพระพุทธรูปสร้างด้วยปูนขาวสมัยโบราณ ประทับอยู่กับพื้น หันหน้าไปทางทิศตะวันออก

จากหลักฐานและตำนานที่ได้บันทึกไว้ของโรงเรียนป่าไม้แพร่ มีดังนี้

“หนานขัด” หรือ นายวงศ์ แขลา อดีตเคยทำงานในคุ้มเจ้าหลวงนครเมืองแพร่ บอกเล่าว่า สมัยบวชเป็นสามเณร เมื่ออายุได้ 14 ปี เข้าไปเก็บผลไม้ คือ มะหลอด หรือส้มหลอด หลังป่าทึบของกำแพงเมือง ซึ่งมีเชิงเทินไว้สำหรับรบพุ่งข้าศึกและมีประตูกำแพงลอดออกไปข้างนอกได้ ประตูนี้เรียกว่า ประตูมาร ปัจจุบันได้ขุดเป็นถนนจากบ้านพระนอนไปสู่วิทยาลัยเทคนิคแพร่ ได้พบพระพุทธรูปองค์หนึ่ง มีลักษณะสง่างาม มีพระวรกายและพระพักตร์ขาวตลอด มีพระเกศเป็นมวยผมอยู่ด้วย ห่มจีวรสไบเฉียงสีทอง มีสายระย้าห้อยเป็นพู่เรียงกันอยู่ที่ปลายสไบ ฐานเป็นรูปบัวคว่ำบัวหงายสลับกัน

ร.ร.บ้านในเวียง-วัดน้ำโค้ง ตักบาตรพระพุทธวิชิตมาร

บันทึกของหนานขัด ยังได้กล่าวว่า เคยชวนสามเณรด้วยกันเข้าไปทำวัตรค่ำที่นั่นเสมอ พยายามเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปองค์นี้ไปไว้ในวัดพระนอน แต่กระทำไม่ได้ เนื่องจากมีน้ำหนักมาก

ต่อมาสอบถามพ่อเฒ่าคำ ซึ่งขณะนั้นมี อายุประมาณ 80 ปี (พ.ศ.2414) ท่านบอกว่า พระพุทธรูปองค์นี้ เป็นพระประธานของวัดเก่าชื่อ “วัดโปรดสัตว์” เหตุที่ตั้งชื่อดังนี้ เนื่องจากสมัยก่อน เมื่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจับกุมผู้ร้ายได้ จะนำตัวไปประหารชีวิตแล้วจะต้องผ่านวัดนี้

ร.ร.บ้านในเวียง-วัดน้ำโค้ง ตักบาตรพระพุทธวิชิตมาร

พระภิกษุที่อยู่ในวัด มักจะเข้ามาสอบถามว่ามีโทษหนักร้ายแรงขนาดไหน ถ้าเห็นว่าโทษนั้นไม่ร้ายแรงมากนัก พระภิกษุจะขอบิณฑบาตไว้ แต่ถ้าเป็นโทษหนักก็จะปล่อยเลยตามเลย ทำให้ผู้กระทำผิดหลายคนหลุดพ้นจากการประหารชีวิต

วัดแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า วัดโปรดสัตว์

ในกาลต่อมาพระพุทธรูป ชำรุดทรุดโทรมลง เนื่องจากมีผู้ไปตัดเศียรพระพุทธรูป เพื่อจะค้นหาข้าวของมีค่าหรือพระเครื่อง ซึ่งเข้าใจว่าบรรจุไว้ในองค์พระ เมื่อไม่พบจึงได้ขุดที่ฐานอีก ทิ้งร่องรอยปรากฏอยู่ ทำให้เศียรพระพุทธรูปหล่นอยู่ที่หน้าพระพุทธรูป ทำให้มีการเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “หลวงพ่อเศียรขาดเมืองแพร่”

จนถึงปี พ.ศ.2511 โรงเรียนป่าไม้แพร่ โดยนายณรงค์ กฤตานุกุล ผอ.โรงเรียนและคณะศิษย์เก่าโรงเรียนป่าไม้แพร่ บูรณะพระพุทธรูปองค์นี้ เป็นการใหญ่มีการระดมทุนจากศิษย์เก่าและงบประมาณจากกรมป่าไม้ พร้อมทั้งได้แต่งตั้งคณะกรรมการ ประกอบด้วย นายรัตน์ พนมขวัญ อดีต ผอ.โรงเรียนป่าไม้แพร่ เป็นประธาน

ร.ร.บ้านในเวียง-วัดน้ำโค้ง ตักบาตรพระพุทธวิชิตมาร

การบูรณะดังกล่าวได้กระทำกันถึง 2 ครั้ง รวมทั้งการต่อเศียรพระพุทธรูปองค์นี้เป็นแบบสุโขทัยปางสะดุ้งมาร

ส่วนการตั้งชื่อพระพุทธรูป สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฐายี) วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ประทานนามว่า “พระพุทธวิชิตมารประทานสันติสุข สวัสดีชินสีห์ธรรมบพิตร” ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ทุกวันที่ 21 ม.ค.ของทุกปี ศิษย์เก่าโรงเรียนป่าไม้แพร่ จะจัดงานทำบุญไหว้หลวงพ่อพระพุทธวิชิตมาร

มีความเชื่อและมีการเล่าสืบต่อกันว่า คนที่ประกอบสัมมาชีพแล้ว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ด้วยอาจมีมารผจญคอยขัดขวางความเจริญก้าวหน้า ให้มากราบไหว้องค์พระพุทธวิชิตมาร ด้วยความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์พระ จะช่วยกำจัดสิ่งชั่วร้ายที่มาแผ้วพานให้หมดไป

โดย สมฤทธิ์ ชัยพลังฤทธิ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน