“ราม วัชรประดิษฐ์”

วัดชนะสงคราม เดิมเป็นวัดโบราณ เล็กๆ ชื่อ “วัดกลางนา” ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี มีพระราชประสงค์ที่จะสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นให้คล้ายคลึงกับกรุงศรีอยุธยาให้มากที่สุด วัดที่ตั้งอยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังได้ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่ ตลอดจนเปลี่ยนชื่อวัดให้เหมาะสม โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อวัดกลางนาเป็น “วัดตองปุ” และให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ เช่นเดียวกับวัดตองปุที่กรุงศรีอยุธยา

ต่อมา กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ซึ่งเป็นแม่ทัพไปสู้รบกับพม่าชนะศึกกลับมาทรงพักทัพ ณ วัดนี้ ทรงทำพิธีสรงน้ำเปลี่ยนเครื่องทรงใหม่ ทรงถอดฉลองพระองค์ซึ่งลงยันต์ถวายเป็นพุทธบูชา พร้อมทรงอนุญาตแม่ทัพนายกองเช่นกัน ทรงสถาปนาวัด ขยายพระอุโบสถ และนำช่างฝีมือมาปั้นปูนทับเสื้อยันต์แล้วบุภายนอกด้วยดีบุกถวายเป็นพระอารามหลวง

กล่าวถึงพระกรุวัดชนะสงครามนั้น ตามหลักฐานปรากฏเกี่ยวกับการสร้างและการค้นพบสามารถแบ่งแยกออกเป็น 3 ชุด ดังนี้

ชุดที่ 1 พระวังหน้า ค้นพบเมื่อปี พ.ศ.2496 โดยพระธรรมทัศนาธร (ทองสุก สุทสฺโส) เจ้าอาวาสวัดชนะสงครามสมัยนั้น ได้ขุดพระเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งเป็นองค์ประธาน ปรากฏพระเครื่องหลากหลายพิมพ์ ลักษณะเป็นพระพิมพ์เนื้อดินดิบผสมผงใบลานสีดำ บางองค์เป็นเงางาม ลวดลายเครือเถาชัดเจน เนื้อยุ่ย หักง่าย มีที่เป็นเนื้อดินเผาบ้าง แต่จำนวนน้อยและหายากมาก สีองค์พระจะคล้ายสีหม้อใหม่ มีจุดดำๆ ขึ้นทั่วไป โดยหลักฐานการสร้างและการบรรจุพระเครื่องชุดนี้ เป็นไม้แกะสลักรูปพระสงฆ์ห่มดอง คาดอก นั่งสมาธิ และลงรักปิดทอง ที่ใต้ฐานบรรจุพระธาตุพระอัครสาวกโมคคัลลาน์ ใบลานจารึกอักษรขอมเลอะเลือนผุกร่อน อ่านไม่ชัดเจน พระทองคำทรงแบบวัดตะไกรหน้าครุฑ จึงสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ปัจจุบันเท่าที่พบในวงการมีน้อยมาก คาดว่าน่าจะเป็นที่หวงแหนของผู้ครอบครอง ค่านิยมจึงค่อนข้างสูงมาก

ชุดที่ 2 พระพิมพ์สมเด็จ ค้นพบเมื่อปี พ.ศ.2515 ที่ใต้ฐานชุกชีประดิษฐานพระประธาน พบพระสมเด็จที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งพิมพ์ เนื้อ และขนาด หลายพิมพ์เช่นกัน เนื้อองค์พระสร้างจากผงพระเกสร ดังนั้น บางองค์เนื้อจะพองฟู บางองค์เนื้อแกร่ง และบางองค์เนื้อจะยุ่ยแบบผุ ที่น่าสังเกตอีกประการคือ พระทุกพิมพ์จะค่อนข้างหนา พิมพ์ใหญ่ จะมีลักษณะพิมพ์คล้ายสมเด็จอรหัง ของสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) แต่ขนาดเล็กกว่า จากการพิจารณาองค์พระแล้ว สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพระพิมพ์ที่สร้างในสมัยสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) หรือก่อนหน้านั้น

และชุดที่ 3 พระเครื่องหลังสงคราม สร้างโดย ท่านพระครูอุดมวิชัย (ทองม้วน ป.ธ.5) เมื่อปี พ.ศ.2491 เป็นพระเนื้อผง พิมพ์พระประจำวัน 8 ปาง พระสีวลี และพระพุทธกวัก โดยมวลสารเป็นผงพุทธคุณจากพระเกจิชื่อดังทั่วประเทศ ผงของพระพิมพ์จากกรุต่างๆ และดอกไม้นานาชนิดที่หน้าโต๊ะหมู่บูชาพระประธานในพระอุโบสถ รวมทั้งผงและพระหักป่นกรุวัดชนะสงคราม (วังหน้า) ที่ได้สะสมไว้ น้ำซึ่งเป็นส่วนผสมการสร้างพระก็ใช้เฉพาะน้ำพระพุทธมนต์ร้อยปีในพระอุโบสถตรงหน้าพระประธาน น้ำพุทธมนต์ในพระบรมมหาราชวัง และน้ำพระพุทธมนต์จากพระอารามต่างๆ

เมื่อสร้างเป็นองค์พระเรียบร้อยแล้ว ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกตลอดไตรมาส โดยอาราธนาพระเกจิผู้เรืองเวทวิทยาคุณและเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนในยุคนั้นจากภาคต่างๆ ทั่วประเทศไทยรวม 108 รูป เข้าร่วมพิธีปลุกเสก ลักษณะองค์พระไม่นูนมากนัก บางองค์มีจุดสีแดง สีดำ และสีชมพู เนื้อละเอียดแข็งเปราะ เมื่อขัดถูจะมันเงาสวยงาม

พระกรุวัดชนะสงครามทั้ง 3 ชุดนี้ ถือเป็นพระกรุเก่าที่เป็นที่นิยมสะสมและแสวงหาอย่างกว้างขวาง เพราะนอกจากชื่ออันเป็น มงคลแล้ว พุทธคุณยังเป็นเลิศ เป็นที่ประจักษ์ สมัยก่อนราคายัง พอแตะได้ แต่ ณ ปัจจุบันหาดูหาเช่ายากนักครับผม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน