คอลัมน์ มุมพระเก่า

หนึ่งในพระเกจิคณาจารย์เรืองอาคมแห่งปราจีนบุรีดินแดนคุณไสยในอดีต ผู้คนต่างยกย่องในกิตติศัพท์ของ “หลวงพ่อมา” วัดหาดสูง จ.ปราจีนบุรี ศิษย์พุทธาคมของสุดยอดเกจิฯ แห่งภาคตะวันออกหลายรูป อาทิ หลวงพ่อคง วัดซำป่างาม, หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ, หลวงพ่อแดง วัดใหญ่อินทาราม, หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์, หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นต้น

เป็นหนึ่งในพระคณาจารย์ 108 รูป ที่มาร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดราชบพิธ เมื่อปีพ.ศ.2480

มีฝีมือเลื่องลือในด้านงานพัฒนา และการสร้างอิทธิมงคล

เป็นชาวจังหวัดชลบุรีโดยกำเนิด เกิดที่หมู่บ้านหนองกระทุ่ม ต.หนองหงษ์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี เมื่อวันอังคารที่ 29 ก.ค. 2422

อายุได้ 12 ปี บิดามารดานำไปฝากเรียนหนังสือกับท่านสมุห์หล่วน เจ้าอาวาสวัดโคกหัวเข่า พออ่านออกเขียนได้จึงบรรพชา

กระทั่งอายุ 20 ปีท่านได้เกณฑ์ทหารจับได้ใบแดง

ขณะรับราชการได้รู้จักรักใคร่ชอบพอกับขุนกล้ากลางสมร ไม่ว่าจะไปรบที่ไหนก็ไปด้วยกันเสมอ นอก จากนี้ ยังได้ไปศึกษาวิชาอาคมกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

รับราชการจนติดยศจ่าโท จึงลาออกมาช่วยครอบครัว

ปีพ.ศ.2447 อุปสมบท ณ วัดหนองตำลึง เมื่อวันพุธที่ 14 ธ.ค. มีหลวงพ่อแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการเพชร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดจันทร์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ 25 รูป นั่งหัตถบาส ได้รับฉายาว่า “จัตตาลโย” แปลว่า “ผู้มีอาลัยอันสละแล้ว”

หลังจากนั้นได้ศึกษาพระปริยัติธรรม ณ วัดหนองกะชะ ที่วัดแห่งนี้ท่านได้ช่วยสร้างกุฏิสงฆ์และหอสวดมนต์ จนถึงพรรษาที่ 5 ได้พยายามเรียนตำรับตำราทางไสยศาสตร์ เวทมนตร์คาถาจากพระอาจารย์ต่างๆ เช่น หลวงพ่อแก้ว วัดหนองตำลึง ก่อนจะไปจำพรรษาอยู่ที่วัดสี่จีน แขวงเหนือ จ.ธนบุรี และในช่วงนี้ได้ไปมาหาสู่พระราชกวีแห่งวัดเทพศิรินทร์ พร้อมกับชักชวนชาวบ้านแถบนั้นก่อสร้างสะพานข้ามคลองข้างวัด

ด้วยเหตุที่ท่านมีจิตใจในทางรักสงบ ชอบค้นคว้าวิชาความรู้ต่างๆ จากพระอาจารย์ทั้งหลาย จึงออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยมุ่งหน้าขึ้นไปทางภาคตะวันออก และได้รับการถ่ายทอดวิชาจากเกจิอาจารย์เรืองอาคมหลายท่าน อาทิ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ราชาแห่งปลัดขิก, หลวงพ่อแดง วัดใหญ่อินทาราม ผู้มีวาจาสิทธิ์, หลวงพ่อภู วัดต้นสน เจ้าตำรับผง 7 แท่งมหาเสน่ห์, หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ เจ้าของพระปิดตาอันลือลั่น, หลวงพ่อโต วัดเนิน เจ้าแห่งคงกระพันชาตรี และ หลวงพ่อเจียม วัดกำแพง เจ้าตำรับพระปิดตาที่มีพุทธคุณขลังเทียบเท่าของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์

จากนั้น “หลวงพ่อมา” ได้มุ่งสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าไปศึกษาพระคาถาอาคมกับ หลวงพ่อคง วัดซำป่างาม ได้พบปะแลกเปลี่ยนวิชากับหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก จนเป็นสหธรรมิกที่สนิทสนมกันมาก

หลังจากนั้นได้มุ่งหน้าสู่จ.ปราจีนบุรี อาณาจักรแห่งเมืองยาสั่ง ซึ่งสมัยนั้นไม่ว่าใครถ้าได้ยินชื่อเมืองนี้ จะต้องขนหัวลุก เพราะเต็มไปด้วยยาสั่งและการปล่อยของ เช่น เสกหนังกลองเข้าท้อง, บิดไส้, เสกใบไม้เป็นต่อเป็นแตน ซึ่งเป็นฝีมือของชาวเขมรที่เข้ามาอยู่กันจำนวนมาก

เมื่อท่านเข้าเขตกบินทร์บุรีได้พบกับสามเณรชาวเขมรซึ่งเก่งทางวิชาบิดไส้ และได้รับการถ่ายทอดวิชาจากสามเณรรูปนั้น โดยจำพรรษาอยู่ที่วัดวังบัวทอง (สบ้า) จนข่าวคราวชื่อเสียงกิตติศัพท์ของท่านขจรขจายไปทั่วว่าเป็นพระสงฆ์ที่เชี่ยวชาญทั้งเวทมนตร์ และการพัฒนาก่อสร้าง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน