หยิกเล็บ เจ็บเนื้อ
หยิก ส.ว. เจ็บถึง “คสช.”
เจ็บถึง “รัฐบาล”
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
หยิกเล็บ เจ็บเนื้อ หยิก ส.ว. เจ็บถึง “คสช.” เจ็บถึง “รัฐบาล”:คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง – กระแสกดดันต่อ 250 ส.ว.ในขณะนี้ถือว่าเป็น “กรรมเก่า” ทางการเมือง
เหมือนกับการเปรียบเทียบระหว่าง ส.ว. กับ ส.ส.จะมีรากฐานมาจากจุดต่างอย่างสำคัญ คือ ส.ส.มาจาก “การเลือกตั้ง” ขณะที่ ส.ว.มาจาก “การแต่งตั้ง”
เป็นความจริง แต่ก็มิได้เป็นความจริงทั้งหมด
เพราะกล่าวอย่างถึงที่สุดแล้วภายในกระบวนการของ“การแต่งตั้ง”นั้นยังสัมพันธ์กับคำถามที่ว่าใครแต่งตั้งและมีเป้าหมายอะไรในการแต่งตั้ง
นั่นแหละสภาพที่ ส.ว.กลายเป็นตำบล กระสุนตก
250 ส.ว.มาจาก “คสช.”เพื่อผลประโยชน์โดยตรงของ “คสช.”
250 ส.ว.คือพัฒนาของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือ “สนช.” เป็นผลผลิตแห่งการรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
บทบาทของ “สนช.” เป็นอย่างไร บทบาทของ“ส.ว.” ก็เป็นอย่างนั้น
ตลอดเวลา 5 ปีของสนช.คือการเป็น”สภาฝักถั่ว” การทำทุกอย่างเพื่อสนองอำนาจของคสช. บทบาทของ 250 ส.ว.ก็เป็นเช่นเดียวกัน
นั่นก็คือ เพื่อการสืบทอดอำนาจของ ”คสช.” ไม่มีเป็นอื่น
กระแสและความรู้สึกต่อ 250 ส.ว.จึงดำเนินไปในลักษณะแห่ง “สงครามตัวแทน”
อาจกล่าวได้ว่าเป็นความรู้สึกของสังคมที่มีต่อบทบาทและความหมายของ“สนช.” และสืบทอดมายังบทบาทและความหมายของ“ส.ว.”
เท่ากับเป็นการตีลูก“แคนนอน”ชิ่งไปยัง “เจ้านาย”
ประกอบกับ 250 ส.ว.มีบทบาทเด่นคือขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากนั้นก็ไม่ได้แสดงบทบาทละความหมายอะไรเลย
ความรู้สึกหงุดหงิด ไม่พอใจจึงทะยานขึ้นสูง
ความไม่พอใจต่อ 250 ส.ว.มีผลสะเทือนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไม่เพียงเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น หัวหน้าคสช. หากแต่กำเนิดของ 250 ส.ว.ยังมาจากการแต่งตั้งโดยอำนาจของคสช.อีกด้วย
การหยิก 250 ส.ว.จึงเท่ากับเจ็บไปถึงคสช.อย่างมีนัยสำคัญ