ช็อก!แอลจีไปต่อไม่ไหว โบกมือลาวงการสมาร์ตโฟนแล้ว

ช็อก!แอลจีไปต่อไม่ไหว – วันที่ 5 เม.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แอลจี หนึ่งในค่ายผู้พัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำของโลก กลายเป็นผู้พัฒนาสมาร์ตโฟนรายแรกที่ประกาศถอนตัวจากตลาดดังกล่าว ภายหลังแผนกสมาร์ตโฟนประสบภาวะขาดทุนนาน 6 ปี และหาผู้ซื้อต่อไม่ได้

รายงานระบุว่า การถอนตัวของแอลจีจะส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 10 ในทวีปอเมริกาเหนือ (ซึ่งแอลจีเป็นค่ายสมาร์ตโฟนที่มียอดจำหน่ายสูงสุดอันดับสามในโซนนี้) ถูกเขมือบโดยยักษ์ใหญ่คู่แข่งอย่าง แอปเปิ้ล ในสหรัฐอเมริกา และซัมซุง จากเกาหลีใต้

นายโค อุยยัง นักวิเคราะห์จาก ไฮ อินเวสต์เมนต์ แอนด์ ซีเคียวริตีส์ กล่าวว่า แอลจี เป็นแบรนด์ที่มุ่งเจาะกลุ่มตลาดสมาร์ตโฟนระดับกลางในสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดที่ซัมซุงมีผลิตภัณฑ์ตัวเลือกมากกว่าทางแอปเปิ้ล จึงคาดว่าซัมซุงน่าจะได้เปรียบหลังจากนี้

การประกาศถอนตัวของแอลจีเกิดขึ้นภายหลังแผนกพัฒนาสมาร์ตโฟนของค่ายประสบกับภาวะขาดทุนติดต่อกันยาวนานถึง 6 ปี มูลค่าถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.4 แสนล้านบาท และการเจรจาซื้อขายแผนกกับค่ายวินกรุ๊ปจากเวียดนามไม่สามารถตกลงกันได้

แถลงการณ์ของแอลจี ระบุว่า การถอนตัวข้างต้นจากตลาดสมาร์ตโฟนที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด จะส่งผลให้แอลจีสามารถทุ่มเทการพัฒนาไปในด้านที่กำลังมีการเติบโตของบริษัท อาทิ ชิ้นส่วนยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์อัจฉริยะภายในบ้าน หรือสมาร์ตโฮม เป็นต้น

แอลจี นับเป็นค่ายผู้พัฒนาเทคโนโลยีรายแรกๆ ที่เข้ามาสู่ตลาดสมาร์ตโฟน และเป็นผู้ปฏิวัติวงการดังกล่าวในหลายด้าน เช่น การติดตั้งเลนส์อัลตร้า-วายบนมือถือเป็นเจ้าแรก กระทั่งมียอดจำหน่ายสูงสุดในปี 2556 เป็นค่ายที่จำหน่ายสมาร์ตโฟนมากที่สุดอันดับสามของโลก รองจากแอปเปิ้ล และซัมซุง

ต่อมาสมาร์ตโฟนของค่ายประสบปัญหาหลายประการทั้งทางด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ผนวกกับการแก้ไขและอัพเดทเฟิร์มแวร์ที่ล่าช้า ทำให้ผู้บริโภคหันไปนิยมค่ายอื่น โดยเฉพาะคู่แข่งจากจีนที่เข้ามาเป็นตัวเลือกหลายค่าย ทั้งยังมีการตลาดที่น่าดึงดูดใจมากกว่าแอลจี

ทั้งนี้ แอลจี มีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกปัจจุบันอยู่ราวร้อยละ 2 โดยเมื่อปี 2563 ทางค่ายผลิตสมาร์ตโฟนออกมาจำหน่ายราว 23 ล้านเครื่อง เทียบไม่ได้กับค่ายซัมซุงที่ผลิตออกมาจำหน่ายได้กว่า 256 ล้านเครื่อง

อย่างไรก็ตาม แอลจี ยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดทั้งในทวีปอเมริกาเหนือ และละตินอเมริกา (อันดับ 5) นำหน้าแบรนด์ชื่อดังอื่นๆ จากจีน เช่น ออปโป้ วีโว่ และเสียวหมี่ เนื่องมาจากความสัมพันธ์ที่ตกต่ำระหว่างทางการสหรัฐฯ กับจีน

ขณะเดียวกันนั้น แผนกพัฒนาสมาร์ตโฟนนับเป็นแผนกที่มีขนาดเล็กที่สุดของแอลจี จากทั้งหมด 5 แผนกใหญ่ รายได้เป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 7 ของบริษัท และจะถูกปิดลงในวันที่ 31 ก.ค.นี้

ด้านแอลจี ยืนยันว่า จะไม่มีการปลดพนักงานในแผนกดังกล่าวออก แต่จะโยกย้ายไปสังกัดแผนกอื่นแทน แต่จะให้เป็นทางเลือกของพนักงานเอง

นอกจากนี้ แอลจี จะยังคงถือสิทธิบัตรเทคโนโลยี 4G และ 5G ไว้ รวมทั้งพนักงานที่อยู่ในฝ่ายการวิจัยและพัฒนา ซึ่งจะเดินหน้าคิดค้นเทคโนโลยีการสื่อสาร 6G ต่อไป แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะจดสิทธิบัตรหรือไม่

สำหรับลูกค้าผู้ใช้สมาร์ตโฟนจากค่ายแอลจีนั้น ทางค่ายระบุว่า จะให้การสนับสนุนทางซอฟต์แวร์และอัพเดทต่อไปอีกระยะหนึ่ง (แต่ละทวีปไม่เท่ากัน)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน