งบประมาณเรือดำน้ำ – การอภิปรายในสภาผู้แทนฯ วาระพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาทนั้น ประชาชนคนไทยให้ความสนใจฟังกันไม่น้อย เพราะคนส่วนใหญ่กำลังเผชิญทุกข์ภัยจากโควิด นำมาซึ่งปัญหาปากท้อง คนตกงาน ธุรกิจพังทลาย
ต้องการรู้ว่า เขาจัดงบประมาณแผ่นดิน เพื่อกอบกู้ประเทศและชีวิตประชาชนจากภัยโรคระบาดที่แสนสาหัสอย่างไร
เมื่อได้ฟังการอภิปรายของส.ส.ฝ่ายค้านจะพบว่า มีการจี้ประเด็นที่น่าตกใจคือ งบประมาณด้านจัดซื้ออาวุธให้กองทัพ ยังคงคึกคักเข้มข้น!
ส.ส.มหาสารคามฝีปากกล้า นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ขุนพลของพรรคเพื่อไทย เป็นคนหนึ่งที่พูดได้น่าสนใจ
บอกว่างบประมาณปี 64 ไม่ตอบโจทย์การแก้ไขโควิดและปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ
แทนที่จะเอาไปกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยคนตกงาน กลับเอาไปซื้อเรือดำน้ำ ซื้ออาวุธ!
นายยุทธพงศ์ตั้งข้อสงสัยว่า เรือดำน้ำ 2 ลำ ไม่ได้หยุดซื้อ นึกว่านายกฯจะเห็นแก่ความเดือดร้อนประเทศชาติและประชาชน แล้วตัดงบออก แต่นายกฯก็ยังไม่ยอมหยุดซื้อ เพียงแค่ชะลอไม่ซื้อปี 63 แต่จะมาซื้อในปี 64
ทั้งที่งบเรือดำน้ำตัดทิ้งได้ แต่ทำไมไม่ตัด
ถ้าเห็นแก่ประเทศชาติ ท่านต้องเลิกเอางบ 2.2 หมื่นล้านไปซื้อเรือดำน้ำ เอางบมาช่วยประชาชน
ลงท้ายส.ส.ยุทธพงศ์ถามว่า ท่านจะเอาเรือดำน้ำไปรบกับใคร!?
ผลก็คือ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงว่า แม้ว่าจะไม่ได้เอาไปรบกับใคร
แต่เป็นการรักษาความมั่นคงทางทะเล
โดยอธิบายว่า เป็นยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือในการรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศที่มีสูงถึง 24 ล้านล้านบาท
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯตอบคำถามในฐานะเป็นรัฐมนตรีกลาโหมด้วย ถึงประเด็นงบประมาณซื้ออาวุธว่า เป็นการทำเพื่อลูกเพื่อหลาน
ขอความเข้าใจกันบ้าง หลายคนลูกหลานก็เป็นทหารกัน ทั้งสิ้น ก็คงต้องห่วงใยเขา ถ้าเราไม่มียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย ป้องกันตัวเองได้ ในขณะที่อาวุธต่างๆ ร้ายแรงมาก ก็อาจทำให้เกิดความสูญเสียของลูกหลานพวกเราได้
ฟังแล้วก็เห็นภาพของนายกรัฐมนตรีที่มียศพลเอกจริงๆ
แน่นอนรัฐบาลก็ไม่ได้ซื้ออาวุธอย่างเดียว งบประมาณ ด้านอื่นๆ ก็จัดไปถ้วนหน้า
เพียงแต่คำถามจากส.ส.ฝ่ายค้านที่ตรงใจประชาชนก็คือ ปัญหาโควิดและเศรษฐกิจ มันรุนแรงเกิน ปกติ
แต่เหตุใดการจัดงบประมาณจึงยังจัดซื้ออาวุธกันเป็นปกติต่อไป
ชาวบ้านล้วนคาดหวังว่า งบประมาณจะเทมาที่ปัญหาปากท้อง อาชีพการงาน เป็นสำคัญ เพิ่มมากเป็นพิเศษ
ฟังไปฟังมา ให้รู้สึกว่าเรายังคงอยู่ในยุครัฐบาลทหารไม่เปลี่ยนแปลง!
