โรงทานช่วยผู้ประสบภัย
ที่วัดอินทาราม-วัดจุฬามณี
โรงทานช่วยผู้ประสบภัย – ตามที่ นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีข้อสั่งการถึง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกจังหวัด (ผอ.พศจ.) ให้ประสานกับเจ้าคณะปกครองและวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบที่มีศักยภาพ เพื่อจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) บริการประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ
พร้อมทั้งให้ประสานหน่วยงานและบุคลากรทางการแพทย์และการสาธารณสุข ซึ่งประจำอยู่ในพื้นที่ร่วมกันดำเนินการกับวัดที่เป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) โดยให้ปฏิบัติตามคำสั่งมาตรการและคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามพระดำริของ เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกรวมทั้งได้มีหนังสือขอความเมตตาอนุเคราะห์ถึงเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัด และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ด้วยแล้วนั้น
Advertisement
วันเสาร์ที่ 18 เม.ย.2563 นายณรงค์ พร้อมด้วย นายวงเทพ เขมวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม และคณะผู้บริหารสำนักพุทธฯ เดินทางไปยังวัดจุฬามณี อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เยี่ยมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่โรงทาน
ที่จัดตั้งขึ้นตามพระดำริสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยพระครูโสภิตวิริยาภรณ์ เจ้าคณะตำบลอัมพวา เขต 1 และเจ้าอาวาสวัดจุฬามณี จัดมอบข้าวสาร อาหารแห้งให้แก่ผู้ประสบความยากลำบาก เพื่อนำไปใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันต่อไป
จากนั้นคณะผู้บริหารสำนักพุทธฯ เดินทางไปยังวัดอินทาราม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เยี่ยมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่โรงทาน ที่จัดตั้งขึ้นตามพระดำริสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อช่วยเหลือ ผู้ประสบความยากลำบาก ในสถานการณ์โควิด-19 แบ่งเบาภาระของประชาชน รวมถึงชุมชนที่เดือดร้อนบริเวณรอบวัด
พระครูพิศิษฏ์ประชานาถ (หลวงพ่อแดง นันทิโย) เจ้าอาวาสวัดอินทาราม ได้มอบเครื่องวัดอุณหภูมิอินฟราเรด ให้กับผู้ใหญ่บ้าน และร่วมแจกข้าวสาร อาหารแห้งให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
จากนั้นร่วมทำกิจกรรมโครงการพุทธเกษตร สู้วิกฤต โควิด-19 ปลูกผักสวนครัว ปลอดสารพิษ ภายใต้แผนปฏิบัติการ 90 วัน “ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” โดยจะให้ประชาชนได้นำผักที่ปลูกไปใช้ประกอบอาหาร
ซึ่งทางสำนักพุทธฯ ได้นำเอาโครงการนี้ไปต่อยอดที่สำนักพุทธฯ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เช่นกัน
ทั้งนี้ ดำเนินการเตรียมพื้นที่เพาะปลูกแล้ว โดยจะใช้ชื่อกิจกรรมวิถีพุทธ วิถีเกษตร โดยให้บุคลากรแต่ละกองภายในหน่วยงาน ปลูกผักที่ไม่ซ้ำชนิดกัน เพื่อมาแลกเปลี่ยนกัน เป็นการสร้างความสามัคคี และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้