อีเว้นต์ล่าสุดจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สร้างความเหน็ดเหนื่อยให้กับคู่สัประยุทธ์ทางการเมืองเป็นอย่างสูง

ต่างไปจากตอนไป อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์
ต่างไปจากตอนนำ “ข้าวสาร” ออกมาวางขายด้วยสนนราคา 20 บาทต่อ 1 กิโลกรัม
ทั้งที่แฟชั่นไอส์แลนด์ ทั้งที่อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง
เพราะครานี้มีการยกระดับไปเป็น “การแปรรูป”ข้าว แล้วปรา กฎออกมาเป็น “อาหาร”
ที่เห็นๆก็ร่วม 50 รายการ
ไม่ว่าจะเป็นข้าวตังหอม ข้าวเกรียบปากหม้อ ขนมจีนน้ำยาหมู แป้งเส้นทานคู่กับส้มตำ
พิซซ่าข้าว พุดดิ้งข้าว ไม่พอ
ยังมีซูชิไส้อั่ว ยังมีสลัดข้าวหอมมะลิ ยังมีขนมครกหน้าหมูยอ หน้าไส้อั่ว ทำจากข้าวหอมมะลิ
ข้าวยำสไตล์ไทย ลาบข้าวเหนียวอกไก่
ทั้งหมดนี้สัมพันธ์กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สัมพันธ์กับการเป็น “แม่บ้าน”
สะท้อน “อีเว้นต์”ในแบบ “ซอฟท์ พาวเวอร์”

คล้ายกับว่า การเป็นผู้หญิงจะถูกมองว่าเป็น “จุดอ่อน”ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในสนาม “การเมือง”
เห็นได้จากคำด่าว่า “อีโง่”
เห็นได้จากคำเปรียบเปรยด่าทอจากปลายปากกาของนักวาดการ์ตูน
รุนแรงถึงขั้นกล่าวหาว่าเป็น GAREE
เห็นได้จากการขยายภาพ “โฟร์ ซีซั่นส์” อย่างวิลิศมาหราจากขุนพลแห่ง “พรรคประชาธิปัตย์”
แต่ภายใน “จุดอ่อน” ก็มี “จุดแข็ง”
เมื่อนำเรื่อง “ข้าว”ให้พัฒนาไปสู่ “การแปรรูป” ร่วมใจบริโภค สร้างมูลค่าเพิ่ม
เข้าสู่พรมแดน “เศรษฐกิจสร้างสรรค์”

หากมองจากองค์ประกอบอันผลักดันให้มีการจัด”อีเวนต์”ครั้งใหม่ก็จะเข้าใจ
เข้าใจ”ฐาน”ทาง”การเมือง”
ฐานใหญ่มาจากแฟนเพจซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 5 ล้านคนในขอบเขตทั่วประเทศ
ต่อมาคือ “กองทุนพัฒนาสตรีเขตบึงกุ่ม”
ต่อมาคือ กลุ่มเนกซ์ โรงเรียนอาหารนานาชาติมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต
ต่อมาคือ กลุ่มราชบุรี กลุ่มเพชรบุรี
ความโน้มเอียงอันเด่นชัด คือ ความโน้มเอียงจากความริเริ่มของ “กลุ่มสตรี”
ไม่เพียงแปร”ข้าวสาร” หากยังเป็นการ”แปรพลัง”
แปรพลังของ “สตรี” พลังของ”แม่บ้าน”เข้าสู่สนาม “การเมือง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน