ข้อกฎหมายกับสายตาคนดู
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
โดย – วงค์ ตาวัน
ข้อกฎหมายกับสายตาคนดู – การเมืองไทยกลับมาอยู่ในความสนใจของประชาชนอีกครั้ง โดยมี 2 เหตุการณ์สำคัญ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคดีเงินกู้พรรคอนาคตใหม่ จะโดนยุบหรือไม่โดนยุบ จากนั้น 24 กุมภาพันธ์ ฝ่ายค้านจะเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีกับรองนายกฯและรัฐมนตรีรวม 6 ราย
เป็นทั้ง 2 เหตุการณ์ร้อน และมีความต่อเนื่องกัน ห่างกันแค่ 3 วัน
จนถึงขั้นเริ่มมีกระแสเรียกร้องให้เลื่อนวันตัดสินพรรคอนาคตใหม่ออกไปก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
อีกทั้งในสายตาประชาชน เริ่มมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นผลกระทบต่อการซักฟอกรัฐบาลกันอย่างเป็นพิเศษ
แถมยังมีความเคลื่อนไหวแห่กันไปลงชื่อ เพื่อปกป้องพรรคอนาคตใหม่ในทางการเมือง
จึงต้องบอกว่าสถานการณ์การเมืองไทย กลับสู่บรรยากาศเข้มข้นอีกครั้ง!
ในด้านคดีเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่นั้น คงไม่มีใครรู้ล่วงหน้าได้ว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยเช่นไร
คดีนี้น่าสนใจว่า การตัดสินคดีโดยการตีความข้อกฎหมายก็ส่วนหนึ่ง
แต่ข้อเท็จจริงที่ประชาชนรับรู้กันในวงกว้าง ก็เป็นอีก แง่หนึ่ง
นั่นคือเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่ เป็นการกระทำอย่างเปิดเผยเพื่อสร้างมิติใหม่ของพรรคการเมือง ให้ปลอดพ้นนายทุน
โดยในช่วงต้นเมื่อพรรคการเมืองไม่สามารถทำกิจกรรมหารายได้ ก็ใช้วิธีกู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และมีสัญญาใช้คืนทั้งต้นและดอก
ต่อมาเมื่อมีรายได้ก็เริ่มทยอยใช้คืนให้หมดสิ้น เพื่อให้เป็นพรรคที่ไม่มีใครเป็นนายทุนครอบงำ!
แต่ไปๆมาๆกลับมีการตีความทางกฎหมายกลายเป็นข้อหาที่กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค
ลงเอยเป็นเช่นไรต้องรอฟังคำวินิจฉัย
แต่ในทางการเมือง ในด้านความคิดเห็นของประชาชนคนดู ก็ต้องรอรับฟังกันต่อไป
ทำให้ย้อนนึกไปถึงบรรยากาศ ตอนนายธนาธรต้องพ้นสภาพส.ส. จากคดีถือหุ้นสื่อวีลัคมีเดีย
ในแง่คำตัดสินก็ต้องรับฟังด้วยความเคารพ แต่ความเห็นของประชาชนคนดู ก็เป็นเรื่องปกติ
ที่สำคัญ หลังถูกตัดสินดังกล่าวแล้ว ไม่มีใครลุกขึ้นมาประณามว่านายธนาธรเป็นคนขี้โกงจงใจซุกซ่อนหุ้นสื่อ
เพราะไม่มีใครที่เลือกนายธนาธรและอนาคตใหม่ โดยถูกสื่อวีลัคมีเดียจูงใจ!!
เหมือนกับที่วันนี้ใครก็ชื่นชมว่าการปล่อยเงินกู้พรรคคือการทำให้ที่มาของเงินพรรคนี้เปิดเผยโปร่งใส
นี่ยังไม่รวมที่ประชาชนหวังรอฟังส.ส.อนาคตใหม่อภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างจดจ่ออีกด้วย!
