หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม

วัดภูกระแต จังหวัดบึงกาฬ

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม วัดภูกระแต จังหวัดบึงกาฬ – วันอังคารที่ 12 พ.ค.2563 น้อมรำลึกครบรอบ 5 ปี มรณกาล “หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม” หรือ “พระญาณสิทธาจารย์” อดีตเจ้าอาวาสวัดสามัคคีอุปถัมภ์ (ภูกระแต) ต.วิศิษฐ์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย-บึงกาฬ (ธรรมยุต) เป็นพระกัมมัฏฐานรุ่นแรก แห่งกองทัพธรรมสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

มีนามเดิมว่า หนูพูล เอนไชย เกิดเมื่อวันที่ 21 มี.ค.2475 ที่บ้านเดื่อศรีคันไชย อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร

ในช่วงวัยเด็ก มีลักษณะนิสัยสุขุมเยือกเย็น พูดน้อย อ่อนน้อมถ่อมตน อยู่ในโอวาทของพ่อแม่ญาติพี่น้อง มีจิตเมตตา

เข้าพิธีอุปสมบทครั้งแรก เป็นพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ที่วัดท่าเดื่อ มีพระครูนรสีหสาสน์ธำรง รองเจ้าคณะอำเภอวานรนิวาส เป็นพระอุปัชฌาย์

ต่อมาได้พบกับพระอาจารย์สีโห เขมโก ศิษย์ของพระอาจารย์หลวงปู่มั่น และเป็นพระเถระรุ่นเดียวกับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร

ต่อมาญัตติเปลี่ยนนิกายใหม่เป็นฝ่ายธรรมยุต เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2495 มีหลวงปู่จูม พันธุโล เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสมุห์สวัสดิ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ตั้งจิตแน่วแน่ในการปฏิบัติธรรม ถึงขั้นที่เรียกว่ามอบกายถวายชีวิต โดยการออกธุดงค์หาสถานที่วิเวก เพื่อเร่งความเพียรบำเพ็ญภาวนา เพียงพรรษาแรกอาจารย์ได้ถือเนสัชชิธุดงค์ คือการไม่นอน ไม่ยอมให้หลังแตะกับพื้นตลอดพรรษา พร้อมกับอดอาหารควบคู่กันไปด้วย

อาพาธเป็นไข้มาลาเรียอย่างหนัก แต่อาศัยธรรมโอสถ ขันติธรรมที่เกิดขึ้น จนไข้มาลาเรียหายไปเอง

สําหรับวัดแห่งนี้ หลวงปู่ทองพูลเดินทางมาในช่วงปี พ.ศ.2502 ครั้งแรกยังเป็นแค่ภูดิน อยู่ทางทิศตะวันตกของตัวอำเภอบึงกาฬ โดยชาวบ้านเรียกภูดินแห่งนี้ว่า ภูกระแต เนื่องจากมีสัตว์พวกกระรอก กระแต รวมถึงสัตว์ป่าอื่นๆ อาศัยอยู่ชุกชุมตามสภาพที่เป็นป่าดงทึบรกครึ้ม

เมื่อมาถึงบริเวณภูกระแต ในคืนแรกจำวัดใต้ต้นบก และอีก 3-4 วันต่อมา ชาวบ้านได้ทำเพิงพักนั่งร้านและกุฏิชั่วคราวแบบง่ายๆ ทำด้วยไม้ไผ่ป่า จากนั้นก็ได้พัฒนาวัดเรื่อยมาจวบจนถึงปัจจุบัน โดยได้รับแรงศรัทธาสามัคคีร่วมใจจากคณะลูกศิษย์ลูกหา ทั้งพระภิกษุ สามเณร และอุบาสก อุบาสิกา

ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ท่านมีความสามารถด้านการแสดงธรรมเทศนา ท่านมักจะใช้ภาษาที่ง่าย สามารถสื่อให้ชาวบ้านเข้าใจง่าย มีตัวอย่างประกอบหลักธรรมเชิงบุคลาธิษฐาน

ขณะเดียวกัน ยังให้ความเมตตาแก่ประชาชนทุกระดับ เมื่อได้รับนิมนต์ให้ไปแสดงธรรม ตามงานบุญทั่วไป หรืองานฌาปนกิจศพไร้ญาติ โดยเฉพาะวันธรรมสวนะ จึงทำให้พุทธศาสนิกชนเกิดความศรัทธาน้อมนำคำสอนไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

ตลอดชีวิตทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กิจการคณะสงฆ์ทั้งในด้านปริยัติ ปฏิบัติ รวมถึงสาธารณสงเคราะห์ด้วย

แต่ด้วยอายุขัยที่ล่วงเลยเข้าสู่วัยชราภาพ บ่อยครั้งทำให้ท่านอ่อนแรง สุขภาพไม่แข็งแรง

คืนวันอังคารที่ 12 พ.ค.2558 เวลา 18.59 น. จึงละสังขารด้วยอาการ สงบ

สิริอายุ 83 ปี 1 เดือน 19 วัน พรรษา 63

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน