ไวรัสจากอู่ฮั่นเป็นไวรัลการเมืองจาก 20 ทหารเรือ

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

ไวรัสจากอู่ฮั่นเป็นไวรัลการเมืองจาก 20 ทหารเรือ : ปรากฏการณ์ 20 นายทหารเรือที่เดินทางกลับจากนครอู่ฮั่น ประเทศจีน กำลังเป็นปรากฏการณ์อันสะท้อนให้เห็นไม่เพียงแต่ต่อสถานการณ์ไวรัส โคโรนา ที่กำลังแพร่ระบาด

หากแต่ยังเปลือยกองทัพออกมาอย่างเด่นชัด

ตามปกติแล้วในสถานการณ์โรคระบาดซึ่งกำลังเป็นข่าวอย่างอึกทึกครึกโครมไปทั่วโลก การเดินทางกลับของ 20 นายทหารเรือย่อมเป็นเรื่องใหญ่

ต้องมิใช่ดำเนินไปอย่างชนิดที่เรียกว่าดอดเป็นอันขาด

อย่างน้อยกองทัพเรือ กองทัพไทย จะต้องมีการแถลงข่าวถือว่าเป็นความสำเร็จ อย่างน้อย 20 ทหารเรือจะต้องเป็นแหล่งข่าวอันทรงความหมายของสื่อกระแสหลัก

แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่ก็คือ ทางกองทัพเรือพยายามทำให้กรณีของ 20 ทหารเรือดำรงอยู่อย่างเงียบเชียบที่สุด

เงียบเชียบกระทั่ง พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังงง

เงียบเชียบเพราะว่าสภาพการณ์โดยทั่วไปก็เป็นอย่างที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศระบุ

ไม่มีคนจากประเทศใดออกจากอู่ฮั่นมาได้

คำแถลงนี้ครอบคลุมถึงความจำเป็นที่ไทยยังไม่สามารถส่งเครื่องบินไปรับ 64 คนไทยในนครอู่ฮั่นออกมาได้ เพียงแต่ 20 นายทหารเรือสามารถออกมาได้เท่านั้นเอง

พลันที่ข่าว 20 นายทหารเรือเริ่มปูดออกมาจากกองทัพเรือ คำถามในเชิงเปรียบก็เกิดขึ้นตามมาโดยอัตโนมัติ ระหว่าง 20 นายทหารเรือกับ 64 คนไทย

หรือว่า 64 คนไทยอยู่นอกเหนือขอบข่าย

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง ไม่ว่า 20 นายทหารเรือ ไม่ว่า 64 คนไทยล้วนเคยพำนักอยู่ในนครอู่ฮั่นในห้วงแห่งการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดโคโรนา ด้วยกัน

แล้วทำไมอภิสิทธิ์จึงเป็นของ 20 นายทหารเรือ

การเปรียบเทียบลักษณะสองมาตรฐานหรือดับเบิล สแตนดาร์ด ระหว่างบุคคลที่เป็นทหาร กับบุคคลที่เป็นพลเรือน จึงบังเกิดขึ้นอย่างยากจะห้ามปรามได้

ปรากฏการณ์อันเป็นผลสะเทือนจาก 20 นายทหารเรือจึงมากด้วยความละเอียดอ่อนท่ามกลางความตื่นตระหนกในเรื่องโรคระบาด

ปมเงื่อนอยู่ตรงที่ความจริง

ไม่ว่าจะเป็นความจริงจากการตัดสินใจของทางการจีน ไม่ว่าจะเป็นความจริงจากการตัดสินใจของรัฐบาลไทย

ทำไมจึงเป็น 20 ทหารเรือ ทำไมไม่ใช่ 64 พลเรือน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน