‘1ทศวรรษ’ยานยนต์โลก

ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

คอลัมน์ ยานยนต์

‘1ทศวรรษ’ยานยนต์โลก – ในช่วง 10 ปี (2010-2019) หรือ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ถือว่าพัฒนาและก้าวล้ำชนิดที่เรียกว่าเหนือกว่าหลายสิบปีที่ผ่านมาด้วยซ้ำ

ส่วนจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ‘จีเอ็ม’ หรือ เจเนอรัล มอเตอร์ ยักษ์ใหญ่วงการยานยนต์โลก รวบรวมมาให้พิจารณากัน

เริ่มจาก ‘บอกลาปั๊มน้ำมัน’ เนื่องจากแทบทุกบริษัทยานยนต์พัฒนารถยนต์ไฟฟ้า จนเห็นวิ่งกันเกลื่อนถนน และเป็น เทรนด์ที่กำลังมาแรง ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น วิ่งได้ระยะไกลขึ้นต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ถือว่าไม่ต่างจากการเติมน้ำมัน 1 ถังเลยก็ว่าได้

รถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่มีแค่รถขนาดเล็ก แต่รถอเนกประสงค์รุ่นยอดนิยมจากหลายค่ายก็เริ่มพัฒนาให้รองรับระบบไฟฟ้าได้แล้ว รวมถึงรถกระบะที่วิ่งด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นเช่นกัน

‘ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก’ ผู้ผลิตรถยนต์หลายราย รวมถึงจีเอ็ม ใช้ชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลเพื่อลดปริมาณขยะและลดน้ำหนักของตัวรถ เช่น การนำขวดน้ำพลาสติกรีไซเคิลมาผลิตเป็นฉนวนของเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ รุ่น ‘อิควีนอกซ์’ รวมถึงการที่จีเอ็ม ประเทศไทย พัฒนาให้เครื่องยนต์ของรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์และรถกระบะโคโลราโด รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B 20 ได้

‘ไม่พลาดทุกการติดต่อ’ สมาร์ตโฟนกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์ไปแล้ว ทำให้ค่ายรถยนต์ พัฒนาให้รถยนต์สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาดขึ้น อย่างเช่น รถอเนกประสงค์ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ที่มาพร้อมระบบการเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิง Chevrolet Link ซึ่งสามารถใช้งานพร้อมกันทั้งบนหน้าจอรถยนต์และหน้าจอโทรศัพท์

‘มองเห็นรถทั้งคันจากมุมสูง’ สมัยก่อนการมีกล้องมองหลังถือเป็นตัวช่วยชั้นดีแล้ว แต่ปัจจุบันเราสามารถมองเห็นภาพรถรอบคันจากมุมสูง เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยจอดรถ ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบป้องกันการชน

‘นั่งรถไปกับคนแปลกหน้า’ ด้วยความรักษ์โลกทำให้เริ่มมีการคิดค้นวางแผนเดินทางแบบ ‘ridesharing’ หรือบริการร่วมเดินทาง ไม่ต้องรอเรียกรถแท็กซี่ ผู้ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นหลากหลายให้บริการลักษณะนี้ ไม่รวมถึงรถรับจ้างผ่านแอพฯ เช่น Grab สามารถเรียกรถมารับถึงหน้าบ้านได้เลย

‘ลดน้ำหนักของรถ’ ความก้าวหน้าของซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบพร้อมด้วยวัสดุที่ล้ำสมัยขึ้น ทำให้บริษัทรถยนต์สามารถนำเทคนิคการลดน้ำหนักมาใช้ในการผลิตรถยนต์ให้มีน้ำหนักเบาลงและประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยีการออกแบบควบคู่ไปกับความก้าวหน้าด้านการผลิต เช่น การพิมพ์แบบสามมิติที่พลิกโฉมการออกแบบและพัฒนารถยนต์ครั้งสำคัญ ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

“อัพเดตซอฟต์แวร์’ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันช่วยให้เจ้าของรถ สามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ต่างๆ ไปยังรถยนต์ผ่านเครือข่ายออนไลน์ เมื่อมีการอัพเดตใหม่ๆ ลูกค้าจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านระบบอินโฟเทนเมนต์ สามารถเลือกได้ว่าจะติดตั้งซอฟต์แวร์ล่าสุดหรือปฏิเสธการอัพเดต โดยไม่ต้องไปถึงศูนย์บริการ

ขับขี่โดยไม่ต้องจับพวงมาลัย ในขณะที่เราถูกย้ำเตือนอยู่เสมอว่าห้ามละสายตาจากถนนและจับพวงมาลัยรถตลอดเวลา แต่ต่อไปนี้เทคโนโลยีจะช่วยเราขับรถ ระบบช่วยขับขี่ ‘Super Cruise’ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของจีเอ็ม ช่วยให้ผู้ขับสามารถปล่อยมือจากพวงมาลัยรถเมื่อรถวิ่งอยู่บนไฮเวย์ที่กำหนด

จีเอ็มได้พัฒนาเซ็นเซอร์และระบบแจ้งเตือนต่างๆ มาช่วยให้คุณขับรถอย่างปลอดภัย โดยมีเส้นทางกว่า 200,000 ไมล์ (ประมาณ 321,869 กิโลเมตร) ครอบคลุมเกือบทั่วสหรัฐอเมริกาที่รองรับระบบนี้

‘ลืมพวงมาลัยและคันเร่ง’ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติกำลังเปลี่ยนโฉมรูปแบบ และขีดความสามารถของรถยนต์ที่เราเห็นในปัจจุบันไปอย่างสิ้นเชิง และเร่งไปสู่การขับเคลื่อนแห่งอนาคต

ทั้งหมดนั้นคือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา