“หลวงปู่แสน ปสันโน” พระเกจิชื่อดังแห่งอีสานใต้ เล่าขานกันว่าทรงคุณพุทธาคมเข้มขลัง วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ
มีวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดและเปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน มีจิตที่เปี่ยมด้วยความเมตตา ได้รับสมญานาม “เทพเจ้าแห่งเขาภูฝ้ายใกล้ชายแดนเขมร”
ปัจจุบันมีอายุ 110 ปี
มีนามเดิมชื่อ แสน คุ้มครอง เกิดที่บ้านโพรง ต.ไพรบึง อ.ขุขันธ์ จ.ขุขันธ์ (ปัจจุบัน ต.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ) เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2450 มีพี่น้องรวม 6 คน
เมื่อครั้นยังเด็กเป็นลูกศิษย์อยู่ที่วัดบ้านโพรง และพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้นให้การเลี้ยงดูจนเรียนจบชั้น ป.4
ต่อมาได้บรรพชา ได้ไปศึกษาเรียนหนังสือกับหลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอใต้ พระเกจิชื่อดัง ทั้งภาษาขอม อักษรธรรม และภาษาบาลีด้วย
กระทั่งอายุ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบท และยังคงเรียนวิชากับพระอาจารย์มุมอย่างต่อเนื่อง
ครั้นอายุ 24 ปี ได้ลาสิกขาออกมาช่วยงานทางบ้านที่มีฐานะยากจน และเป็น “หมอธรรม” ช่วยเหลือผู้คนในชุมชนจนได้รับความเคารพนับถือ
ยามเว้นว่างจากการทำเกษตรกรรมก็ชักชวนเพื่อนหมอธรรมด้วยกันเดินทางไปยังประเทศกัมพูชาเพื่อศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติม ได้พบพระผู้ใหญ่และพระอาจารย์มากมาย โดยจะเลือกเรียนเฉพาะวิชาที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือและรักษาผู้คนเท่านั้น
เมื่อหมดภาระทางบ้าน กลับเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง ไปจำพรรษาที่บ้านกุด เสล่า อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แต่ยังคงปฏิบัติธุดงค์ มักออกธุดงค์ไปตามเทือกเขาพนมดงรักเป็นนิจ
ต่อมาหลวงตาวัน สหธรรมิกรุ่นน้องได้ไปกราบนิมนต์ให้มาช่วยสร้างวัด โดยเจ้าคณะอำเภอกันทรลักษ์อนุญาตให้หลวงปู่แสนไปอยู่ที่วัดอรุณสว่างวราราม(วัดบ้านกราม) แต่ด้วยท่านรักสมถะ ปีต่อมาจึงได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์โนนไทย(วัดกูไทยสามัคคีในปัจจุบัน) อยู่ถึง 3 ปี
กระทั่งเห็นสภาพวัดบ้านหนองจิกที่จะกลายเป็นวัดร้าง เนื่องจากมีพระภิกษุจำพรรษาน้อยและไม่มีผู้ดูแลพัฒนา ท่านจึงย้ายจากสำนักสงฆ์โนนไทย ไปจำพรรษาที่วัดหนองจิกและทำนุบำรุงวัดจนวัดมีพระเข้ามารับช่วงต่อ จำพรรษาอยู่เป็นเวลา 4 ปี โยมญาติจากวัดบ้านโพรงที่ท่านบวชเป็นสามเณร เดินทางมานิมนต์ท่านให้ไปจำพรรษาเพื่อช่วยพัฒนา เนื่องจากวัดใกล้จะร้างด้วยไม่มีพระจำพรรษา
อายุย่างเข้า 93 ปี ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดในช่วงนั้น จนเมื่ออายุ 97 ปี ลูกหลานเป็นห่วงสุขภาพ จึงได้พาชาวบ้านไปนิมนต์กลับมาจำพรรษา ที่วัดบ้านหนองจิก ตราบจนถึงทุกวันนี้
สำหรับวัตถุมงคลของหลวงปู่แสน ไม่ได้จัดสร้างบ่อยนัก นานครั้งในวาระพิเศษ ส่วนใหญ่จะอนุญาตให้ศิษย์ใกล้ชิดสร้างขึ้นเป็นพิเศษ ทำให้วัตถุมงคลของท่านมีจำนวนไม่มากรุ่น แต่ได้รับความนิยมสูง อาทิ เหรียญเสมาครึ่งองค์หลวงปู่แสน รุ่นเจ้าสัวแสนนิยม, พระสมเด็จหล่อโบราณ รุ่นเจริญลาภ, พระกริ่งมหาโภคทรัพย์ เป็นต้น
เกียรติคุณเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใส เป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม