“วัดสุนทรพิชิตาราม” (วัดบึงพระอาจารย์) ต.พระอาจารย์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เป็นวัดเก่าแก่มีตำนานเล่าต่อกันว่า มีพระอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมแปลงกายเป็นจระเข้ใหญ่ ทอดกายต่างสะพาน ให้เหล่าศิษย์ได้ข้ามฟากบึงให้พ้นภัยจากจระเข้เจ้าถิ่น แต่เกิดเหตุไม่สามารถคืนร่างกลับได้ดังเดิม ด้วยเหตุที่ ลูกศิษย์ได้ทำบาตรน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์คว่ำหกไป จำต้องอาศัยร่างจระเข้กบดานจำศีลภาวนาอยู่ในบึงแห่งนี้

ต่อมาผู้คนได้มาขอพลีน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปอธิษฐานใช้ปัดเป่าโรคภัยมานานนับร้อยปี ชาวบ้านจึงขนานนามบึงศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ว่า “บึงพระอาจารย์” สืบมา

ปัจจุบันบึงน้ำดังกล่าววัดได้กันส่วนไว้เฉพาะให้กับทางราชการทำพิธีพลีน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตที่ดินของวัดสุนทรพิชิตาราม เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ด้วยเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ทางราชการใช้ประกอบพิธีกรรม

อาทิ พิธีสรงมูรธาภิเษก ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเมื่อคราวฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ได้พลีนำดินในที่บึงแห่งนี้ไป เข้าพิธีปลุกเสกทำมวลสารสร้างพระชุดฉลอง 25 พุทธศตวรรษด้วย ปีพ.ศ.2542 จ.นครนายก ได้ทำพิธีพลีน้ำจากบึงพระอาจารย์ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในมหามงคลสมัยทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ และพิธีหลวงสำคัญอีกหลายครา

วัดแห่งนี้มีเจ้าอาวาสปกครองสืบมาหลายองค์ แต่ที่มีชื่อเสียงคือ พระครูเมธีธรรมสาธก หรือ “หลวงพ่อหนู เกสโร” อดีตเจ้าคณะอำเภอองครักษ์ จ.นครนายก มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อคราวที่อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ฆราวาสผู้เรืองวิทยาคม เดินทางมาถึงวัด สุนทรพิชิตาราม หรือวัดบึงพระอาจารย์ เกิดความพึงพอใจอย่างมาก ด้วยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ในอดีตเป็นสถานที่ชุมนุมของเหล่าคณาจารย์ผู้เรืองเวท ซึ่งขณะนั้นมีหลวงพ่อหนู เกสโร เป็นเจ้าอาวาส

อาจารย์ฟ้อนมีความศรัทธาในตัวท่าน จึงถ่ายทอดวิชาต่างๆ ที่ได้ร่ำเรียนมาจากคัมภีร์พระเวทให้จนหมดสิ้น อาทิ วิชาหมอสมุนไพร รวมทั้งวิทยาคมด้านเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี จนกระทั่งอาจารย์ฟ้อนละสังขารที่วัดแห่งนี้

ปัจจุบัน พระครูคุณสารโสภิต หรือ “หลวงพ่อทองใบ คุณ สาโร” เป็นเจ้าอาวาส พัฒนาและบูรณะวัดมาตามลำดับ ขณะนี้วัดได้จัดสร้างหลวงพ่อพระพุทธโสธรองค์ใหญ่และองค์จำลอง เพื่อให้ชาวพุทธผู้ศรัทธากราบไหว้บูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล

โดยในวันที่ 24 ก.พ.2561 วัดสุนทรพิชิตารามจัดทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนสร้างหลวงพ่อพระพุทธโสธรจำลอง ขนาดหน้าตัก 14 เมตร 9 นิ้ว องค์พระสูง 16 เมตร ความสูงจากพื้นดินถึงพระเกศ 44 เมตร 69 เซนติเมตร ซึ่งสร้างสำเร็จไปกว่า ร้อยละ 90 และอาคารรองรับก่อสร้างได้กว่าร้อยละ 70 โดยมีนายชนม์ศิริชัย จรัสอรุณฉาย หรือ “อาจารย์เอกใหญ่ บึงพระอาจารย์” และคณะศิษยานุศิษย์ เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี และ ร.ต.สวัสดิ์ เอมระดี เป็นรองประธาน

กำหนดการ เวลา 09.00 น. ตั้งองค์ผ้าป่า เวลา 09.30 น. พิธีไหว้ครูปะสะโลหิต วัตถุมงคลแผ่นยันต์พรหมสี่หน้าและวัตถุมงคล เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุ-สามเณร เวลา 12.00 น. ญาติโยมร่วมรับประทานอาหาร เวลา 13.00 น. ถวายผ้าป่าสามัคคี

ทั้งนี้ อาจารย์เอกใหญ่เป็นศิษย์ของหลวงพ่อหนู เกสโร ซึ่งในพิธีไหว้ครูครั้งนี้ อาจารย์เอกใหญ่ได้ใช้สายวิชาของอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ที่ได้รับถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อหนู จารยันต์ลงบนแผ่นโลหะทองแดง 2 แบบ คือ 1.แผ่นยันต์พรหมสี่หน้า เพื่อให้ลูกศิษย์นำไปบูชาที่บ้านเพื่อแก้ชง กันสิ่งไม่ดี 2.ผ้ายันต์ธง พุทธคุณติดร้านค้า เพื่อโชคลาภ สร้างจำนวนแบบละ 99 ชิ้น

มอบเป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่ร่วมทำบุญกองผ้าป่ามหากุศล กองละ 2,561 บาท โดยอาจารย์เอกใหญ่ได้จารยันต์สด พร้อมปลุกเสกด้วย

ผู้สนใจเข้าร่วมพิธีสอบถามโทร. 06-5145-3598

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน