โค้งสุดท้ายผบ.ตร.

พกแอลกอฮอล์แทนปืน

คอลัมน์ ชกไม่มีมุม

โดย…วงค์ ตาวัน

โค้งสุดท้ายผบ.ตร. พกแอลกอฮอล์แทนปืน – เจ้าหน้าที่ตำรวจ ถือเป็นแวดวงที่ได้รับผลกระทบจากโควิดไม่น้อย มีตัวเลขชาวสีกากีที่กลายเป็นคนป่วยคนติดเชื้อให้ได้ยินเป็นระยะๆ ทั้งเป็นผลมาจากการที่ยังต้องทำหน้าที่สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายในคดีต่างๆ ต้องเดินทางไปหลายพื้นที่

ไปจนถึงงานบนโรงพักก็ยังต้องรับแจ้งความร้องทุกข์ สัมผัสผู้คนต่อไป เพียงแต่เพิ่มมาตรการป้องกัน มีระยะห่าง

ไม่เท่านั้น การตั้งด่านตรวจตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ ก็เป็นอีกจุดเสี่ยงที่ตำรวจต้องเผชิญอยู่

เพราะต้องตรวจสอบผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา เดินทางข้ามเมืองอย่างมีเหตุผลจำเป็นเพียงพอหรือไม่ ตรวจวัดไข้ว่าต้องสงสัยหรือเปล่า

รวมทั้งตรวจจับพวกแหกกฎเคอร์ฟิวในยามค่ำคืน

แต่ก็น่าจะยังมีขวัญกำลังใจดี เพราะเห็นพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ออกตรวจ และให้กำลังใจกับตำรวจตามด่านตรวจต่างๆ ด้วย ตัวเอง!

ก็คงได้พบเห็น ผบ.ตร.ออกเดินสายไปทั่วประเทศ ตรวจด่านไปแทบทุกจังหวัด เหนือจรดใต้

ทั้งกระตุ้นเตือนการทำงานของตำรวจ ให้เข้มข้นจริงจัง

พร้อมทั้งดูแลขวัญกำลังใจ จัดหาหน้ากากอนามัย ถุงมือ เจลแอลกอฮอล์ ไปจนถึงมอบเงินสนับสนุนการทำงาน

เห็นพล.ต.อ.จักรทิพย์ตรวจตราจริงจัง จนชาวบ้านเริ่มห่วงใย ทำนองว่าตรวจแบบไม่กลัวจะติดโควิดเลยทีเดียว

หวังว่าคงจะมีความระมัดระวังป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่

ทั้งที่อายุราชการตอนนี้ก็เหลือแค่ 5 เดือน แต่ก็ยังคงทำงานแบบติดดินอย่างคงเส้นคงวา!

ความจริงช่วงสุดท้ายของอายุราชการขนาดนี้ สามารถเริ่มผ่อนเครื่อง ผ่อนคันเร่งการทำงานได้แล้ว

โดยปกติ ถือว่าเข้าช่วงเตรียมตัวอำลาชีวิตราชการ หลังจากเหน็ดเหนื่อยมายาวนาน

รวมทั้งอาจจะต้องยิ่งระวังจังหวะย่างก้าวช่วงสุดท้าย เพลย์เซฟเอาไว้เป็นหลัก

เพื่อไม่ให้มีอะไรพลาดพลั้ง เพื่อสร้างสถิตินั่งเก้าอี้ผบ.ตร.จนครบ 5 ปีอย่างสดสวย!

แต่เชื่อว่าโดยนิสัยใจคอ และบุคลิกเป็นตำรวจติดดิน

ทำให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกับ ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างไม่อาจเมินเฉยได้

ยิ่งเป็นช่วงวิกฤตบ้านเมือง เป็นช่วงที่ตำรวจต้องทำหน้าที่บนความเสี่ยงโรคภัยไข้โควิด

ก็ต้องเดินหน้าร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกัน

ในยุคที่ตำรวจไทยแทบจะเลิกพกปืน หันมาพกแต่สเปรย์เจลแอลกอฮอล์ติดเอวไว้ตลอดเวลา!